แมวเปอร์เซีย หรือ Persian Cat ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่คนไทยนิยมเลี้ยงดูเป็นอย่างมาก เพราะมีลักษณะขนยาว ดูน่ารัก อ้วนกลม และมีใบหน้าสั้น ตาโต ดูน่ารัก น่าฟัดเป็นอย่างมาก มาพร้อมนิสัยที่เป็นมิตร เข้ากับคนเลี้ยงและคนในครอบครัวได้ง่าย จึงทำให้แมวพันธุ์นี้เป็นที่รักของคนเลี้ยงแมวมาในทุกยุค ทุกสมัย ทำให้ต้องมีข้อมูลของ วิธีการเลี้ยงแมวเปอร์เซีย เบื้องต้นอย่างถูกต้องออกมาเพื่อให้ความรู้กับผู้ที่ต้องการเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้ เพื่อให้การนำมาเลี้ยงเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น
ต้นกำเนิดของแมวเปอร์เซีย
แมวเปอร์เซีย หรือ Persian Cat มีต้นกำเนิดมาจากประเทศตุรกีและประเทศอิหร่านในยุคปัจจุบัน โดยจะอยู่ในแถบของเปอร์เซียช่วงปี ค.ศ. 1684 โดยการถือกำเนิดของแมวเปอร์เซียนั้นมีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนว่าในอดีตคือแมวเปอร์เซียนที่มากับพ่อค้าทะเลทราย หรือที่เรียกกันว่าพ่อค้ากองคาราวานที่จะเป็นพ่อค้าจากตะวันตกของตุรกีกับอิหร่าน ทุกครั้งที่มีการเดินทางจะบรรทุกสินค้าเกี่ยวกับเครื่องประดับ, อัญมณี, เครื่องเทศ และของมีค่าต่างๆ เพื่อนำไปขายยังพื้นที่ของประเทศอื่นๆ ซึ่งหนึ่งในสินค้าที่มีราคาสูง คือ แมวเปอร์เซียพันธุ์ขนยาว ที่ไปถูกตากะลาสีนายหนึ่งบนเรือสินค้าเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาได้ซื้อแมวเปอร์เซียติดไปกับเรือสินค้าและเข้าสู่ทวีปยุโรป ทำให้แมวเปอร์เซียกลายมาเป็นแมวพันธุ์ขนยาวที่ได้รับความนิยมสูงในทวีปยุโรปและถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น Turkish Angora
ช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อชาวอังกฤษได้นำแมว Turkish Angora เข้ามาผสมพันธุ์กับแมวสายพันธุ์อื่นในประเทศ จึงเกิดเป็นแมวที่มีขนยาวมากกว่าปกติ พร้อมการปรับปรุงรูปร่างหน้าตาและสายพันธุ์ให้ดูดีมากขึ้นกว่าเดิม จนในที่สุดทางประเทศอังกฤษได้ขึ้นทะเบียนแมวสายพันธุ์นี้ในชื่อ Long Hair โดยจะมีชื่อต้นเป็นชื่อเดิม หลังจากนั้นไม่นานนักแมวพันธุ์เปอร์เซียได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้แมวสายพันธุ์นี้กระจายอยู่ทั้งในประเทศแถบยุโรปและในประเทศอเมริกามาอย่างยาวนานเป็นร้อยปี สำหรับประเทศอเมริกาแล้วจะเรียกแมวสายพันธุ์นี้ตามต้นกำเนิดเดิมว่าแมวเปอร์เซียน
ลักษณะของสายพันธุ์แมวเปอร์เซียที่คุณควรรู้
สำหรับแมวสายพันธุ์เปอร์เซียโดยพื้นฐานแล้ว จะมีรูปร่างขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ มีเอกลักษณ์เรื่องของกระดูกที่มีความแข็งแรงและเป็นแมวโครงสร้างใหญ่ รูปของศีรษะกับใบหน้าจะเป็นทรงกลม ส่วนหน้าผากกับโหนกแก้มจะ จะออกทรงแป้นกลม ส่วนดวงตาจะกลมโต หน้าสั้น มีจมูกที่หักงอเป็นเอกลักษณ์ เมื่อคุณมองแมวเปอร์เซียจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากที่ตัดกันได้อย่างชัดเจน
