ในแต่ละวันคนเลี้ยงแมวอย่างเราๆ แทบไม่รู้ว่าแมวสุดที่รักจะป่วยเวลาไหน เพราะแมวเป็นสัตว์ที่โลกส่วนตัวสูงและเก็บอาการเก่ง กว่าจะทำให้คนเลี้ยงรู้ว่าเจ็บป่วยก็ตอนที่อาการเริ่มทรุดหนักลงแล้ว ดังนั้น วิธีรักษาแมวป่วย ในแบบเบื้องต้นก่อนการนำไปรักษา จึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ รวมไปถึงวิธีดูแลหลังการรักษาที่สำคัญไม่แพ้กัน แต่ก่อนจะไปดูวิธีการวิธีรักษาแมวที่มีอาการป่วยแบบเบื้องต้น ลองมาดูวิธีการสังเกตอาการแมวป่วย ดังนี้กันก่อนดีกว่า
อาการแมวป่วย สังเกตได้อย่างไร?
เมื่อแมวมีอาการป่วย เจ้าของสามารถสังเกตได้จากปัจจัยดังต่อไปนี้
แมวเริ่มมีกลิ่นปากและกลิ่นลมหายใจเหม็น
ถ้าน้องแมวเลียที่แขนหรือขาเจ้าของแล้วมีกลิ่นน้ำลายที่เหม็นรุนแรง ซึ่งกลิ่นที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่กลิ่นจากอาหารแต่เป็นกลิ่นปากจากภายในของน้องแมว นั่นหมายถึงสัญญาณเตือนว่าแมวของคุณกำลังป่วยและอาจจะมีปัญหาเรื่องโรคไต ดังนั้นให้คุณลองเปิดปากเพื่อดูเหงือกของแมว ถ้าเหงือกจากสีชมพูกลายเป็นสีขาวออกอมเขียวหรือเปลี่ยนสีเป็นสีซีดหรือคล้ำลง รวมไปถึงมีน้ำลายยืดออกมามากผิดปกติ อาจจะหมายความว่าน้องแมวของคุณเป็นโรคเหงือก โรคฟันอักเสบ เกิดการสะสมของหินปูน หรือเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก รวมไปถึงปัญหาเรื่องโรคต่างๆ ที่อยู่ภายในตัวของน้องแมวได้อีกด้วย
มีปัญหาการขับถ่ายที่ผิดปกติ
ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายหนักหรือถ่ายเบา ถ้ามีการถ่ายหนักบ่อยครั้งและเริ่มออกเป็นสีอ่อนจนกลายเป็นน้ำเหลวหรือมีอาการท้องเสีย แสดงว่าระบบขับถ่ายภายในเริ่มมีปัญหาและอาจจะเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสในลำไส้ได้ แม้แต่การถ่ายเบาออกมามากผิดปกติและมีสีที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม โดยอาจจะมีสีที่ขุนคล้ำหรือเป็นสีปนเลือด ถ้ามีการถ่ายในลักษณะเหล่านี้ออกมา ให้รีบพาไปพบแพทย์ทันทีเพราะถือว่าระบบภายในเริ่มมีปัญหารุนแรงแล้ว
มีขี้ตา น้ำมูกและจามบ่อย
ถ้าน้องแมวของคุณมีอาการจามบ่อยครั้ง พร้อมตามมาด้วยน้ำมูกและขี้ตาที่เกาะตามตาแบบเกรอะกรัง มีน้ำมูกออกมาเป็นน้ำมูกใสหรือข้น รวมไปถึงขี้ตาออกสีเหลือง-เขียว นั่นแสดงให้รู้ว่าน้องแมวกำลังเผชิญสภาวะติดเชื้อต่างๆ , การเป็นหวัด และอาจจะลุกลามสู่การเป็นหัดแมวได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าอาการหนักขึ้นก็ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยด่วน แต่ถ้าเป็นเพียงน้ำมูกใสและเป็นอาการเบื้องต้นให้คุณรอดูอาการ 24 ชั่วโมง ถ้าคุณมีการให้ยาตามเวลาอย่างถูกต้องและทำให้ร่างกายของน้องแมวอบอุ่นอยู่เสมอแล้วดีขึ้น แสดงว่าอาการไม่หนักมาก แต่ทางที่ดีควรพาไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคอย่างชัดเจนจะดีที่สุด
