เชื่อว่าคนรักสุนัขส่วนมาก มักจะพาสุนัขตัวโปรดขึ้นมานอนบนที่นอนด้วยเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการนำสุนัขมานอนด้วยนั้นมีข้อดี คือ ทำให้สุนัขได้รับความอบอุ่นอย่างเพียงพอ มีความรักความใกล้ชิดกันมากขึ้น และเรายังรู้สึกปลอดภัยอีกด้วย แต่ ภัยเงียบ เลี้ยงสุนัขในห้องนอน นั้นมีมากจนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว โดยวันนี้เราจะมาบอกให้คุณได้รู้กันว่ามีอะไรบ้าง พร้อมด้วยวิธีป้องกันดังต่อไปนี้
อันตรายจากการนอนกับสุนัข
1. ขนสุนัข
ขนสุนัขเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จริงๆ เพราะสุนัขทุกตัวล้วนมีปัญหาการร่วงของขนเป็นจำนวนมากทุกวัน ซึ่งขนสุนัขจะไปติดอยู่ตามผ้าห่ม ที่นอน หมอน เสื้อผ้าและบางครั้งก็ลอยอยู่ในอากาศด้วย ขนสุนัขเมื่อโดนผิวหนังจะทำให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะคนที่แพ้จะเป็นผื่นแดงและคันด้วย นอกจากนี้ขนสุนัขยังทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้อีกด้วย ไม่ใช่ว่าสูดเอาขนสัตว์เข้าไปในปอดแล้วเกิดอาการภูมิแพ้ แต่โปรตีน น้ำลายหรือสเก็ดผิวหนังที่อยู่บนขนสุนัขต่างหากที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ แต่เราก็เรียกรวม ๆ ว่าขนสุนัข เพราะทุกอย่างที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้มักติดอยู่กับขนสุนัขนั่นเอง
โดยเมื่อขนสุนัขร่วงติดอยู่กับสิ่งของรอบตัวในห้องนอน เวลาที่เรานอนหลับ เราจะสูดดมเอาสิ่งเหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย ถือเป็นภัยเงียบจากการเลี้ยงสุนัขในห้องนอนที่อันตรายอย่างยิ่ง โดยในช่วงแรกอาจจะไม่มีอาการ เพราะเรายังได้รับในปริมาณไม่มาก และร่างกายยังมีภูมิคุ้มกันที่ดีอยู่ แต่ถ้าเราสูดดมไปเรื่อย ๆ นานวันเข้า ปริมาณที่ได้รับจะมากขึ้น ร่างกายรับไม่ไหวก็จะแสดงอาการภูมิแพ้ที่หนักขึ้นเรื่อย ๆ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล จามบ่อย และอาจจะรุนแรงถึงขั้นหายใจไม่ออก หอบและหลอดลมตีบได้
- การป้องกัน : จะต้องทำความสะอาดห้องด้วยเครื่องดูดฝุ่น เพื่อดูดขนสุนัขที่ติดอยู่ตามสิ่งของภายในห้องออกไปให้หมด โดยอาจทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
2. เห็บหรือหมัดตัวร้าย
เห็บหรือหมัดพบได้บนสุนัขแทบทุกตัว ซึ่งเห็บและหมัดนี้ถือว่าเป็นอันตรายมากสำหรับคนเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเข้าไปในร่างกายของคนเรา ผ่านทางหู และจมูก เพราะมันจะไปเกาะตามผิวหนัง ดูดเลือดและขยายพันธุ์สร้างความเสียหายให้กับอวัยวะภายใน แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว และยิ่งหากเรานำสุนัขมาไว้ในห้องนอนก็ยิ่งก่อให้เกิดอันตรายมากยิ่งขึ้น เพราะบางทีเห็บหมัดตัวเล็กๆ นี้อาจนำพาโรคมาสู่เจ้าของได้อีกด้วย ซึ่งก็จัดว่าเป็นอีกหนึ่ง ภัยเงียบ เลี้ยงสุนัขในห้องนอน ที่ต้องระวังมากทีเดียว
- การป้องกัน : เราสามารถป้องกันได้ ด้วยการนำสุนัขไปฉีดยากำจัดเห็บหมัดเป็นประจำตามที่หมอนัด เพียงเท่านี้คุณก็ไม่ต้องกังวลแล้ว และสามารถพาสุนัขตัวโปรดเข้าห้องนอนได้อย่างสบายใจ
