
เห็บเป็นปัญหาที่น่าหนักอกหนักใจของคนเลี้ยงสัตว์ เพราะไม่ได้เป็นเพียงสิ่งรบกวนให้เกิดความรำคาญเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงอีกด้วย ในสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างเมืองไทยนั้นมีโอกาสอย่างมากที่สัตว์เลี้ยงจะถูกรบกวนด้วยเห็บมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ ดังนั้นจึงต้องใช้ ยาหยอดเห็บ เพื่อกำจัดอย่างรีบด่วน ซึ่งยาหยอดเห็บเหล่านี้มีส่วนผสมอะไรบ้าง มีสิ่งใดที่เป็นอันตรายหรือต้องระวังเป็นพิเศษหรือไม่ และมีวิธีการเลือกอย่างไร มาดูรายละเอียดในหัวข้อต่างๆ ของบทความนี้กัน
ทำความรู้จักกับเห็บ ก่อนจะเลือกใช้ ยาหยอดเห็บ
เห็บเป็นสัตว์ปรสิตชนิดหนึ่งที่มักเกาะอยู่กับสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังอย่างg=jo นก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และสัตว์เลื้อยคลานซึ่งจำเป็นต้องกินเลือดสัตว์เหล่านั้นเพื่อการดำรงชีวิต เห็บสามารถอยู่ได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น และถือเป็นปัญหาอย่างมากในด้านสาธารณสุขและอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ รวมถึงส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงสัตว์ตามบ้านที่หนีไม่พ้นการรบกวนของเห็บเหล่านี้เช่นเดียวกัน เพราะนอกจากจะทำให้เกิดอาการคันและผิวหนังอักเสบแล้ว มันยังสามารถแพร่กระจายเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกายสัตว์ที่ถูกกัดทั้งเชื้อไวรัส, แบคทีเรีย rickettsiae และโปรโตซัว ที่เป็นสาเหตุของโรคอื่นๆ ตามมา
บริเวณที่ถูกเห็บกัดจะทำให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบเฉพาะที่ , การติดเชื้อแบคทีเรียทุติยภูมิ หรือการบุกรุกโดยแมลงวัน โดยเห็บบางชนิดมีสารพิษที่ทำให้เป็นอัมพาตในน้ำลายที่อาจทำให้สัตว์ที่ได้รับผลกระทบถึงตายได้ ดังนั้นเห็บจึงไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ ที่มองข้ามไปได้เลย
การกำจัดเห็บสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ใช้กันมากคือการใช้ยาหยอดเห็บ ซึ่งใช้หยอดบนผิวหนังบริเวณคอของแมวหรือสุนัขที่สามารถป้องกันเห็บได้เป็นเวลาประมาณ 30 วัน ซึ่งยาหยอดกำจัดเห็บนี้มีการทำงานอย่างไร มีข้อควรระวังอะไรบ้าง สามารถดูรายละเอียดได้ในหัวข้อถัดไป
ยาหยอดเห็บ สามารถป้องกันเห็บได้อย่างไร
ยาหยอดเห็บเป็นสารป้องกันเห็บเฉพาะที่ มีลักษณะเป็นของเหลวที่ใช้ภายนอกกับสุนัขและแมวเพื่อป้องกันหมัด เห็บ และแมลงที่เป็นอันตรายอื่นๆ การทำงานของยานี้จะมีการแพร่กระจายผ่านเส้นผมและน้ำมันในร่างกายตามธรรมชาติของผิวหนังของสัตว์เลี้ยง เมื่อเห็บสัมผัสกับขนหรือผิวหนังก็จะตาย ซึ่งส่วนผสมทั่วไปของยาหยอดเห็บเฉพาะที่ส่วนใหญ่เป็นสารพิษต่อระบบประสาทของแมลง ซึ่งฆ่าเห็บโดยมุ่งเป้าไปที่การทำงานของระบบประสาท ส่งผลให้เกิดอัมพาตและตายในที่สุด