มีอาการซึม ไม่เล่นร่าเริง
ถ้าน้องแมวมีอาการซึมลง ไม่ร่าเริงเท่าเดิม ไม่เล่นและนอนซมทั้งวันอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก ให้คุณพิจารณาได้เลยว่าน้องแมวของคุณกำลังมีปัญหาเรื่องสุขภาพอย่างแน่นอน ยิ่งถ้ามีอาการชอบหลบมุม เดินหนี ไม่เข้ามาอ้อน หรือชอบเก็บตัว จะเป็นการบ่งบอกให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าน้องแมวกำลังป่วย เพราะแมวมักจะมีพฤติกรรมชอบแยกอยู่ตัวเดียวและหลบหนีเจ้าของ เมื่อตัวเองเกิดอาการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บที่ส่วนใดของร่างกายก็ตามหายใจผิดปกติ
ขณะที่อุ้มหรือเล่นกับน้องแมว ให้ฟังเสียงหายใจให้ดี ถ้าน้องแมวมีอาการหายใจถี่หรือเร็วผิดปกติ ให้คุณลองสังเกตดูต่อว่าแมวมีอาการไอ หัวใจเต้นแรง และมีเสียงหอบหืดดังออกมาหรือไม่ ถ้าใช่ให้คุณดูแลเบื้องต้นด้วยการเช็ดหู เช็ดอุ้งเท้า เช็ดขาหนีบ และเช็ดใต้ท้อง เพื่อเป็นการช่วยระบายความร้อนออกจากตัวและทำให้การหายใจของแมวดีขึ้น หลังจากนี้ควรพาไปพบแพทย์เพื่อให้วินิจฉัยโรคอย่างชัดเจนต่อไป
อาเจียนผิดปกติ
สำหรับข้อนี้ คุณจะต้องรู้จักกับลักษณะของอ้วกของน้องแมวว่าเป็นการอาเจียนเอาเพียงก้อนขนออกมา หรือเป็นการอาเจียนเอาอาหารที่กินเข้าไปทั้งหมดออกมา ลักษณะของอ้วกเป็นอย่างไร ถ้าอ้วกออกมาเป็นสีเหลืองและเป็นฟองก็อาจจะหมายถึงการกินเร็วมากเกินไป โดยไม่เคี้ยวจึงทำให้น้ำย่อยไหลออกมา แต่ถ้าอ้วกออกสีเขียว, ออกสีแดง หรือออกเป็นขุ่นคล้ำ นั่นหมายถึงน้องแมวติดเชื้อและอาจอยู่ในภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหาร รวมไปถึงปัญหาของเส้นเลือดหลอดอาหารต่างๆ ดังนั้นถ้าเจอว่าแมวมีอ้วกเป็นสีเหล่านี้ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที
อ่านสาระน้องแมวอื่น ๆ เพิ่มเติม;
- ดีใจด้วย! คุณกำลังมีหลาน!! สัญญาณบอกเหตุน้อง แมวท้อง
- คนรักแมวต้องรู้ โรค fip ภัยร้ายลูกรักของคุณ
- 13 สายพันธุ์น้องแมวที่ทำตัวหยั่งกับน้องหมา!
- มาทำความรู้จักกับ แมวแมงซ์ {Manx} กันดีกว่า
- วิธีการเลี้ยงดูแล ลูกแมวเปอร์เซียแรกเกิด
- คนรักแมวต้องรู้ วิธีรักษาแมวท้องเสีย ทำได้อย่างไร?
