
สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่หลายคนมีไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา เพราะสุนัขสามารถเรียนรู้ภาษาคนได้ ซึ่งเราก็มักจะพูดคุยสื่อสารกับเจ้าสุนัขกันเป็นประจำ สำหรับใครที่เป็นทาสสุนัขก็มักที่จะเห็นพฤติกรรมแปลก ๆ ของเขาบ่อย ๆ โดยเฉพาะอาการสุนัขคันตลอดเวลา ที่มีให้เราเห็นกันแทบทุกวัน นอกจากอาการคันก็ยังคงมีอาการอื่น ๆ อย่างเช่น กัดแทะ เลียตามตัว ตามอุ้งเท้า เกาหู หรือแม้กระทั่งการเอาลำตัวไปถูกับกำแพง โดยอาการดังกล่าวเป็นอาการคันที่สันนิฐานได้เลยว่าอาจจะเกิดจากโรคผิวหนังก็ได้ และแน่นอนอาการคันที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของสุนัขไม่น้อยเลยทีเดียว และอาจจะก่อให้เกิดความรำคาญกับเจ้าสุนัขอย่างมาก ดังนั้นเรามาดูสาเหตุของอาการคันที่เกิดขึ้น พร้อมกับวิธีดูแลบรรเทาอาการคันให้กับเจ้าสุนัขกันดีกว่า
สุนัขคันตลอดเวลา เกิดจากอะไร
สาเหตุของอาการคันในสุนัข ก็แบ่งออกได้เป็นหลายสาเหตุดังต่อไปนี้
1. ความไม่สมดุลทางโภชนาการ
คุณรู้หรือไม่ว่าอาหารที่น้องหมาทานเข้าไปนั้นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สุนัขคันตลอดเวลาได้ เพราะหากคุณให้เขาทานอาหารที่ไม่มีคุณภาพ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย ผิวหนังและขนของเขาได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้อาหารยังเป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมการทำงานของภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนั้นหากสุนัขได้รับสารอาหารที่ไม่มีคุณภาพ และไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ผิวของเขาก็จะเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น ผิวแห้ง ติดเชื้อได้ง่าย เพราะฉะนั้นคุณจำเป็นต้องคำนึงถึงอาหารที่ให้เขาทานด้วยว่ามีคุณภาพมากพอหรือไม่ โดยอาจจะเน้นอาหารที่มีวิตามิน โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 เพื่อช่วยให้ผิวหนังแข็งแรงนั่นเอง
2. ปรสิตภายนอก
ปรสิตภายนอกที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าคือ หมัด เห็บ เหา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้สุนัขเกิดอาการคันบ่อย ๆ เมื่อถูกกัด และนอกจากนี้ก็ยังมีอาการภูมิแพ้ผิวหนังที่เกิดจากน้ำลายหมัดอีกด้วย ส่วนปรสิตที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่าคือ ตัวไร เช่น
- ไรขี้เรื้อนเปียก ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนผิวหนังที่มีสาเหตุมาจากภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ไรขี้เรื้อนแห้ง เป็นไรที่สามารถติดต่อจากสุนัขไปสู่สุนัขตัวอื่น ๆ ได้ แต่จะรักษาได้ง่ายกว่าไรขี้เรื้อนเปียก
- ไรในหู สุนัขที่มีอาการคันหูบ่อย ๆ หากสังเกตดูเราจะพบขี้หูที่มีลักษณะเป็นสีดำ หรือสีน้ำตาล ซึ่งเป็นปรสิตอย่างหนึ่งนั่นเอง
3. การติดเชื้อที่ผิวหนัง
