หนึ่งในปัญหาของคนที่มีสัตว์เลี้ยงอย่างน้องหมารู้สึกกวนใจไม่น้อย คือ เรื่องของเห็บและหมัดหมา เพราะนอกจากจะสร้างความรำคาญให้กับตัวน้องหมาเองแล้ว ยังอาจจะทำให้ลุกลามมาถึงคนเลี้ยงได้ ทั้งยังก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงแสนรักได้อีกด้วย ดังนั้นลองมาทำความรู้จักกับเห็บและหมัดหมา เพื่อให้คุณสามารถกำจัดปรสิตตัวร้ายทั้ง 2 ชนิดนี้ออกไปจากน้องหมาตัวโปรดของคุณได้แบบไม่กลับมาสร้างความรำคาญอีกครั้ง
หมัดหมา คืออะไร มาจากไหน
หมัดที่อยู่บนตัวสุนัขจะถูกเรียกว่า Dog flea ที่จะมาในรูปแบบของตัวโตเต็มวัย มีลักษณะคล้ายคลึงกับแมลงจึงถูกรวมอยู่ในกลุ่มสายพันธุ์แมลงขนาดเล็ก แต่จะเป็นแมลงที่ไม่มีปีก สามารถกระโดดได้ในระยะทางไกล มีความยาวของลำตัว 1-2.5 มิลลิเมตร ลักษณะจะเป็นตัวออกสีแดงเข้มไปจนถึงน้ำตาล มีลักษณะลำตัวแบนและจะต่างจากเห็บตรงที่ตัวเล็กกว่า ไม่ว่าจะดูดเลือดปริมาณมากแค่ไหนแต่ตัวจะยังลีบแบนและจะเจริญเติบโตออกทางด้านข้าง ไม่พองออกเหมือนกับตัวเห็บ ตัวใหญ่จะออกสีน้ำตาลเข้มมากจนบางตัวอาจจะกลายเป็นสีดำ
ถ้าส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์จะเห็นว่าบนตัวหมัดปกคลุมไปด้วยขนที่มีความแหลม ลักษณะของส่วนหัวจะเป็นทรงสามเหลี่ยมและลำตัวจะเป็นปล้อง โดยจะมีขาทั้งหมด 3 คู่ หรือ 6 ขา โดยขาหลังจะมีความยาวมากที่สุดเพื่อทำให้การกระโดดมีความคล่องตัวและกระโดดได้ไกลมากยิ่งขึ้น การดำรงอยู่ของหมัดหมานั้นจะมีทั้งเพศผู้และเพศเมีย จะมีการผสมพันธุ์กันจนกระทั่งออกไข่เป็นจำนวนมาก ไข่จะมีสีขาวลักษณะจะคล้ายกับรังแคของมนุษย์ โดยไข่จะมีขนาดเล็ก 0.5 มิลลิเมตรเท่านั้น ลักษณะของเปลือกไข่เมื่อส่องจากกล้องแบบระยะใกล้แล้วจะมีผิวเรียบลื่น ไม่มีขน
เมื่อหมัดออกไข่จึงจะไม่ติดอยู่บนขนน้องหมาแต่จะไหลลงสู่พื้น โดยจะใช้ระยะเวลาในการฟักไข่เพียงแค่ 2-16 วันเท่านั้น เมื่อออกจากไข่จะกลายเป็นตัวอ่อนในระยะที่ 1 มีรูปแบบคล้ายคลึงกับหนอนไม่มีขาออกเป็นสีเหลือง-ขาว แต่ที่ลำตัวจะเป็นปล้องและมีขนปกคลุมประมาณ 3 เส้น และส่วนท้ายจะมีรูปทรงยื่นออกมาคล้ายกับตะขอ สำหรับตัวอ่อนของหมัดหมานั้นจะยังไม่มีลักษณะเป็นปรสิต กินอาหารเป็นเศษเลือดกับอุจจาระที่ตัวหมัดโตเต็มวัยทิ้งไว้
การจะโตเต็มวัยได้นั้นจะมีการลอกคราบถึง 2 ครั้งด้วยกัน จนกระทั่งกลายมาเป็นตัวอ่อนในระยะที่ 3 จึงจะพัฒนาตัวกลายมาเป็นดักแด้ที่จะยึดกับฝุ่นผงต่างๆ บนพื้นแล้วกลายมาเป็นเนื้อเดียวกัน ใช้เวลาเพียงแค่ 10-17 วัน จะออกจากดักแด้สู่การเป็นหมัดโตเต็มวัยที่พร้อมจะ ดูดกินเลือดของสุนัขและก่อให้เกิดโรคต่างๆ ต่อตัวสุนัขได้อย่างน่ากลัวต่อไป ดังนั้น หมัดจึงถือว่ามีความน่ากลัวในเรื่องของการปล่อยไข่ลงสู่พื้นและสามารถอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมปกติ โดยจะจับและยึดเหนี่ยวกับฝุ่นผงตามพื้นบ้าน เพื่อให้ตัวเองได้ลอกคราบและกลายมาเป็นตัวโตเต็มวัยที่พร้อมเกาะตัวน้องหมาที่คุณรักได้ตลอดเวลา