- แนะนำวิธีการดูแล แมวที่เป็นโรคไต และ อาหารแมวโรคไต
วิธีรักษาแมวป่วย ในแบบเบื้องต้น
สังเกตอาการและดูแลน้องแมวอย่างใกล้ชิด
ในช่วงที่คุณยังไม่มีเวลาพาน้องแมวไปหาหมอ ให้คุณสังเกตอาการของน้องแมวอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีอาการเป็นหวัดเพียงเล็กน้อย ให้คุณป้อนยาสำหรับลดอาการป่วยของน้องแมวให้ตรงตามเวลา พร้อมกับหาพื้นที่ที่สะอาด มีบรรยากาศอบอุ่นให้น้องแมวได้นอนพักผ่อน รวมไปถึงการให้อาหารสำหรับแมวป่วยโดยเฉพาะ แต่ถ้าเป็นอาการเจ็บปวด, ปวดท้อง, ท้องเสีย, มีอาการถ่ายเหลวหรืออาการอาเจียนต่างๆ ให้คุณหยุดการให้อาหารก่อนและเน้นให้เป็นเพียงแค่น้ำเปล่ากับน้ำเกลือแร่เท่านั้น และถ้าอาการของน้องแมวไม่ดีขึ้นภายใน 12-24 ชั่วโมงคุณต้องสละเวลาเพื่อพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที
จัดหาพื้นที่นอนที่มีความสะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก
วิธีรักษาแมวป่วย เมื่อมีอาการซึม อ่อนเพลีย และนอนทั้งวัน ควรจัดหาพื้นที่นอนที่มีความสะอาด แสงส่องถึงเล็กน้อย ไม่มีเสียงรบกวนใดๆ และควรหาเป็นพื้นที่อากาศถ่ายเทสะดวกให้กับน้องแมว เพื่อทำให้การพักผ่อนมีความผ่อนคลายและไม่เพิ่มการติดเชื้อที่มากกว่าเดิมให้แก่น้องแมวอีกด้วย
รีบทำแผลโดยด่วนหากพบว่าน้องแมวมีบาดแผลตามตัว
เมื่อพบว่าแมวเกิดอาการบาดเจ็บจากบาดแผลต่างๆ ภายในร่างกายควรรีบทำแผลโดยด่วน ด้วยการใช้แอลกอฮอล์เช็ดและใช้เบตาดีนหยอดลงแผลตามปกติ แต่ให้คุณใส่คอลล่าที่คอเพื่อป้องกันไม่ให้น้องแมวเลียบริเวณแผล หรือใช้เป็นผงเนกาซันโรยลงที่แผลเพื่อดูดหนองออกจากแผลที่อักเสบ ก็จะช่วยลดอาการบาดเจ็บลงได้ดี
ปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัด
สำหรับวิธีรักษาแมวป่วย หลังการรักษามาเรียบร้อยแล้ว ให้คุณปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ พร้อมให้ยาตรงตามเวลาอย่างเคร่งครัดและพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้น้องแมวหายจากอาการป่วยที่เป็นอยู่ได้อย่างรวดเร็วดูแลเรื่องความสะอาดให้มากที่สุด
คุณควรดูแลเรื่องอาหารการกิน, น้ำ, พื้นที่อยู่อาศัย และส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแมวให้มีความสะอาดมากที่สุด เพื่อป้องกันการติดเชื้อเพิ่มและป้องกันไม่ให้แมวตัวอื่นภายในบ้านต้องได้รับเชื้อโรคต่างๆ ตามไปด้วย
คุณอาจจะเลือกซื้ออาหารสำหรับแมวป่วย
เลือกอาหารแมวให้ถูกและตรงต่อโรคที่แมวเป็นอยู่ ปัจจุบันมีการผลิตอาหารสำหรับแมวป่วยออกขายโดยเฉพาะ ซึ่งจะมาในรูปแบบสำเร็จรูปที่ผ่านการวิจัยมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณจึงสามารถเลือกซื้ออาหารสำหรับแมวป่วย เพื่อนำไปให้น้องแมวที่บ้านรับประทานได้อย่างปลอดภัยและตรงต่อการรักษาโรคที่น้องแมวเป็นอยู่มากที่สุด
