กระต่ายหูตก คือ กระต่ายสายพันธุ์ที่มีลักษณะโดดเด่น ไม่เหมือนใคร คือรูปทรงของหูที่เหมือนกระต่ายทั่วไป แต่ลักษณะหูจะตกลงมาก ไม่ตั้งขึ้นเหมือนกับบรรดาพี่น้องกระต่ายด้วยกัน ถือว่าเป็นสายพันธุ์พิเศษที่มีความแปลกใหม่พอสมควร โดยต้นกำเนิดจะมาจากกระต่ายสายพันธุ์ Holland Lop และแตกออกเป็นสายพันธุ์อื่นๆ ที่ผ่านการผสมพันธุ์กันมาอย่างหลากหลาย จนกลายมาเป็นสายพันธุ์หูตกที่ถูกขึ้นทะเบียนตามลักษณะของแต่ละสายพันธุ์ย่อย โดยสายพันธุ์หลักอย่าง Holland Lop นั้นมีประวัติความเป็นมาอย่างไร Box Meaww จะเล่าให้ฟัง ดังนี้
ความเป็นมาของสายพันธุ์กระต่าย
Holland Lop เป็นกระต่ายที่มาจากนักพัฒนาสายพันธุ์กระต่ายของชาวเนเธอร์แลนด์ ที่มีนามว่า นายแอนเดรียน เดอคอก ที่มีความชื่นชอบส่วนตัวในสายพันธุ์กระต่ายเนเธอร์แลนด์ ดวอฟและสายพันธุ์ French Lop จึงผสมพันธุ์สายพันธุ์กระต่ายรุ่นใหม่ออกมา จนกลายเป็น Holland Lop ที่มีลักษณะพิเศษ คือ หูตกลงมาและมีขนาดเล็กกว่ากระต่ายพ่อ-แม่สายพันธุ์ โดยการผสมพันธุ์นี้เริ่มต้นในช่วงฤดูหนาวของปี ค.ศ. 1949 เป็นการนำกระต่ายสายพันธุ์ French Lop เพศผู้ กับกระต่ายขาวเนเธอร์แลนด์ ดวอฟเพศเมียมาผสมพันธุ์กัน เพื่อให้กลายเป็นกระต่ายหูตกที่มีขนาดเล็กลงกว่าปกติ
แต่ใช่ว่าการผสมพันธุ์ครั้งนี้จะประสบความสำเร็จได้ทันที เพราะเมื่อเกิดการข้ามสายพันธุ์แล้วทำให้เกิดจุดด้อยต่างๆ ตามมาเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นได้ 2 ปี ในช่วง ค. ศ. 1951 จึงเกิดการผสมพันธุ์ระหว่างกระต่าย French Lop เพศเมียกับกระต่ายเนเธอร์แลนด์ ดวอฟเพศผู้สลับกัน แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะขนาดของกระต่ายทั้งสองสายพันธุ์นั้นค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร แต่ในสุดท้ายแล้วการผสมพันธุ์ครั้งนี้กลับประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าเป็นความพยายามในการผสมพันธุ์เพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่ต้องการเป็นครั้งที่ 3
เมื่อกระต่ายคลอดลูกออกมาแล้วได้ลูกตรงตามลักษณะที่นายแอนเดรียนต้องการ 6 ตัว แต่ทุกตัวกลับมีหูที่ชิดและตั้งตรง แต่ก็ถือว่าเป็นลักษณะเด่นของกระต่ายจากทางเนเธอร์แลนด์ ดวอฟที่ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ จากนั้นจึงนำกระต่ายเพศเมียจากคอกนี้ไปผสมกับสายพันธุ์อิงลิช ลอปเพศผู้อีกครั้ง จนกระทั่งได้ลูกกระต่ายออกมาอีก 5 ตัว ความพิเศษของคอกนี้คือมีตัวเมีย 1 ตัว เป็นหูตก อีก 2 ตัวเป็นกระต่ายหูตั้ง และอีก 2 ตัวกลายเป็นกระต่ายหูตก 1 ข้างและตั้ง 1 ข้าง จากนั้นเขาจึงได้ทำการผสมข้ามสายพันธุ์อีกครั้งแต่ผลที่ออกมาคือกระต่ายทุกตัวไม่ติดลูก เพราะอาจจะเป็นจุดด้อยจากสายพันธุ์ที่ถูกข้ามมานั่นเอง
แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จในหลายครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็ได้ทำการทดลองผสมพันธุ์อีกครั้ง จนกระทั่งได้ลูกกระต่ายหูตกในจำนวนที่มากขึ้นและมีขนาดตัวที่เล็กลงเรื่อยๆ จนกระทั่งในช่วงปี ค.ศ. 1955 กระต่ายต้นแบบ Holland Lop ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีและมีน้ำหนักตัวที่ประมาณ 3 กิโลกรัม ในช่วงเดือนมกราคมปี ค.ศ. 1964 กระต่ายแคระสายพันธุ์ Holland Lop ได้ผ่านมาตรฐานและได้การรับรองสายพันธุ์จากสภากระต่ายของประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นที่เรียบร้อย โดยกระต่ายที่ถูกนำมาตรวจสอบและทำให้ได้มาตรฐานสายพันธุ์ที่ดี มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 2 กิโลกรัม จากนั้นไม่นานกระต่ายแคระหูตกในสายพันธุ์ Holland Lop ของนายแอนเดรียนได้ถูกนำเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงปี ค.ศ. 1976 และได้รับความนิยมสูง จนกลายเป็นสายพันธุ์ที่ถูกยอมรับในสมาคมพัฒนาพันธุ์กระต่ายของประเทศสหรัฐอเมริกา จนสามารถเข้าไปชนะงานประกวดกระต่ายสวยงามได้ในช่วงปี ค.ศ. 1980
อ่านสาระน้องกระต่าย เพิ่มเติม;
- มาดูกันว่า กระต่ายมีพันธุ์อะไรบ้าง ที่เป็นที่นิยมสุดๆ [2020]
- “กระต่ายพันธุ์” พันธุ์ไหนบ้างที่เป็นที่นิยมในหมู่คนรักกระต่าย [2020]
- ดูเพศกระต่าย ดูยังไงนะ? [มารู้จักวิธีการดูเพศกระต่ายกันดีกว่า]
- ฮอลแลนด์ลอป กระต่ายที่หากใครได้ลองเลี้ยงแล้วจะต้องหลงรัก
- กระต่ายขนร่วง ไม่รู้จะทำยังไงดี เรามีคำตอบ
- รักษาอย่างไรดีเมื่อน้อง กระต่ายขนร่วง เรามีคำแนะนำมาฝาก
- พัฒนาการลูกกระต่าย และวิธีการดูแลลูกกระต่ายเบื้องต้น
จุดเด่นของกระต่ายหูตก Holland Lop
สำหรับกระต่ายหูตก Holland Lop จะมีจุดกําเนิดของสายพันธุ์ที่แท้จริงในประเทศฮอลแลนด์ และการผสมพันธุ์ของสายพันธุ์นี้เป็นการกลายพันธุ์ที่มีการข้ามสายพันธุ์มาอย่างหลากหลาย ทำให้เกิดเป็นลักษณะเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร คือ
- หูทั้งสองข้างจะตกลงมาแนบข้างศีรษะและบางตัวอาจหูยาวตกลงมาถึงพื้น แต่โดยมาตรฐานสายพันธุ์แล้วหูจะตกลงมาพอดีกับศีรษะและไม่ยาวมากจนเกินไป
- Holland Lop ตามมาตรฐานสายพันธุ์ดั้งเดิม จะเป็นกระต่ายที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักโตเต็มที่จะมีเพียงแค่ 1.5-2 กิโลกรัมเท่านั้น
- สีของ Holland Lop จะมีเพียงแค่ 2 สีมาตรฐาน คือ สีเทาล้วนและสีลายเหลืองหรือออกสีทอง ซึ่งทั้งสองสีนี้จะเป็นสีโทนเดียวกันทั้งตัวจะไม่มีแต้มใดๆ
- ขนของ Holland Lop จะมีลักษณะเป็นขนสั้นที่หนานุ่ม 2 ชั้น เป็นขนแบบแนบติดตัว เมื่อลูบขนแบบย้อนขึ้นมา ขนก็จะกลับเข้าที่ทันที
- ลักษณะของศีรษะจะมีรูปทรงกลมใหญ่ มีหน้าสั้นและใบหูจะยาวแนบกับข้างของศีรษะ ส่วนความยาวของหูจะตกลงมาถึงพื้นพอดี ตำแหน่งของหูจะอยู่ตรงช่วงบริเวณตำแหน่งเดียวกับดวงตา สำหรับลำตัวจะเป็นรูปทรงรีคล้ายไข่
- ลักษณะกล้ามเนื้อของ Holland Lop จะมีกล้ามเนื้อที่ค่อนข้างแน่น เพราะเป็นกระต่ายที่มีความแข็งแรง กินเก่ง และชอบกระโดดไปมาเพื่อออกกำลังกาย
- นิสัยที่โดดเด่นของฮอลแลนด์รอบ คือ เป็นกระต่ายสายพันธุ์ฉลาด สามารถฝึกได้ เป็นกระต่ายขี้อ้อนและติดเจ้าของ มีนิสัยที่ค่อนข้างเรียบร้อย ไม่ซน แต่ฉลาดมาก และเป็นกระต่ายที่สามารถจดจำชื่อของตัวเองได้อีกด้วย