ยาหยอดเห็บและหมัดบางชนิดยังมีสารควบคุมการเจริญเติบโตของแมลง (IGR) เพื่อควบคุมไข่ที่อาจรอดจากการให้ยาครั้งแรก ซึ่ง IGRs จะขัดขวางวงจรชีวิตตามธรรมชาติที่ลดการรบกวนใหม่ของเห็บ ซึ่งยาหยอดเห็บเหล่านี้ใช้งานได้สะดวกและยังมีประสิทธิภาพในการทำงานแม้ว่าสัตว์เลี้ยงจะโดนฝนหรืออาบน้ำก็ตาม
ยาหยอดเห็บหมัด มีสารเคมีชนิดไหนเป็นส่วนประกอบบ้าง
สารเคมีที่เป็นส่วนประกอบของยาหยอดเห็บเฉพาะที่ที่ใช้กันมากที่สุด มีอยู่ด้วยกันหลายชนิดดังต่อไปนี้
1.ฟิโพรนิล (Fipronil)
เป็นสารเคมีที่มีการทำงานโดยการโจมตีระบบประสาทของเห็บที่ทำให้พวกมันเป็นอัมพาตและตายในที่สุด ฟิโพรนิลจะกระจายไปทั่วตัวแมวหรือสุนัขผ่านทางน้ำมันในร่างกายโดยใช้เวลาประมาณหนึ่งวันและจะยังคงทำงานอยู่ได้โดยปกติประมาณหนึ่งเดือน โครงสร้างทางเคมีของฟิโพรนิล มีแนวโน้มที่จะจับกับปลายประสาทของแมลงมากกว่าสัตว์อื่นๆ ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในการฆ่าแมลง แต่ปริมาณฟิโพรนิลที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ หากสัมผัสกับสารเคมีดังกล่าวในปริมาณมาก การสัมผัสกับฟิโพรนิลอาจมาจากการสัมผัสทางผิวหนัง สัมผัสกับดวงตา การสูดดมหรือการบริโภค แม้ว่าปริมาณที่ใช้เป็นยาหยอดเห็บสำหรับสัตว์เลี้ยงอาจมีไม่มากนักแต่ผู้ใช้ต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังจากใช้ยาหยอดเนื่องจากอาจเผลอไปจับส่วนต่างๆของใบหน้าหรือหยิบจับอาหารที่ทำให้เกิดการรับประทานสารดังกล่าวเข้าร่างกายไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
อาการที่เกิดขึ้นเมื่อสัมผัสกับฟิโพรนิลในปริมาณมากคือเกิดการระคายเคืองผิวหนัง แต่การรับประทานฟิโพรนิลเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะและเหงื่อออก และปวดศีรษะหรือชักได้ แต่ส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บจะมีส่วนประกอบของฟิโพรนิลจำนวนไม่มาก สามารถสลายตัวบนดินภายใน 125 วันเมื่อโดนแสงแดดและไม่ละลายในน้ำ ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกของยาหยอดเห็บหมัดที่มีความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงและสิ่งแวดล้อม
2.อิมิดาโคลพริด (Imidacloprid)
เป็นส่วนผสมที่ใช้ในยาหยอดเห็บที่ทำหน้าที่ในการรบกวนระบบประสาทส่วนกลางของเห็บซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการควบคุมการเคลื่อนไหว ทำให้เห็บเป็นอัมพาตและตายในที่สุด สารชนิดนี้ไร้สีแต่มีกลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่รุนแรง ได้รับการยอมรับว่าเป็นสารที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะมีความเป็นพิษน้อย จึงสามารถใช้กับสัตว์เลี้ยงได้อย่างปลอดภัย แต่ทั้งนี้ก็ต้องระมัดระวังการกินและการหายใจเอาสารชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายมากเกินไป
สำหรับมนุษย์การกินหรือสูดดมอิมิดาโคลพริดเข้าไปเป็นจำนวนมากทำให้อาเจียน ท้องร่วง กล้ามเนื้ออ่อนแรง และถึงกับเสียชีวิตได้ ผลข้างเคียงอื่นๆ ที่พบได้บ่อยและรุนแรงกว่า ได้แก่ อาการเวียนศีรษะ กระสับกระส่าย และเหงื่อออก ผลกระทบเหล่านี้ยังพบเห็นได้ในสัตว์ที่กินเข้าไปหรือสูดดมผลิตภัณฑ์ด้วย ดังนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังในการใช้งานและการเก็บรักษาที่ต้องอยู่ในที่ที่พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
