บลูเทอเรีย สุนัขพันธุ์เล็กน่ารักที่ใครเห็นเป็นต้องสะดุดตา ด้วยลักษณะรูปหน้าที่กลมแปลกน่ารักเหมือนรูปไข่ มีนิสัยขี้เล่นน่ารักหัวใจนักสู้ บูลเทอเรียเป็นสุนัขสายพันธุ์ผสมระหว่าง บูลด็อกและสายพันธุ์โอลด์ อิงลิช เทอเรีย จึงออกมาเป็นสายพันธุ์บูลเทอเรีย ซึ่งในบ้านเราจะไม่ค่อยคุ้นกับสุนัขสายพันธ์นี้สักเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีเลี้ยงกันอยู่บ้าง วันนี้เราเลยจะพามาทำความรู้จักเจ้าสุนัขสายพันธุ์บูลเทอเรียว่ามีลักษณะนิสัยอย่างไรพร้อมกับวิธีเลี้ยงดูสุนัขสายพันธุ์นี้อย่างถูกต้อง ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลยดีกว่า
รู้จักกับสุนัขสายพันธุ์ บลูเทอเรีย
ในช่วงปี ค.ศ 1835 สุนัขสายพันธุ์บูลเทอเรียได้ถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้น จากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างสุนัขสายพันธุ์บลูด็อก (Bull dog ) กับสุนัขสายพันธุ์ โอลอิงลิช เทอเรีย (Old English Terrier) หลังจากนั้นจึงได้สายพันธุ์ ที่เกิดจาก บูล และเทอเรีย และได้นำมาผสมกับสายพันธุ์สเปนิช พอยเตอร์ เพื่อให้ได้สุนัขสายพันธุ์ที่มีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น จึงได้กลายมาเป็นสายพันธุ์ บูลเทอเรียที่มีหัวใจนักสู้ มีความกล้าหาญชาญชัยถึงแม้ขนาดตัวจะเล็กแต่ก็มีหัวใจนักสู้อยู่เสมอ
และในช่วงท้ายศตวรรษที่ 19 สุนัขสายพันธุ์บลูเทอเรียถูกนำมาเลี้ยงที่ประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งแรกและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสังคมชนชั้นสูงโดยเฉพาะในกลุ่มดารา นักการเมือง และเศรษฐี เนื่องจากสุนัขสายพันธุ์นี้มีความน่ารักและมีนิสัยกล้าหาญ จากนั้นไม่นานสมาคม The America Kennel Club ได้นำมาขึ้นทะเบียนสายพันธุ์สุนัข ซึ่งเป็นที่จับตามองอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่ชื่นชอบสุนัข และบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างพลเอก จอร์จ สมิธ แพตตัน ยังเป็นหนึ่งในคนที่เลี้ยงดูสุนัขสายพันธุ์ บูลเทอเรีย อีกด้วย
ลักษณะนิสัย
สุนัขสายพันธุ์บูล เทอเรีย มีลักษณะนิสัยที่กล้าหาญไร้ซึ่งความกลัว รักเจ้าของมีความจงรักภักดี รักครอบครัว มีสัญชาตญาณใจนักสู้ด้วยสายพันธุ์ที่มาจาก บูลด็อก หวงอาณาเขตไม่ชอบคนแปลกหน้าเข้าใกล้ ซึ่งบางครั้งหากขาดการเอาใจใส่จากเจ้าของก็จะเกิดความระแวงไม่ยอมให้เจ้าของเข้าใกล้ การเลี้ยงดูสุนัขพันธุ์นี้จึงต้องคอยเอาใจใส่ให้มากและมีเวลาให้ สุนัขสายพันธุ์บูลเทอเรียเป็นสุนัขที่มีขนาดตัวไม่ใหญ่เท่าไหร่แต่หัวใจนักสู้นั้นใหญ่เกินขนาดตัว เพราะสุนัขพันธุ์นี้จะมีความรู้สึกว่าตัวเองมีขนาดที่ใหญ่เสมอจึงพร้อมที่จะสู้กับสุนัขสายพันธุ์อื่นที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าโดยไร้ซึ่งความกลัว อย่างไรก็ตามเจ้าของสุนัขสายพันธุ์บูลเทอเรีย ควรฝึกสุนัขให้เข้าสังคมตั้งแต่ยังเด็กเพราะต้องคอยกระตุ้นให้มีนิสัยที่คงที่สม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขแสดงความเป็นตัวของตัวเองหรือเอาแต่ใจ หากได้รับการฝึกเข้าสังคมจะช่วยให้สุนัขปรับตัวได้ดีไม่มีความก้าวร้าว เพื่อที่จะสามารถอยู่ร่วมกับเจ้าของอย่างมีความสุขและเชื่อฟังโดยที่ไม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมา
