• Skip to primary navigation
  • Skip to main content
  • Skip to primary sidebar

Box Meaww

บ๊อก ๆ เหมียว ๆ รอบรู้เรื่องสัตว์เลี้ยง

  • Home
  • น้องหมา
    • ไซบีเรียน ฮัสกี้
  • น้องแมว
  • น้องต่าย
  • เรื่องราวอื่น ๆ
Home » อาการสุนัขถุงน้ำคร่ำแตก พร้อมวิธีดูแลสุนัขช่วงคลอดอย่างถูกต้อง

อาการสุนัขถุงน้ำคร่ำแตก พร้อมวิธีดูแลสุนัขช่วงคลอดอย่างถูกต้อง

June 3, 2021 by Admin Meaww Leave a Comment

อาการสุนัขถุงน้ำคร่ำแตก พร้อมวิธีดูแลสุนัขช่วงคลอดอย่างถูกต้อง
  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

สุนัขช่วงตั้งท้องต้องได้รับการดูแลและสังเกตจากเจ้าของมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่สุนัขมีความเสี่ยงในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะช่วงที่กำลังจะคลอดหรือหลังจากที่ สุนัขถุงน้ำคร่ำแตก แล้ว เพื่อความปลอดภัยของแม่สุนัขและลูกสุนัขที่อยู่ในท้องนั่นเอง ซึ่งการดูแลแม่สุนัขที่ถุงน้ำคร่ำแตกมีความสำคัญและขั้นตอนดังนี้

Contents hide
1 สุนัขถุงน้ำคร่ำแตก มีอาการอย่างไร ควรดูแลอย่างไรให้ถูกต้อง
1.1 1. การเตรียมตัวก่อนคลอด
1.2 2. การดูแลสุนัขถุงน้ำคร่ำแตกที่กำลังคลอด
1.3 3. การดูแลหลังคลอด
1.3.1 3.1 การดูแลแม่สุนัข
1.3.2 3.2 การดูลูกสุนัข
2 อาการของแม่สุนัขถุงน้ำคร่ำแตก แต่คลอดเองไม่ได้!
3 สาเหตุที่สุนัขถุงน้ำคร่ำแตก แต่ไม่คลอดลูกออกมา
3.1 มดลูกล้า
3.2 คลอดผิดท่า
3.3 ตัวลูกมีขนาดใหญ่เกินไป
3.4 เชิงกรานแคบ
3.5 เคยประสบอุบัติเหตุ
3.6 ท้องแรก
3.7 ปัจจัยด้านพันธุกรรม
3.8 Related

สุนัขถุงน้ำคร่ำแตก มีอาการอย่างไร ควรดูแลอย่างไรให้ถูกต้อง

สุนัขจะมีการตั้งท้องประมาณ 2 เดือนหรือ 61-63 วัน ซึ่งเมื่อสุนัขพร้อมที่จะคลอดแล้วถุงน้ำคร่ำของแม่สุนัขจะแตกออก ทำให้มีของเหลวสีดำไหลออกมาจากช่องคลอด หากเจ้าของสังเกตเห็นว่าสุนัขถุงน้ำคร่ำแตกจะต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด โดยขั้นตอนการดูแลสุนัขที่ใกล้คลอดแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ

1. การเตรียมตัวก่อนคลอด

สำหรับเจ้าของที่มีสุนัขตั้งท้องอยู่จะต้องเตรียมตัวเพื่อเป็นหมอตำแยจำเป็นไว้ด้วย เพราะหากในช่วงที่แม่สุนัขกำลังจะคลอด แต่แม่สุนัขไม่สามารถคลอดได้เองตามธรรมชาติ เจ้าของจะต้องเป็นผู้ช่วยทำคลอดนั่นเอง โดยสิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับทำคลอดแม่หมา คือ

  • ผ้าสะอาดที่แห้งใช้สำหรับเช็ดตัวลูกสุนัข
  • กรรไกรที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว ใช้สำหรับตัดสายสะดือลูกสุนัข
  • ด้ายหรือเชือกเส้นเล็ก ๆ ใช้สำหรับผูกสายสะดือลูกสุนัข
  • น้ำยาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ
  • ทิงเจอร์ไอโอดีนหรือเบตาดีน
  • ปรอทวัดอุณหภูมิใช้สำหรับวัดอุณหภูมิสุนัขว่าใกล้คลอดหรือยัง
  • ลูกยางหรือที่ดูดน้ำมูกของเด็กอ่อนใช้สำหรับดูดน้ำคร่ำ