การติดเชื้อที่ผิวหนัง ได้แก่ เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ การติดเชื้อลักษณะนี้จะไม่ค่อยพบมากนัก แต่เป็นโรคติดต่อระหว่างสัตว์ด้วยกันที่ต้องระวัง ถึงแม้จะไม่ค่อยมีอาการคันแต่จะส่งผลเสียต่อผิวหนังของสุนัขไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะจะทำให้ผิวมันเยิ้ม มีกลิ่นเหม็น รวมถึงการเกิดแผลต่าง ๆ อีกด้วย
วิธีบรรเทาอาการคันของสุนัข
วิธีบรรเทาเมื่อสุนัขคันตลอดเวลา ที่คุณสามารถช่วยได้มีดังนี้
กำจัดเห็บ หมัด
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเห็บหมัดเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันกับสุนัขมาเป็นเวลานานมาก และก็เป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้สุนัขเกิดอาการคันจนน่ารำคาญ ซึ่งวิธีที่คุณจะช่วยให้เขามีอาการคันน้อยลงหรือหายขาดก็คือ คุณต้องกำจัดเห็บ หมัดให้เขาก่อน โดยการพาไปพบหมอเพื่อหาวิธีกำจัดเห็บ หมัด ในตัวของเขาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้ปรสิตเหล่านั้นกลับมาทำร้ายสุนัขของคุณอีก นอกจากนี้คุณจะต้องทำความสะอาดบริเวณบ้านของคุณให้มีความสะอาดอยู่ตลอดเวลาด้วย เพื่อเป็นการทำลายวงจรชีวิตของปรสิตตัวจิ๋วที่เป็นสาเหตุให้เกิดอาการคันให้หมดไปนั่นเอง
อาบน้ำให้น้องหมาบ่อย ๆ
คุณจะต้องไม่ปล่อยให้สุนัขของคุณสกปรกเด็ดขาด เพราะจะทำให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นจึงควรอาบน้ำให้พวกเขาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ด้วยแชมพูที่มีคุณภาพอาจจะเป็นแชมพูที่สัตว์แพทย์แนะนำก็ได้ ซึ่งการอาบน้อยอย่างสม่ำเสมอนั้นจะช่วยลดการระคายเคืองของผิว ทำให้เกิดอาการคันน้อยลง นอกจากนี้การอาบน้ำยังช่วยให้สุนัขมีกลิ่นตัวที่หอมอีกด้วย หรือหากสุนัขของคุณเป็นสุนัขที่มีกลิ่นตัวแรง หรือมีขนเยอะ ๆ ก็อาจจะเลือกใช้แชมพูสูตรพิเศษก็ได้ อย่างแชมพูสูตรผสมน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อจะได้ทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น
เปลี่ยนอาหาร
หากสุนัขของคุณมีอาการคันบ่อย ๆ ลองสังเกตที่อาหารที่เขาทานว่ามีคุณภาพและมีสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ หากอาหารที่คุณให้อยู่นั้นไม่มีคุณภาพอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคันได้ เพราะฉะนั้นหากเป็นไปได้แนะนำให้ลองเปลี่ยนอาหารดู หากไม่รู้ว่าจะให้ทานอาหารแบบไหนดีให้คุณขอคำปรึกษาจากสัตว์แพทย์ได้เลย เพราะสัตว์แพทย์จะดูจากสุนัขของคุณว่าเป็นพันธุ์อะไร จากนั้นก็จะแนะนำอาหารที่เหมาะสมมากที่สุดให้
คันตรงไหน บอกโรคอะไรได้บ้าง
นอกจากสาเหตุที่กล่าวไปแล้ว อาการคันตามจุดต่างๆ ยังสามารถบอกโรคที่น้องหมาเป็นอยู่ได้ด้วย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสุนัขที่มีอาการคันบ่อย ๆ นั้นเป็นโรคอะไรหรือเปล่า ให้คุณสังเกตจากบริเวณที่เขาเกาก่อนเลยว่าเขามักจะเกาที่บริเวณไหน เพราะโรคที่เกิดจากอาการคันจะมีความแตกต่างกันออกไป แต่จะสามารถดูได้จากบริเวณที่คันดังต่อไปนี้
คันบริเวณหู ข้อศอก ข้อเท้าหลัง หน้าท้อง