4 สายพันธุ์เด่นของกระต่ายหูตกสุดน่ารัก ที่คุณสามารถเลือกรับไปเลี้ยงได้ที่บ้าน
สำหรับสายพันธุ์กระต่ายที่เหมาะแก่การนำไปเลี้ยงที่บ้าน ก็มีดังนี้
สายพันธุ์ Holland Lop
เป็นสายพันธุ์กระต่ายหูตกที่มีขนาดเล็กที่สุดในตระกูล Lop มีจุดเด่นเรื่องของศีรษะขนาดเล็กมีหัวกลมโต น้ำหนักตัวน้อย และมีลำตัวที่ค่อนข้างสั้น ส่วนหัวจะสั้นที่สุดในตระกูล มีหลากหลายสีให้เลือก ที่สำคัญคือเป็นกระต่ายที่มีความฉลาดและเป็นมิตรกับผู้คนมากที่สุด สามารถจดจำชื่อตัวเองได้และยังมีนิสัยที่เป็นมิตร ขี้เล่น ช่างอ้อน ตัวโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักเพียงแค่ 1.5 กิโลกรัมหรือสูงสุดจะอยู่ที่ 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย เพราะมีลักษณะเด่นของหูที่ตกลงมาและมีตัวขนาดเล็กที่เลี้ยงง่าย สามารถใส่กระเป๋าใส่สัตว์เลี้ยงเพื่อพกพาไปตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก แม้ว่าตัวจะเล็กแต่หุ่นแข็งแรง สุขภาพดี ขนสั้น เลี้ยงง่าย ส่วนขนจะมีขนที่นุ่มลื่นและคืนตัวง่ายที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของกระต่ายสายพันธุ์นี้ด้วยเช่นกัน
สายพันธุ์ French Lop
เป็นสายพันธุ์แท้และดั้งเดิมของกระต่ายหูตก ที่สำคัญคือมีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในตระกูล โดยถือกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ แต่ทางประเทศฝรั่งเศสนำกระต่ายสายพันธุ์นี้มาพัฒนาต่อ จนกลายเป็นสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ไม่เหมือนใคร และกลายเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าตัวใหญ่แต่มีนิสัยขี้เล่น ชอบการวิ่งเล่นกับกระต่ายด้วยกัน เข้าสังคมง่ายและมีนิสัยที่ค่อนข้างรักสงบ เรียบร้อย โดยน้ำหนักตัวจะสูงถึง 8 กิโลกรัมเลยทีเดียว โดยเฉพาะในตัวโตเต็มวัยน้ำหนักอาจสูงได้ถึง 10 กิโลกรัมอีกด้วย สำหรับขนนั้นจะเป็นลักษณะของขนปุยฟูนุ่มลื่นและเป็นขนสั้นแบบ 2 ชั้น ส่วนหูจะตกยาวลงมาจนถึงพื้น นอกจากนี้ยังมีการนำกระต่ายสายพันธุ์นี้ไปผสมกับ Fuzzy Lop และ Holland Lop จนกระทั่งได้เป็นสายพันธุ์แองโกล่าที่มีขนยาวขึ้นและมีหน้าตาที่น่ารัก ตัวกลม มีกล้ามเนื้อแน่น โครงสร้างใหญ่ และมีขนปกคลุมทั่วร่างกาย โดยขนจะยาวได้มากถึง 2 นิ้วเลยทีเดียว
สายพันธุ์มินิลอป
โดยจะมีต้นกำเนิดมาจาก German Big lop และ Small Chinchilla ที่ถูกผสมข้ามสายพันธุ์ในช่วงปี ค.ศ. 1972 น้ำหนักตัวของสายพันธุ์นี้จะมี 3.6 กิโลกรัม รูปร่างเพรียวแต่ตัวใหญ่ ใบหูที่ตกลงมาจะหนาและใบหูสั้น มีลักษณะที่คล้าย Holland Lop ผสมกับ German Big lop ส่วนสีของขนจะเป็นสีเข้มตลอดทั้งตัวและออกสีน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ สายพันธุ์นี้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นสายพันธุ์ใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1974 และมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้เล็กลงเรื่อยๆ เพื่อทำให้ดูน่าเลี้ยงและน่าสนใจ