แยกน้องแมวตัวที่ป่วยออกจากน้องแมวปกติ
เมื่อรู้ว่าแมวตัวใดตัวหนึ่งภายในบ้านของคุณ เกิดอาการเจ็บป่วยที่ไม่ว่าจะเป็นโรคใดก็ตาม สิ่งที่คุณควรทำคือการแยกน้องแมวตัวที่ป่วยออกจากน้องแมวปกติ เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ส่วนตัวและไม่ทำให้น้องแมวตัวที่ป่วยรับเชื้อเพิ่ม ที่สำคัญคือจะช่วยทำให้เชื้ออยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมและไม่ก่อให้เกิดปัญหาโรคติดต่อกับแมวที่ไม่ได้ป่วย เพราะเชื้อโรคบางตัวจะแพร่กระจายจากสารคัดหลั่งที่ออกจากร่างกายน้องแมว หรือแม้แต่การติดต่อผ่านทางลมหายใจที่ถือว่าเป็นรูปแบบการติดต่อที่รวดเร็วและรุนแรงมาก ดังนั้นเมื่อรู้ว่าแมวป่วยจึงควรรีบแยกออกจากแมวปกติทันที อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โรคติดต่อในแมวดูแลความสะอาดน้องแมว ป้องกันปัญหาสุขถาพที่อาจจะเกิดตามมาในภายหลัง
แม้ว่าน้องแมวจะป่วยอยู่ แต่คุณก็ควรเช็ดทำความสะอาดใบหน้า ดวงตา และจุดเกิดกลิ่นต่างๆ ของน้องแมววันละ 1 ครั้ง เพื่อลดความเครียดและลดความรู้สึกตึงเครียดที่อยู่ภายในตัวน้องแมวลง รวมไปถึงการแปรงขนวันละ 1 ครั้งเช่นกัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้แมวเลียขนแล้วขนจนกลายเป็นก้อน Hair Ball ที่อาจสร้างปัญหาสุขภาพเพิ่มได้
ข้อมูลทั้งหมดนี้คือ วิธีการสังเกตแมวป่วย และ วิธีรักษาแมวป่วย ในแบบเบื้องต้น ก่อนการนำไปพบสัตวแพทย์รวมไปถึงวิธีรักษาหลังจากการพบสัตวแพทย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเรื่องทั้งหมดนี้คุณควรศึกษาไว้เพื่อนำไปดูแลน้องแมวในยามเจ็บป่วย ซึ่งจะช่วยทำให้คุณลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียน้องแมวไปอย่างรวดเร็วได้ดีเลยทีเดียว
อ่านสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ;
- สาระน่ารู้เรื่อง การเลือก อาหารกระต่ายที่ดีที่สุด [2020]
- คู่มือ อาบน้ำหมา [พันธุ์เล็ก vs พันธุ์ใหญ่]
- หมาตาแฉะ เพราะอะไร จะรักษาและป้องกันได้อย่างไร
- คู่มือ อาบน้ำหมา [พันธุ์เล็ก vs พันธุ์ใหญ่]
- ซามอยด์ (Samoyed) ใครเห็นเป็นต้องหลงรัก
- มาทำความรู้จักกับเจ้า อลาสกัน คลี ไค หรือ ฮัสกี้ไซต์มินิ กันดีกว่า!
- กระต่ายหูตก มีสายพันธุ์อะไรบ้าง มาดูกันดีกว่า
- อะกิตะอินุ (Akita inu) สุนัขประจำชาติญี่ปุ่นที่แสนน่ารักขวัญใจทาสน้องหมาทั่วโลก
- [4] วิธีแก้สุนัขป่วยเบื้องต้น เมื่อน้องหมาซึมไม่ร่าเริงเหมือนก่อน !!