ผลเสียที่เกิดกับสุนัข เมื่อมีหมัดหมาเกาะตามตัว
เมื่อหมัดเกาะบนตัวสุนัขแล้ว ก็ย่อมก่อให้เกิดผลเสียในด้านสุขภาพของสุนัขต่างๆ ดังนี้
- แพร่ไปสู่สัตว์เลี้ยงตัวอื่นได้
หมัดที่มีขนาดเป็นตัวโตเต็มวัยจะสามารถดูดเลือดของสุนัขได้เป็นจำนวนมาก และอาจจะแพร่ไปสู่สัตว์เลี้ยงตัวอื่นได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญคือสามารถแพร่สู่ตัวมนุษย์ได้อีกด้วย แต่ถือว่ายังมีน้อยและพบได้ไม่บ่อยครั้ง - เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ
เมื่อมีหมัดจำนวนมากดูดเลือดของสุนัขและสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ จะทำให้เกิดภาวะโลหิตจางและอาจจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา - ทำให้รู้สึกเจ็บ คันและแสบผิว
ให้ความรู้สึกคัน เจ็บ และแสบผิวหนัง จึงก่อให้เกิดความรำคาญ คุณจึงมักจะได้เห็นสุนัขที่มีหมัดอยู่ในตัว มีอาการคันและต้องเกาตลอดเวลา ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและสุดท้ายกลายเป็นน้องหมาของคุณอาจจะรู้สึกเครียดได้ - ก่อให้เกิดอาการแพ้หนักขึ้น
ถ้ามีหมัดหมาอยู่บนตัวสุนัขที่มีปัญหาเรื่องอาการแพ้ผิวหนังอยู่แล้ว จะยิ่งซ้ำให้ปัญหาแพ้ผิวหนังเพิ่มมากขึ้น เพราะโปรตีนในน้ำลายหมัดจะทำให้เกิดผื่นแพ้ ผื่นผิวหนังอักเสบ และอาการคันจนขนร่วง รวมไปถึงการติดเชื้อบักเตรีแทรกซ้อนภายในผิวหนังของสุนัขได้อีกด้วย - เป็นพาหะของพยาธิ
ความน่ากลัวของหมัดที่ถือว่าเป็นเรื่องน่ากังวลมากที่สุด คือ การเป็นพาหะของพยาธิตัวตืดในสุนัขและจะทำให้กลายมาเป็นโรคลำไส้อักเสบ ทั้งยังข้ามมาติดต่อสู่คนได้อีกด้วย
เห็บหมา คืออะไร มาจากไหน
เห็บหรือที่ถูกเรียกว่า Brown Dog Tick มาในรูปแบบของปรสิตภายนอกที่มักจะพบได้มากในสุนัขและสัตว์เลี้ยงอีกหลากหลายประเภท โดยเห็บนั้นจะมีด้วยกันหลายชนิดแต่ที่จะพบได้มากที่สุดในตัวของสุนัข คือ Rhipicephalus sanguineus ที่ถือว่าเป็นสายพันธุ์เห็บพบได้มากที่สุดในประเทศไทย เมื่อโตเต็มวัยแล้วจะมีขามากถึง 8 ขาด้วยกัน ส่วนหัวของเห็บจะไม่แสดงออกชัดเจน แต่ที่จะเห็นเป็นเด่นชัดคือปากยื่นออกมาจากทางด้านหน้าของลำตัว จะใช้ปากในการแทงเข้าสู่ผิวหนังและฝังปากไว้ชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อเป็นการเกาะตัวของสุนัขและทำการดูดกินเลือดเพื่อเป็นอาหารต่อไป