ส่วนนิสัยของกระต่ายสายพันธุ์นี้จะค่อนข้างขี้เล่น เป็นมิตรกับผู้คน ชื่นชอบการเล่นสนุกสนาน ทั้งยังมีความฉลาดพอสมควร เป็นกระต่ายที่สามารถนำมาฝึกฝนได้ง่ายและสามารถจดจำชื่อของตัวเองได้เป็นบางครั้ง อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจ คือ สามารถแสดงออกถึงความไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบได้อย่างชัดเจนอีกด้วย สำหรับโครงสร้างของกระต่ายสายพันธุ์นี้ที่เห็นได้เด่นชัด คือ มีหัวกลมคล้ายลูกบาส มีหูที่นาและยาวเท่ากับทาง Holland Lop ส่วนหน้าผากกว้าง โครงสร้างกระดูกทั้งตัวจะหนาทั้งหมดและมีหน้าตาที่น่ารักใช้ได้เลยทีเดียวสายพันธุ์ American Fuzzy Lop
เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์กระต่ายหูตกขนาดเล็กหรือที่ถูกเรียกว่า Compact Type ซึ่งสายพันธุ์นี้จะจัดอยู่ในตระกูลกระต่ายแคระ เพราะนอกจากจะมีลักษณะของหูตกแล้วยังมีขาสั้น ตัวเตี้ย และมีขนาดตัวที่ค่อนข้างเล็ก แต่จะมีขนยาวสวย มีลักษณะของทรงหัวกลม ใบหน้ากลม หน้าสั้น แต่โครงสร้างของหัวและตัวจะค่อนข้างหนา มีฐานของหูที่กว้าง ส่วนใบหูจะหนาและแบน ที่สำคัญคือหูจะสั้นและเล็กจึงจะถูกตีว่าเป็นลักษณะที่ดี ซึ่งลักษณะเด่นของกระต่ายพันธุ์นี้ คือ ความเป็นกระต่ายแคระและหูตกแนบข้างแก้ม ส่วนขนนั้นสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ กระต่ายสายพันธุ์นี้เป็นการข้ามผสมพันธุ์กันจนได้มาซึ่งกระต่ายที่รวมจุดเด่นของทั้งความเป็นตัวเล็ก หูตก และความเป็นกระต่ายขนยาวแบบสายพันธุ์แคระได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว
กระต่ายหูตก ในยุคปัจจุบัน ยังมีอีกหลากหลายสายพันธุ์ที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นสายพันธุ์รุ่นใหม่ที่มีการผสมพันธุ์กันอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าสนใจและเป็นการผสมสายพันธุ์ที่ต้องการให้กระต่ายมีรูปทรงตัวกะทัดรัด มีนิสัยที่เข้ากับผู้เลี้ยงง่าย พร้อมด้วยความฉลาดที่มากขึ้น เพื่อทำให้กระต่ายสายพันธุ์นี้เป็นกระต่ายเลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ดังนั้นถ้าคุณชื่นชอบกระต่ายตัวเล็กที่มีความฉลาด มีนิสัยเรียบร้อย และเลี้ยงง่าย กระต่ายสายพันธุ์แบบหูตกถือว่าเหมาะสมกับคนมาก
อ่านสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม;
- หมาตาแฉะ เพราะอะไร จะรักษาและป้องกันได้อย่างไร
- รวมมิตรยอดฮิต แมวขนสั้น ที่คนไทยชอบเลี้ยง
- รู้ทันโรคไร ขี้เรื้อน รักษาอย่างไรเมื่อน้องหมาของเราเป็นโรคขี้เรื้อน
- วิธีเลี้ยงแมวให้อ้วน เลี้ยงยังไงให้มีสุขภาพที่ดีด้วย
- ช่วยด้วยครับ! หมาหายใจแรง [ผิดปกติหรือเปล่า]
- คนรักแมวต้องรู้ วิธีรักษาแมวท้องเสีย ทำได้อย่างไร?
- วิธีการเลี้ยงดูแล ลูกแมวเปอร์เซียแรกเกิด
- ทุกเรื่องที่คุณควรรู้ก่อนจะ เลี้ยงแมวเปอร์เซีย
- คู่มือ อาบน้ำหมา [พันธุ์เล็ก vs พันธุ์ใหญ่]
- มาทำความรู้จักกับ แมวแมงซ์ {Manx} กันดีกว่า