3. พยาธิจากสุนัข
สุนัขทุกตัวจะมีพยาธิ แต่ส่วนมากพยาธิจะถูกขับออกมาทางอุจจาระ ซึ่งบางครั้งเราก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับพยาธิเข้าสู่ร่างกายได้ เพราะไข่พยาธิมักจะติดตามขนหรือผิวหนังของสุนัขที่บริเวณสะโพกและบั้นท้าย หากเราไปจับหรือกอด ไข่พยาธิอาจจะติดมือมา เมื่อนำมามาขยี้หรือจับอวัยวะ เช่น ตา จมูก ปาก โดยที่ไม่ได้ล้างมือก่อน ไข่พยาธิก็จะเข้าสู่ร่างกายของเรานั่นเอง
- การป้องกัน : เจ้าของสามารถป้องกันได้ โดยการพาสุนัขไปฉีดวัคซีนกันพยาธิและถ่ายพยาธิเป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขมีพยาธิ เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องกังวลแล้วล่ะ
4. เชื้อไวรัสจากสุนัข
โดยปกติแล้วสุนัขจะชอบเลียเจ้าของ เพื่อแสดงถึงความรักความผูกพันธ์ที่มันมีต่อเจ้าของนั่นเอง ซึ่งในร่างกายของสุนัจจะมีเชื้อไวรัสอยู่หลายชนิดที่ยังไม่แสดงอาการ โดยเฉพาะโรคพิษสุนัขบ้าที่สามารถติดมาสู่คนและเป็นอันตราย ซึ่งมักจะติดมากับน้ำลายของสุนัขและแพร่มาสู่คนด้วยการเลีย แต่จะให้ทำยังไงได้ เพราะการเลียถือเป็นการแสดงความรักที่สุนัขมีแต่เจ้าของ จะห้ามไม่ให้เลียก็คงไม่ได้จริงไหม
- การป้องกัน : เราสามารถป้องกันเชื้อไวรัสไม่ให้มีในสุนัขได้ด้วยการพาไปฉีดวัคซีนให้ครบ โดยเฉพาะวัคซีนพิษสุนัขบ้าที่ต้องฉีดเป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขเป็นโรคพิษสุนัขบ้าและป้องกันการแพร่เชื้อพิษสุนัขบ้ามาสู่ตัวเราด้วย
อ่านเพิ่มเติม : “จัดอันดับ 5 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะกับมือใหม่หัดเลี้ยง !”
5. เชื้อรา
เชื้อราเป็นอีกหนึ่งเชื้อโรคที่มักแอบอยู่กับสุนัขตัวโปรดของเรา โดยเฉพาะสุนัขที่มีขนยาว ขี้ร้อน เหงื่อออกมาก โดยเชื้อราจะสะสมอยู่บนผิวหนังทีละน้อยจนทำให้เกิดโรคผิวหนังในที่สุด ซึ่งเชื้อรานี้สามารถแพร่มาสู่คนได้ โดยจะทำให้เกิดอาการคัน มีผื่นแดงเป็นวงกลมและกลายเป็นแผลคล้ายกับแผลที่เกิดขึ้นบนผิวหนังของสุนัข ยิ่งหากนำสุนัขมาเลี้ยงในห้องนอนด้วยแล้ว ก็นับว่าเสี่ยงเป็นอันตรายอย่างมากเลยทีเดียว ดังนั้น หากต้องการเลี้ยงจริงๆ ก็ต้องรับมือภัยเงียบที่อาจจะเกิดขึ้นนี้ไปพร้อมกันด้วย
- การป้องกัน : เราสามารถป้องกันการติดเชื้อราในสุนัขได้ง่ายๆ ด้วยการอาบน้ำสุนัขเป็นประจำ เพื่อรักษาความสะอาด สำหรับสุนัขขนยาวหลังจากอาบน้ำแล้วควรเป่าตัวให้แห้งทุกครั้ง และไม่ควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้มีเหงื่อสะสมเป็นแหล่งเกิดเชื้อราได้นั่นเอง
จะเห็นว่าการนำสุนัขมาเลี้ยงในห้องนอนถึงแม้จะมีข้อดีอยู่หลายอย่าง แต่ก็มีอันตรายต่อเจ้าของอยู่ไม่น้อย ดังนั้นหากต้องการเลี้ยงสุนัขในห้องนอนให้ปลอดภัย จะต้องนำสุนัขไปฉีดวัคซีนให้ครบและต่อเนื่องทุกปี ดูแลทำความสะอาดร่างกายของตัวเองและสุนัขเป็นประจำ เท่านี้การเลี้ยงสุนัขในห้องนอนก็จะปลอดภัย ลดปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้แล้ว
อ่านสาระน้องหมาอื่น ๆ เพิ่มเติม