กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงที่หลายคนชื่นชอบและนำมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา โดยเฉพาะ กระต่ายฮอลแลนด์ลอป เพราะเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิมอย่างมาก ด้วยลักษณะที่มีรูปร่างเล็ก แต่ลำตัวแน่น กลม หัวสั้น มีหูตกเป็นเอกลักษณ์ มีขนยาวปานกลาง จึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการดูเป็นพิเศษ ส่วนนิสัยก็จะเรียบร้อย ขี้อาย วันนี้เราจะพาคุณไปดู 5 สัญญาณบ่งบอกว่ากระต่ายฮอลแลนด์ลอปกำลังป่วยกันว่ามีอะไรบ้าง เพื่อให้คุณสามารถดูแลและพากระต่ายไปรักษาได้ทันเวลานั่นเอง
5 สัญญาณ กระต่ายฮอลแลนด์ลอป กำลังป่วย
อาการที่บ่งบอกว่า กระต่ายฮอลแลนด์ลอป กำลังป่วย ที่คุณจะต้องหมั่นสังเกตบ่อยๆ มีดังนี้
1.ไม่ร่าเริง อ่อนแอ กินอาหารน้อยลง
หากกระต่ายกำลังป่วยหรือเริ่มมีอาการป่วยสามารถสังเกตได้ไม่ยาก เพราะอาการแรกที่จะแสดงออกมาเลยให้เห็นได้อย่างชัดเจนั่นก็คือ จะไม่ร่าเริง ไม่สนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ รู้สึกอ่อนแอ ซึ่งอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับกระต่ายทุกตัว โดยคุณสามารถสังเกตได้ไม่ยาก เพราะกระต่ายจะแสดงอาการชัดเจนอยู่แล้ว หรือสังเกตได้จากอาหาร น้ำ ที่ให้เขากินในแต่ละวัน หากยังเหลือปริมาณที่เท่าเดิมนั่นก็อาจหมายความว่า กระต่ายกำลังป่วย
2.แต่งขนลดลง
ให้คุณสังเกตดูว่ากระต่ายที่มีสุขภาพที่ดีนั้นจะมักดูแลตัวเองให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะที่บริเวณอุ้งเท้าหรือที่เท้าเขาจะจัดการอุจจาระที่เปื้อนให้สะอาดทันที หรือขนที่เป็นสังกะตังได้ด้วยตนเอง แต่หากคุณสังเกตเห็นว่าเขาไม่เป็นเช่นที่เคยเป็นในทุก ๆ วัน ไม่ทำความสะอาดตนเองหรือทำความสะอดาตนเองน้อยลง นั่นอาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากระต่ายกำลังป่วยอยู่ก็ได้
3.หัวเอียง
สำหรับอาการหัสเอียงคือการที่ตำแหน่งของหูและตาไม่อยู่ในระนาบเดียวกัน ซึ่งอาการนี้อาจจะเกิดขึ้นได้โดยเฉียบพลัน ซึ่งหากกระต่ายของคุณมีอาการลักษณะดังกล่าวบ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบความคุมการทรงตัว ซึ่งหากมองด้วยตาเปล่าก็จะเห็นได้ชัด จึงควรหมั่นสังเกตบ่อย ๆ ว่ากระต่ายของคุณหัสเอียงหรือไม่เพื่อที่จะสามารถรักษาได้ทันเวลานั่นเอง
4.มีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
อาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจนี่ก็คือ มีน้ำมูก , จาม , อ้าปากหายใจ , หายใจลำบาก ซึ่งหากคุณสังเกตเห็นกระต่ายของคุณมีอาการดังกล่าวให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที เนื่องจากเป็นอาหารเฉียบพันจึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยด่วน
5.ไม่มีอุจจาระ หรืออุจจาระไม่กลมขนาดเท่ากัน หรือมีปริมาณที่น้อย