ส่วนลักษณะที่ตรงตามมาตรฐานของสายพันธุ์ที่ถูกระบุไว้คือ จมูกจะอยู่ในระดับเดียวกับดวงตา ส่วนโครงสร้างของลำตัวจะมีความสั้น ขาจะสั้นเตี้ย ส่วนหูจะเป็นหูทรงกลมปลายหูจะเป็นแบบกลมมน โดยจะมีตำแหน่งที่ห่างกันในขนาดที่พอเหมาะ ส่วนหางจะเป็นหางตรง ไม่มีรอยหักหรือคดแต่อย่างใด ส่วนขนจะเป็นขนแบบ 2 ชั้นยาวฟู ลักษณะการเดินจะสง่างามและดูดี สำหรับแมวเปอร์เซียในยุคปัจจุบันถูกพัฒนาสายพันธุ์มาจนแตกต่างจากต้นตำรับค่อนข้างมาก เพราะการพัฒนานี้ถูกปรับให้รูปลักษณ์มีความกะทัดรัดมากขึ้นและขนยาวกว่าเดิม พร้อมไปด้วยโครงสร้างที่มีความกลมและความใหญ่ขึ้น รวมไปถึงหน้าตาที่สั้นลงเรื่อยๆ เพื่อทำให้ดูน่ารักและถูกใจผู้เลี้ยงมากกว่าเดิม
อ่านสาระน้องแมวอื่น ๆ เพิ่มเติม;
รวมมิตรยอดฮิต แมวขนสั้น ที่คนไทยชอบเลี้ยง
ดีใจด้วย! คุณกำลังมีหลาน!! สัญญาณบอกเหตุน้อง แมวท้อง
คนรักแมวต้องรู้ โรค fip ภัยร้ายลูกรักของคุณ
13 สายพันธุ์น้องแมวที่ทำตัวหยั่งกับน้องหมา!
มาทำความรู้จักกับ แมวแมงซ์ {Manx} กันดีกว่า
สายพันธุ์ของแมวเปอร์เซีย
การแบ่งสายพันธุ์แมวเปอร์เซีย จะถูกแบ่งออกตามสีซึ่งจะมีทั้งหมดเป็น 7 สี ดังนี้
ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับสีของแมวเปอร์เซียได้เพิ่มเติมที่ Cat Breeds Jucntion คลิก!
สีแบบ Solid Color
จะเป็นแมวเปอร์เซียที่มีขนเป็นสีเดียวกันตลอดทั้งตัวและศีรษะ มาแบบเสมอกันทั้งหมดหรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นสีล้วน เช่น สีขาวล้วนบริสุทธิ์, สีเทาเข้มบริสุทธิ์, สีดำสนิท, สีแดงเข้ม, สีครีมเข้ม, สีช็อคโกแลตน้ำตาลเข้ม หรือสีออกลาเวนเดอร์ เป็นต้น
สีแบบ Silver และ Golden
สีในลักษณะนี้จะออกเป็นสีเขียวไปจนถึงสีเขียวออกน้ำเงิน ซึ่งถือว่าเป็นสีที่หาได้ค่อนข้างยาก
สีแบบ Shade and Smoke
ภายใน 1 ตัวจะมีสีขนกระจายไปถึง 3 สีด้วยกัน คือ สี Shell จะเป็นสีที่อยู่ตรงปลายขน สี Shade จะเป็นตรงส่วนของสีที่มีเป็นจำนวนมาก และสี Smoke คือ สีที่มีเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับสี Shade
สีแบบ Tabby
สีที่มีลวดลายผสมผสานอยู่ 2 แบบ คือ ลายคลาสสิกและลาย Mackerel
สีแบบ Parti
สีในสไตล์นี้จะมีเฉพาะในแมวเปอร์เซียเพศเมียเท่านั้น เพราะเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรมและทางโครโมโซมของตัวแมวเอง
สีแบบ Calico และ Bi-Color
สีขนทั่วไป แต่สีของตากับกลายเป็น 2 สี คือ ตาข้างหนึ่งเป็นสีฟ้าและอีกข้างเป็นสีแดงหรือสีส้ม ซึ่งความเข้มของสีตาจะเท่ากันทั้ง 2 ข้าง
สีแบบหิมาลายัน