ความแตกต่างของเห็บกับหมัดหมา คือ เห็บจะมีขนาดใหญ่กว่า สามารถดูดเลือดของสุนัขได้มากกว่า และลักษณะลำตัวจะเป็นแบบกลมหรือรีเมื่ออิ่มเต็มที่ ต่างจากหมัดที่จะเป็นเพียงแค่ตัวแบนเท่านั้น สำหรับวงจรชีวิตของเห็บนั้นจะมีความซับซ้อนกว่าหมัดเป็นอย่างมาก การเจริญเติบโตของเห็บจะมีด้วยกันถึง 4 ระยะ คือ ระยะของการเป็นไข่, ออกมาเป็นตัวอ่อนที่มีถึง 6 ขา, กลายมาเป็นตัวกลางวัยที่มีถึง 8 ขา และเมื่อโตเต็มวัยแล้วก็จะมี 8 ขาเช่นเดิมแต่ตัวใหญ่ขึ้น และสามารถออกไข่ได้เป็นจำนวนมาก
ลักษณะของเห็บหมา
รูปลักษณ์เริ่มต้นของเห็บจะมีลักษณะแบน มีสีออกน้ำตาลแดงหรืออาจจะออกสีเทาในบางสายพันธุ์ โดยตัวจะมีขนาดยาว 3 มิลลิเมตร เห็บตัวผู้จะมีลักษณะลำตัวที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนักและจะใช้เวลาในการกินเลือดเพียงแค่สั้นๆ มีชีวิตเพื่อการผสมพันธุ์ เมื่อโตเต็มวัยแล้วจะเดินออกหาตัวเมียเพื่อทำการขยายพันธุ์ต่อไป การขยายตัวออกของเห็บนั้นจะสามารถขยายได้ถึง 12 มิลลิเมตรและดูดกินเลือดของสุนัขได้เต็มที่ เมื่อใดที่ตัวเมียเริ่มจะออกไข่จะดึงปากออกจากผิวหนังของสุนัข จากนั้นจะกลิ้งตัวแล้วไหลลงจากตัวของสุนัขเพื่อทำการหาสถานที่วางไข่ต่อไป การวางไข่ของเห็บจะอยู่บนพื้นดินที่มีความชื้น โดยจะเน้นเป็นพื้นที่มีขอบหรือมุม รวมไปถึงรอยต่อของบ้านและไต่ได้สูงในระดับแนวตั้งฉาก เพื่อทำการวางไข่ตามกำแพงหรือที่สูงต่างๆ ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเห็บตัวเมียนั้นเพียงแค่ 1 ตัว จะวางไข่ได้สูงถึง 4,000 ฟองเลยทีเดียว และใช้ระยะเวลาในการฟักตัวอ่อนเพียงแค่ 17-30 วันเท่านั้น
ที่สำคัญคือ แม้ว่าจะเป็นตัวอ่อนของเห็บ แต่ก็สามารถเคลื่อนไหวตัวเองได้รวดเร็วมากและสามารถกระโดดเพื่อขึ้นเกาะตัวสุนัขแล้วทำการดูดเลือดได้ถึง 3 วัน เมื่อใดที่กินอิ่มและพร้อมลอกคราบก็จะไหลลงจากตัวของสุนัขแล้วหาสถานที่เพื่อทำการลอกคราบต่อไป วงจรชีวิตตั้งแต่การลอกคราบมาจนถึงการเป็นเห็บที่มีความสมบูรณ์พร้อม จะใช้เวลาเพียงแค่ 45-50 วันเท่านั้น
ผลเสียที่เกิดกับสุนัข เมื่อมีเห็บเกาะตามตัว
การมีเห็บเกาะอยู่ที่ตัวของสุนัขนานจนเกินไป ก็จะก่อให้เกิดปัญหาดังต่อไปนี้
- ส่งผลทำให้เกิดโรค
การดูดเลือดของเห็บนั้นจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสามารถดูดได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งถ้ามีเห็บจำนวนมากเกาะอยู่ที่ตัวสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ จะก่อให้เกิดทั้งโรคโลหิตจางและโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่น่ากลัว ทั้งยังสามารถติดต่อมาสู่คนได้อีกด้วย แต่ถือว่ายังพบได้น้อย
- ผิวหนังเกิดการอักเสบ
เมื่อใดที่เห็บเกาะดูดเลือดบนผิวหนังจะเกิดการอักเสบทันที จึงทำให้สุนัขที่ถูกเห็บกัดและดูดเลือดจะสามารถเป็นโรคผิวหนังอักเสบและติดเชื้อจนกระทั่งกลายเป็นหนองได้