อาการนี้เป็นอาหารที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากที่กระต่ายไม่กินอาหาร ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานน้อยลง การบีบตัวของระบบทางเดินอาหารก็น้อย โดยส่วนใหญ่อาการนี้มักจะมีสาเหตุมาจากการกินอาหารที่มีไฟเบอร์น้อยเกินไป ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟัน และอื่น ๆ อีกมากมายตามมาเยอะมาก
วิธีดูแลเมื่อกระต่ายป่วย
เราสามารถดูแลกระต่ายเมื่อป่วยได้ง่าย ๆ โดยเริ่มแรกให้คุณประเมินอาการก่อนเลยว่าเขาน่าจะมีอาหารป่วยจริงหรือไม่ โดยสังเกตได้จากอาการต่าง ๆ ที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น หากพบว่าเขามีอาหารป่วยจริงและไม่สามารถรักษาได้ด้วยตนเองอาจจะด้วยเหตุไม่มีความรู้หรือ หรือไม่รู้ว่าจะรักษาอย่างไรให้คุณนำเจ้าหระต่ายไปพบสัตวแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์ได้ทำการตรวจอย่างละเอียดจนรู้ว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นมาจากสาเหตุอะไร และเพื่อจะได้ให้การรักษาได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอน ดังนั้นเมื่อคุณเริ่มสังเกตเห็นว่าเจ้ากระต่ายกำลังป่วยไม่ควรละเลยเด็ดขาด ควรนำไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที จากนั้นก็ดูแลตามคำแนะนำให้เหมาะสมเพื่อให้เจ้ากระต่ายสามารถฟื้นตัวได้ดีจนหายเป็นปกติ
ป้องกันไม่ให้กระต่ายป่วยได้อย่างไร
คุณสามารถป้องกันไม่ให้กระต่ายป่วยได้ง่าย ๆ คือจะต้องให้ความใส่ใจ และดูแลให้ดี ทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- เลี้ยงกระต่ายในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงแหล่งเชื้อโรค ที่มีหาพะของเชื้อโรคต่าง ๆ อากาศที่ร้อนชื้น หรือไม่มีการะบายที่ดี
- ให้กินอาหารที่สะอาดไม่ว่าจะเป็นน้ำหรืออาหารต่าง ๆ เพราะหากคุณปล่อยให้กินอาหารที่มีสิ่งเจอปนจะทำให้เป็นพิษต่อกระต่ายได้ เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกอาหารที่เหมาะสมให้กระต่ายกิน และหมั่นทำความสะอาดภาชนะ กรงและบริเวณโดยรอบให้สะอาดอยู่ตลอดเวลาด้วย
- เลือกซื้อกระต่ายที่มีสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดโรคมาก่อน เพื่อการมีสุขภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
- หมั่นพาไปตรวจสุขภาพประจำปีบ่อย ๆ เพื่อจะได้รู้ว่าเจ้ากระต่ายของคุณมีความเสี่ยงในเรื่องใดบ้าง และจะได้สามารถดูแลรักษาได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย
- ไม่ควรรักษากระต่ายเองเมื่อรู้ว่ากระต่ายป่วย เพราะการรักษาของคุณอาจจะทำให้กระต่ายป่วยหนักกว่าเดิมที่สำคัญต้องไม่ให้ยาเองเพราะอาจะเป็นอันตรายต่อกระต่ายได้
เพื่อให้เจ้ากระต่ายมีชีวิตอยู่กับเราไปนาน ๆ คุณจะต้องหมั่นดูและเอาใจใส่ตลอดเวลา เพราะหากปล่อยปละละเลย คุณอาจจะไม่รู้เลยก็ได้ว่ากระต่ายของคุณป่วยอยู่และหากไม่ได้รับการรักษาทันทีอาจจะทำให้คุณต้องเสียกระต่ายไปได้ ดังนั้นเมื่อนำเขามาเลี้ยงแล้วก็ควรดูแลให้ เลือกอาหารที่เหมาะสมให้กิน เลือกเลี้ยงในสถานที่ที่เหมาะสม มีเวลาว่างให้เขาก็จะมีสุขภาพที่ดีและอยู่กับคุณไปได้นาน ๆ อย่างแน่นอน
อ่านสาระน้องหมาอื่น ๆ;