สีลักษณะนี้คือการผสมกันข้ามสายพันธุ์ในระหว่างแมวเปอร์เซียกับแมววิเชียรมาศของประเทศไทย จนกลายเป็นแมวที่มีแต้มสีในแบบเดียวกับวิเชียรมาศและหน้ามีครอบหน้ากากเหมือนกัน พร้อมไปด้วยสีตรงขาทั้ง 4 ข้าง และตาสีฟ้าสดใสเหมือนกันทั้งหมด แต่ลักษณะลำตัวโดยรวมจะเหมือนทางแมวเปอร์เซีย
วิธีการเลี้ยงแมวเปอร์เซีย ที่ถูกต้องและทำให้น้องแมวมีความสุข
เนื่องจากแมวเปอร์เซียจัดเป็นน้องแมวที่น่ารักอย่างมาก หลายคนจึงนิยมเลี้ยง และสำหรับวิธีในการเลี้ยงน้องแมวเปอร์เซียที่ถูกต้องนั้น เจ้าของสามารถทำได้ดังนี้
แปรงขนวันละ 1-2 ครั้ง
แมวเปอร์เซียเป็นสายพันธุ์ที่มีขนยาวและขนหนาฟู จึงมีความจำเป็นที่จะต้องแปรงขนทุกวัน ดังนั้น วิธีการเลี้ยงแมวเปอร์เซียที่ถูกต้อง คือ การแปรงขนให้แมววันละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะในช่วงของคอ ขา และหลัง ที่ถือว่าเป็นจุดแมวเลียไม่ถึง เพื่อป้องกันขนพันกันและป้องกันไม่ให้แมวเลียขนมากเกินไป เพราะถ้าแมวเลียขนมากเกินไปจะแสดงให้เห็นถึงความกังวลของตัวแมวและอาจทำให้กระเพาะอุดตันเพราะก้อนขนได้ง่าย
อาบน้ำเป็นประจำ
วิธีการเลี้ยงแมวเปอร์เซียให้ถูกต้องอีกหนึ่งวิธี คือ การอาบน้ำเป็นประจำ แม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่รักษาความสะอาดและไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อย แต่กับสายพันธุ์เปอร์เซียจะต้องอาบน้ำอย่างน้อยที่เดือนละ 1-2 ครั้ง เพราะด้วยความที่มีขนยาวและขนฟู มีร่างกายที่ค่อนข้างอ้วนกลม จึงไม่สามารถที่จะดูแลความสะอาดของตัวเองได้อย่างทั่วถึง ดังนั้นเจ้าของจึงควรเป็นผู้ดูแลและทำความสะอาดแมวอยู่เสมอ เพื่อป้องกันเชื้อโรคกับเชื้อราที่มากับผิวหนังของน้องแมว
เช็ดคราบต่างๆ บนใบหน้าอยู่เสมอ
แมวเปอร์เซียจะมีคราบน้ำตาและคราบสกปรกที่ใบหน้าค่อนข้างมาก โดยเฉพาะคราบน้ำตาที่จะติดตรงช่วงบริเวณรอบดวงตากับขนใต้ตาที่มักจะมีเป็นจำนวนมาก ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะแห้งจนกลายเป็นสีดำและอาจก่อให้เกิดปัญหาตาอักเสบในอนาคตได้ ดังนั้นจึงควรเช็ดทำความสะอาดอยู่เสมอ โดยให้ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการเช็คดวงตาของแมวโดยเฉพาะ
มอบความรักให้เหมาะสม
วิธีการเลี้ยงแมวเปอร์เซียที่ถูกต้องอีกวิธี คือ การดูแลเอาใจใส่และแสดงความรักแก่แมวเปอร์เซียให้มาก เพราะแมวพันธุ์นี้จะชอบการอยู่คลอเคลียร์กับเจ้าของ ชอบให้เจ้าของเล่นด้วยหรือเอาใจเจ้าของอยู่เสมอ ถ้าคุณไม่สามารถแบ่งเวลาให้น้องแมวสายพันธุ์นี้ได้ จะทำให้น้องแมวเกิดอาการน้อยใจและอาจจะลุกลามไปจนถึงขั้นตรอมใจที่จะพาโรคภัยต่างๆ ตามมาได้ง่ายนั่นเอง
ดูแลเรื่องน้ำหนักให้ดี
วิธีการเลี้ยงแมวเปอร์เซียที่ถูกต้องที่สุด คือ การควบคุมน้ำหนัก เพราะแมวเปอร์เซียเป็นแมวที่มีโครงสร้างใหญ่และมักจะกินเก่ง จึงทำให้น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นคุณจึงควรดูแลเรื่องอาหารให้ดี พร้อมจัดตารางเวลาการให้อาหารอย่างเหมาะสม ไม่ควรให้พร่ำเพรื่อ ที่สำคัญคือควรกระตุ้นให้น้องแมวออกกำลังกายอยู่เสมอ เพราะแมวสายพันธุ์นี้มักจะไม่ค่อยขยับตัวเท่าที่ควร