- เกิดอาการคัน ไม่สบายตัว
การกัดและดูดกินเลือดของเห็บ จะทำให้เกิดอาการคัน เพราะน้ำลายเห็บจะทำปฏิกิริยากับผิวหนังของสุนัขและกลายมาเป็นอาการอักเสบ จึงก่อให้เกิดอาการคัน มีความรู้สึกรำคาญ และไม่สบายตัว จนกระทั่งกลายเป็นแผล และก่อให้เกิดเป็นพาหะของพยาธิในเม็ดเลือดและโรคต่างๆ ที่อาจจะทำให้สุนัขเสียชีวิตได้ในระยะเวลาที่รวดเร็ว
วิธีรักษาเห็บและหมัดหมาอย่างได้ผล
สำหรับผู้ที่กำลังเผชิญปัญหาทั้งเห็บและหมัดคุกคามน้องหมากับสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน คุณสามารถที่จะกำจัดทั้งเห็บและหมัดให้ออกจากบ้านคุณได้อย่างง่ายดาย พร้อมทำให้น้องหมาของคุณปราศจากปรสิตอันตราย ทำให้สุขภาพดีขึ้นได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดบ้าน
เมื่อพบว่าสุนัขภายในบ้านมีเห็บและหมัดหมา เรื่องแรกที่ควรทำคือการทำความสะอาดทุกส่วนภายในบ้านและทำความสะอาดจุดที่สุนัขนอนบ่อยครั้งมากที่สุด โดยเริ่มต้นจากการดูดฝุ่นด้วยเครื่องเพราะการดูดฝุ่นนั้นจะช่วยทำให้สามารถดูดไข่และตัวดักแด้ของทั้งเห็บและหมัดออกจากจุดต่างๆ ภายในบ้านได้ดีกว่าการกวาดพื้น ทั้งยังสามารถทำความสะอาดทุกพื้นที่และทุกซอกมุมได้สะดวก การทำความสะอาดบ้านนั้นควรทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์และจุดที่มีการวางของหรือเก็บของไว้เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงจุดที่เป็นรอยแตกร้าวของผนังและพื้นบ้านเมื่อทำการดูดฝุ่นและทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้คุณเริ่มฉีดสารกำจัดแมลงและปลวก แต่ถ้าต้องการความปลอดภัยตรงจุดที่สุนัขอยู่ ควรเลือกใช้เป็นสเปรย์หรือแป้งกำจัดเห็บหมัดโรยไปตามจุดต่างๆ เพื่อทำให้มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อของเห็บ-หมัด รวมไปถึงไข่และตัวอ่อนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้เป็นสารละลายกำจัดเห็บ-หมัดผสมน้ำแล้วทำการฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณ และอย่าลืมที่จะทำความสะอาดเสื้อผ้าด้วยเช่นกัน เพราะไข่ของเห็บกับหมัดสามารถกระจายไปติดได้แม้กระทั่งบนเสื้อผ้าของคนเลี้ยงอีกด้วย - ทำความสะอาดตัวสุนัขเป็นประจำ
การทำความสะอาดตัวสุนัขจะต้องทำเป็นประจำ แต่ไม่ใช่การอาบน้ำทุกวัน ให้อาบน้ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้น แต่เน้นใช้เป็นน้ำยาอาบน้ำแบบกำจัดเห็บและหมัดหมาโดยเฉพาะ การอาบน้ำใน 1 ครั้งให้ใช้น้ำยาซ้ำ 2 ครั้ง และการอาบครั้งแรกให้หมักน้ำยาทิ้งไว้สักครู่ เพื่อทำให้ประสิทธิภาพของน้ำยาฆ่าเห็บ-หมัดมีมากขึ้นและควรเลือกน้ำยาอาบน้ำสูตรกำจัดเห็บหมัดกับฆ่าเชื้อโรคบนผิวหนัง ลดอาการคันและอาการอักเสบร่วมด้วย เพื่อทำให้เห็บและหมัดลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว พร้อมช่วยทำให้น้องหมาของคุณลดความคัน ลดความรู้สึกรำคาญต่อการโดนกัดและลดความเครียดลงได้ดี - งดการปล่อยสุนัขออกนอกบ้าน