3.ไพรีทรอยด์ (Pyrethroids)
เป็นสารผสมในยาหยอดเห็บที่มีความแตกต่างจากสารชนิดอื่นตรงที่เป็นสารที่สกัดมาจากดอกเบญจมาศจึงเป็นที่นิยมของจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แม้ว่าจะมีสารไพรีทรอยด์สังเคราะห์ที่ผู้ผลิตยาหยอดเห็บบางรายเลือกใช้เนื่องจากมีความเสถียรมากกว่าและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้กับแมวและมีข้อควรระวังอย่างมากในการใช้กับสุนัขขนาดเล็ก
สารไพรีทรอยด์มีความเป็นพิษกับแมว ดังนั้นจึงต้องห้ามใช้ยานี้ในบ้านที่มีแมว อย่างบ้านที่เลี้ยงสุนัขและแมวไว้ด้วยกันควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาหยอดเห็บที่มีส่วนผสมของสารนี้ ไพรีทรอยด์สามารถฆ่าเห็บได้ด้วยกระบวนการยับยั้งการทำงานของระบบประสาท ทำให้เห็บเคลื่อนไหวช้าลง เป็นอัมพาตและตายในที่สุด
ไพรีทรอยด์เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสุนัขเพียงเล็กน้อย เว้นแต่ว่ามีการใช้หรือกินเข้าไปในปริมาณมาก หากสุนัขได้รับสารนี้เข้าไปเป็นจำนวนมากจะมีอาการแสดงอย่างการพลิกอุ้งเท้า กระตุก หรือกลิ้งไปมาบนพื้น รวมไปถึงอาการชักและกล้ามเนื้อกระตุกได้ ส่วนมนุษย์ที่เผลอรับประทานสารนี้เข้าไปเป็นปริมาณมาก อาจมีอาการอาเจียน คลื่นไส้ และเจ็บคอและปวดท้อง การสูดดมอาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่ปอดและจมูก และทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ อาเจียน และเวียนศีรษะได้
เคล็ดลับในการเลือกยาหยอดเห็บให้เหมาะกับสัตว์เลี้ยง
- เลือกยาหยอดเห็บหมัดที่ทำขึ้นมาเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น ยาหยอดเห็บสุนัข , ยาหยอดเห็บแมว เป็นต้น โดยเฉพาะสารบางอย่างที่ใช้ได้กับสุนัขแต่เป็นพิษต่อแมว ต้องหลีกเลี่ยงการใช้งานในบ้านที่มีการเลี้ยงสุนัขและแมวรวมกัน
- ชั่งน้ำหนักสัตว์เลี้ยงเพื่อให้แน่ใจว่าได้ซื้อยาที่มีปริมาณยาถูกต้องเหมาะสมกับขนาดตัวของสัตว์เลี้ยง
- อย่าหยอดยาเห็บหลายประเภทรวมกัน เพราะอาจเป็นการใช้ยาเกินขนาดได้ ควรใช้ให้พอเหมาะตามปริมาณที่แนะนำเท่านั้น
- อย่าเพิ่งอาบน้ำสัตว์เลี้ยงก่อนหรือหลังการใช้ยาหยอดเห็บเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้ในประสิทธิภาพสูงสุด
- อ่านฉลากยาอย่างละเอียดและเลือกใช้ในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำ
การใช้ยาหยอดเห็บนั้นเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากในการกำจัดเห็บหมัดที่เข้ามารบกวนสัตว์เลี้ยง แต่ทั้งนี้ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวังเพราะยาดังกล่าวอาจมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ต่อสัตว์เลี้ยง ดังนั้นควรอ่านคู่มือการใช้ให้ละเอียดและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
อ่านสาระน้องหมา อื่น ๆ;