หากสุนัขของคุณคันที่บริเวณดังกล่าวอาจจะกำลังสื่อให้เห็นว่าอาการคันของเขาเกิดจาก โรคไรขี้เรื้อนแห้ง ซึ่งเราจะสังเกตเห็นเลยว่าสุนัขจะมีอาการคันมาก ๆ หากคุณเลี้ยงสุนัขไว้หลายตัวแนะนำให้คุณปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษาโดยเร็ว เพราะจะทำให้สุนัขตัวอื่น ๆ ติดได้ ดีไม่ดีอาจจะติดต่อมายังคนที่สัมผัสจนเกิดอาการแพ้ได้ด้วย
คันบริเวณหัว ใบหน้า ขาหน้า ลำตัว
สุนัขที่มักจะมีอาการคันที่บริเวณดังกล่าวมักจะแสดงให้เห็นถึงโรคกลาก ซึ่งเป็นโรคทางผิวหนัง โดยบริเวณผิวหนังของสุนัขจะมีสะเก็ดแข็ง ๆ เพราะฉะนั้นให้คุณรีบทำการรักษาหากปล่อยไว้นาน ๆ อาจจะส่งผลเสียต่อสุนัขมากขึ้น และอาการคันก็จะเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
คันบริเวณฝ่าเท้า อุ้งเท้า ใต้คอ รักแร้ รอบปาก ในรูหู รอบใบหู
สุนัขที่มีอาการคันที่บริเวณดังกล่าวโดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อยีสต์ เป็นโรคที่เรามักจะพบได้ในสุนัขทั่วไป ไม่ก่อให้เกิดโรคทางผิวหนัง แต่จะต้องไม่มีสาเหตุอื่นเข้ามากระตุ้นเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้ยีสต์เพิ่มจำนวนมากขึ้น และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคทางผิวหนังอีกด้วย
คันบริเวณกลางหลังสะโพก
สุนัขหลายตัวมักเกิดอาการคันที่บริเวณนี้กันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งการคันที่บริเวณนี้จะแสดงให้เห็นถึงโรคภูมิแพ้น้ำลายหมัด ซึ่งเกิดจากการที่สุนัขถูกหมัด เห็บกัด โดยในน้ำลายหมัดจะมีสารคล้ายกับฮีตตามีน ที่อาจทำให้เกิดอาการอักเสบและคันได้นั่นเอง
คันบริเวณฝ่าเท้า และหน้าท้อง
เป็นอาการคันที่บ่งบอกได้ถึงโรคภูมิแพ้จากการสัมผัส โดยเกิดจากการที่สุนัขได้สัมผัสกับสิ่งกระตุ้นโดยตรง จึงทำให้เกิดอาการคัน ซึ่งสิ่งกระตุ้นเหล่านั้นอาจจะอาศัยอยู่ตามที่นอน หรือสนามหญ้านั่นเอง
คันบริเวณรอบปาก ใต้คาง รอบรูทวาร ใบหน้า รักแร้ และโคนขาหนีบ
สำหรับสุนัขของใครที่มีอาการคันที่บริเวณดังกล่าวบ่อย ๆ แล้วละก็ เขาอาจจะกำลังเป็นโรคภูมิแพ้อาหารอยู่ก็ได้ เพราะฉะนั้นควรสังเกตอาหารที่ให้สุนัขทานว่ามีคุณภาพหรือไม่ หากคิดว่าไม่มีคุณภาพมากพอแนะนำให้เปลี่ยนอาหารทันที เพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าสุนัข แต่หากอาการคันยังไม่หายให้พาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์ทันที
สุนัขคันตลอดเวลา บางครั้งก็อาจจะมีหลายปัจจัยด้วยกัน ทำให้การรักษาเบื้องต้นไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นการที่เราจะรักษาสุนัขจากโรคผิวหนังต่าง ๆ จะต้องทราบสาเหตุที่แน่ชัดจากสัตวแพทย์ก่อนว่าเกิดจากอะไรกันแน่ เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง
อ่านเรื่องราวสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม
- ชิวาว่าท้องกี่เดือน และวิธีการดูแลเมื่อชิวาวาตั้งท้อง
- วิธีสังเกต ชิวาว่าใกล้คลอดแล้ว และสิ่งที่เจ้าของควรทำ
- สุนัขฉี่มีหนอง ระวัง! อาจเกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
- สุนัขเพศผู้ มีน้ำไหลออกมา บ่งบอกปัญหาสุขภาพใด เรื่องที่เจ้าของต้องรู้!
- หมาท้อง มีน้ำไหลออกมา สัญญาณเตือนก่อนคลอดหรือเสี่ยงแท้ง?