เข้าใจโรคประจำสายพันธุ์ให้ดี
แมวเปอร์เซียจะมีโรคประจำตัว คือ โรคถุงน้ำในไต, โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ, โรคนิ่ว, โรคจอประสาทตาเสื่อม และโรคหัวใจที่ถือว่าเป็นโรคประจำตัวของแมวสายพันธุ์เปอร์เซียโดยเฉพาะ ดังนั้นคุณจึงควรพาน้องแมวของคุณไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจร่างกาย และขอรับคำแนะนำในการดูแลน้องแมวพันธุ์เปอร์เซียแล้วนำมาทำอย่างเคร่งครัด
แปรงฟันเป็นประจำ
วิธีการเลี้ยงแมวเปอร์เซีย ด้วยการแปรงฟันนั้นถือว่าเป็นวิธีที่ถูกต้อง เพราะแมวสายพันธุ์นี้จะติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่ควรเสี่ยงให้น้องแมวติดเชื้อที่ช่องปาก ควรทำการแปรงฟันด้วยยาสีฟันและแปรงของแมวโดยเฉพาะ ซึ่งควรจะต้องแปลงทุกวันก่อนนอน เพื่อลดการติดเชื้อช่องปากและให้น้องแมวอายุยืนยาวมากขึ้น
ต้องหมั่นเช็ดหู
แมวเปอร์เซียจะมีขนที่หูค่อนข้างยาวและทำความสะอาดตัวเองได้ยากกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ดังนั้นคุณจึงควรใช้สำลีชุบหมาดแล้วเช็ดที่บริเวณใบหู ใช้เป็นน้ำยาเช็ดหูแมวโดยเฉพาะ แต่การทำความสะอาดไม่ควรเสี่ยงให้น้ำเข้าหูและควรเช็ดให้เบาที่สุด
เข้าใจสภาวะผลัดขน
แมวเปอร์เซียจะมีสภาวะผลัดขนบ่อยครั้งและจะผลัดขนค่อนข้างมาก เพราะแมวสายพันธุ์นี้เป็นแมวขนยาว การผลัดขนจึงมีมากกว่าแมวสายพันธุ์ขนสั้นและการผลัดขนนี้จะเป็นไปตามธรรมชาติ ดังนั้นผู้ที่เป็นเจ้าของแมวต้องเข้าใจและต้องทำความสะอาดให้ดี เพื่อให้ทั้งตัวคุณเองและน้องแมวไม่ต้องเสี่ยงต่อภาวะภูมิแพ้
วิธีการเลี้ยงแมวเปอร์เซีย ทั้ง 9 ข้อนี้ จะครอบคลุมทั้งเรื่องของการดูแลร่างกาย จิตใจ และสุขภาพโดยรวมของแมวเปอร์เซียทั้งหมด เป็นเรื่องที่เจ้าของมือใหม่ควรรู้ ซึ่งถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจเลี้ยงแมวเปอร์เซีย ควรศึกษารายละเอียดเรื่องลักษณะสายพันธุ์, นิสัยส่วนตัวของแมว และการดูแลให้ละเอียด เพื่อทำให้การเลี้ยงน้องแมวเป็นไปอย่างถูกต้องและทำให้ทั้งตัวคุณกับน้องแมวอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขที่สุด
อ่านสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม;
- หมาตาแฉะ เพราะอะไร จะรักษาและป้องกันได้อย่างไร
- มาดูกันว่า กระต่ายมีพันธุ์อะไรบ้าง ที่เป็นที่นิยมสุดๆ [2020]
- “กระต่ายพันธุ์” พันธุ์ไหนบ้างที่เป็นที่นิยมในหมู่คนรักกระต่าย [2020]
- ดูเพศกระต่าย ดูยังไงนะ? [มารู้จักวิธีการดูเพศกระต่ายกันดีกว่า]
- ฮอลแลนด์ลอป กระต่ายที่หากใครได้ลองเลี้ยงแล้วจะต้องหลงรัก
- พัฒนาการลูกกระต่าย และวิธีการดูแลลูกกระต่ายเบื้องต้น