วิธีการเลี้ยงสุนัข บลูเทอเรีย
การเลี้ยงดูสุนัขสายพันธุ์บูลเทอเรียไม่ใช่เรื่องยากอะไรเพราะสุนัขสายพันธุ์นี้มีสุขภาพแข็งแรง เลี้ยงง่าย และมีอายุที่ยืนมากกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นแถมสามารถเลี้ยงได้ในสภาพอากาศที่ร้อนอย่างบ้านเราได้ การเลี้ยงดูสุนัขสายพันธุ์นี้จึงไม่ต้องห่วงในเรื่องของอาหารและสภาพอากาศเพราะสุนัขสายพันธุ์นี้สามารถปรับตัวได้ดี
1.อาหารสำหรับสุนัขบูลเทอเรีย
การให้อาหารสุนัขพันธุ์บูลเทอเรียขึ้นอยู่กับความเหมาะสมทั้งอายุและน้ำหนัก หากสุนัขมีร่างกายที่อ้วนเกินไปก็ควรควบคุมอาหารให้พอเหมาะ แต่ถ้าสุนัขยังเล็กและน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ก็สามารถให้อาหาร แบ่งออกเป็น 2 มือหลักคือ มือเช้าและมื้อเย็น และขณะที่ให้อาหารไม่ควรไปเล่นหรือดึงชามอาหารออกจากปากสุนัขเพราะอาจจะทำให้โดนกัดได้ เพราะสุนัขพันธุ์นี้มีความดุร้ายอยู่ในตัวควรระวังให้มากๆ
2.การดูแลสุนัขสายพันธุ์บูลเทอเรีย
สุนัขสายพันธุ์บูลเทอเรียเป็นสุนัขสายพันธุ์ขี้เล่นและมีพลังงานมากจึงต้องพาออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวันซึ่งการออกกำลังกายจะพาเดินเล่นหรือให้วิ่งเล่นตามสนามหญ้าก็ได้ แต่เนื่องจากสุนัขสายพันธุ์นี้มีกล้ามเนื้อมากจึงทำให้เหนื่อยง่ายจึงไม่ควรพาออกกำลังกายเป็นเวลานานๆ การออกกำลังกายจะทำให้สุนัขแข็งแรงและลดความเครียดและความก้าวร้าวลงได้และที่สำคัญจะทำให้หลับง่ายขึ้นในช่วงเวลากลางคืน
3.การเลี้ยงดูในบ้านที่มีเด็ก
สุนัขบูลเทอเรียเป็นสุนัขสายพันธุ์นักสู้จึงมีความก้าวร้าวอารมณ์ร้ายอยู่ในนิสัย หากอยากเลี้ยงดูสุนัขสายพันธุ์นี้เจ้าของจะต้องคอยระวังให้มากๆ ไม่ควรปล่อยเล่นกับเด็กๆ โดยลำพังหากไม่มีผู้ใหญ่ดูแล แต่สำหรับสุนัขที่ฝึกการเข้าสังคมมาดีแล้วอย่างถูกวิธีก็สามารถนำมาเล่นกับเด็กๆ และคนในครอบครัวได้
สุนัขสายพันธุ์บูลเทอเรียเป็นสุนัขที่มีความโดดเด่นด้วยรูปหน้าที่ไม่เหมือนใคร มีความแข็งแรงสามารถปรับตัวได้ง่ายกับทุกสภาพแวดล้อม แต่สิ่งที่น่ากังวลคือสุนัขสายพันธุ์นี้มีความดุร้ายและก้าวร้าว ผู้เลี้ยงจึงต้องคอยฝึกสอนให้เข้าสังคมตั้งแต่ยังเล็กเพราะจะช่วยลดความดุร้ายและก้าวร้าวลงได้ และหากต้องเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้กับบ้านที่มีเด็กผู้เลี้ยงจะต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดและคอยระวังให้มากๆ เพื่อความปลอดภัย
อ่านสาระน้องแมวอื่น ๆ เพิ่มเติม;