ช่วงที่กำลังกำจัดทั้งเห็บและหมัด คุณไม่ควรปล่อยสุนัขออกนอกบ้านเด็ดขาด เพราะการปล่อยออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านอาจจะยิ่งไปเพิ่มปริมาณของเห็บและหมัดได้มากขึ้น ทำให้การรักษายากกว่าเดิมและไม่มีทางหายขาดอีกด้วย แต่ถ้ากลัวน้องหมาของคุณเครียด ให้คุณเปลี่ยนเป็นการเล่นกับน้องหมาภายในบริเวณบ้าน หรือเป็นการให้ออกกำลังกายด้วยการวิ่งเล่นในสนามหญ้าหน้าบ้านแทนจะดีที่สุด - หยอดหรือฉีดยากันเห็บ-หมัดหมา
ถ้าต้องการให้ปัญหาเรื่องเห็บและหมัดหายขาดอย่างยั่งยืน ควรพาสุนัขไปฉีดยากำจัดเห็บและหมัด รวมถึงพยาธิหนอนหัวใจหรือการให้รับประทานยากำจัดเห็บและหมัดที่ถูกจ่ายมาจากสัตวแพทย์เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีวิธีการหยดยาและมีปลอกคอกําจัดเห็บ-หมัดที่จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ทำให้เห็บหมัดไม่มารบกวนสุนัขของคุณอีกต่อไป - ถ้ามีสวนในบ้านต้องตัดหญ้าเสมอ
หมัดหมามักจะวางไข่บนพื้นดินและหญ้า ดังนั้นถ้าบ้านของคุณมีสวนหน้าบ้านหรือหลังบ้าน สิ่งที่ควรทำคือการตัดหญ้าออก ไม่ควรปล่อยให้หญ้าขึ้นสูงเพราะจะยิ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เห็บ-หมัดชั้นดี นอกจากนี้คุณควรมีการฉีดยาฆ่าวัชพืช และฆ่าแมลงต่างๆ ที่เป็นศัตรูพืชเป็นประจำ เพื่อเป็นการกำจัดไข่ของทั้งเห็บและหมัดที่ตกอยู่ภายในสนามหญ้า - เลี่ยงการบี้หรือขยี้เห็บ-หมัดหมาบนพื้น
ไม่ควรบี้หรือขยี้เห็บหมัดบนพื้นอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะเห็บที่เดินอยู่ตามพื้นเพราะเห็บในลักษณะนี้มักจะเป็นเพศเมียที่มีไข่เต็มท้องและกำลังหาจุดวางไข่ที่เหมาะสม ซึ่งไข่จะมีขนาดเล็กมาก ดังนั้นถ้าคุณบี้เห็บ-หมัดตายบนพื้น ไข่ที่อยู่ภายในท้องจะกระจายออกมาอยู่ตามส่วนต่างๆ ของพื้น พร้อมการฝังตัวและกลายมาเป็นเห็บหมัดในรุ่นต่อไปได้ ดังนั้นถ้าเจอเห็บ-หมัดที่เดินบนพื้นควรทิ้งลงน้ำเท่านั้น
เมื่อใดที่คุณต้องเผชิญกับปัญหาเห็บ-หมัดคุกคามสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน โดยเฉพาะน้องหมาสุดที่รักของคุณสามารถนำวิธีการเหล่านี้ไปร่วมใช้ เพื่อทำให้สามารถกำจัดเห็บ-และหมัดหมาได้อย่างหมดจด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องทำอย่างเป็นประจำและต่อเนื่อง เพื่อเป็นการกำจัดเชื้อและไข่ที่จะฝังตัวอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้าน เพียงเท่านี้เห็บและหมัดจะไม่มากวนใจสัตว์เลี้ยงของคุณอีกต่อไป
อ่านสาระน้องหมาอื่น ๆ;