การเตรียมพื้นที่ทำคลอดสุนัข เมื่อมีอาการถุงน้ำคร่ำแตก

นอกจากการเตรียมอุปกรณ์สำหรับช่วยทำคลอดสุนัขถุงน้ำคร่ำแตกที่จะคลอดแล้ว เจ้าของยังต้องทำการเตรียมพื้นที่สำหรับคลอดลูกให้กับแม่สุนัขด้วย ซึ่งลักษณะของพื้นที่ทำคลอดให้กับสุนัขจะต้องมีลักษณะดังนี้

  • กล่องหรือพื้นที่สำหรับคลอด สุนัขส่วนมากชอบที่จะอยู่ในพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น ดังนั้นจึงควรเตรียมกล่องหรือเตียงที่ปูด้วยผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอนหรือหนังสือพิมพ์ด้านล่างสำหรับเป็นที่นอนของแม่สุนัข
  • พื้นที่คลอดต้องอยู่ในจุดที่เงียบ ไม่มีการรบกวนจากคนหรือสุนัขตัวอื่น

โดยพื้นที่คลอดนี้สามารถเตรียมให้แม่สุนัขทำการนอนในช่วงที่ท้องก็ได้ เพื่อให้สุนัขทำความคุ้นเคยกับพื้นที่และรู้สึกปลอดภัยเวลาที่จะคลอดลูกนั่นเอง

สุนัขถุงน้ำคร่ำแตก

2. การดูแลสุนัขถุงน้ำคร่ำแตกที่กำลังคลอด

ก่อนที่สุนัขถุงน้ำคร่ำแตกจะแตก สุนัขจะมีอาการบ่งบอกว่าเข้าสู่ช่วงการคลอดอย่างเด่นชัด ซึ่งเจ้าของสามารถสังเกตได้ ซึ่งการคลอดของสุนัขสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1: เป็นช่วงที่ปากมดลูกของสุนัขเริ่มมีการขยาย พร้อมทั้งมีการบีบตัวของมดลูก ซึ่งช่วงนี้แม่สุนัขจะมีอาการปวดท้อง ทำให้แม่สุนัขมีอาการกระวนกระวาย กระสับกระส่าย เดินไปทั่ว หอบ สั่น ไม่กินอาหารและทำการคุ้ยผ้าปูที่นอน แม่สุนัขจะมีอาการของระยะที่ 1 ประมาณ 12-24 ชั่วโมง ช่วงนี้เจ้าของจะต้องทำการหาพื้นที่เงียบ ๆ และปล่อยให้แม่สุนัขอยู่ตามลำพัง อย่าเข้าไปรบกวน เพราะจะทำให้แม่สุนัขย้ายที่ไปที่อื่น

ระยะที่ 2: เป็นช่วงที่มดลูกเกิดการบีบตัวแบบเต็มที่ส่งผลให้สุนัขถุงน้ำคร่ำแตกจึงมีของเหลวที่อยู่ในมดลูกไหลออกมาจากช่องคลอด ซึ่งระยะที่ 2 จะมีอาการประมาณ 30 -60 นาที และหลังจากที่แม่สุนัขถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว ลูกสุนัขที่อยู่ภายในท้องจะถูกบีบออกมาจากมดลูกและเคลื่อนตัวออกมาที่ปากช่องคลอด โดยลูกสุนัข 1 ตัวจะใช้เวลาในการคลอดประมาณ 15 นาที สำหรับการคลอดตามธรรมชาติหลังจากที่ลูกสุนัขออกมาจากท้องแม่ แม่สุนัขจะทำการกัดถุงน้ำคร่ำและสายรกให้ขาด และเลียทำความสะอาด พร้อมทั้งกระตุ้นให้ลูกหายใจด้วยตัวเอง

ซึ่งในช่วงนี้หากแม่สุนัขมีอาการอ่อนเพลีย บางตัวกัดถุงน้ำคร่ำไม่ขาด ดังนั้นเจ้าของจะต้องทำการช่วยแม่สุนัขทำการฉีกถุงน้ำคร่ำให้ขาดและดึงตัวลูกสุนัขออกมา พร้อมรับบทเป็นหมอตำแยทำการเช็ดตัวลุกสุนัขให้สะอาด นำด้ายหรือเชือกที่เตรียมไว้มามัดที่สายสะดือ และตัดด้วยกรรไกร โดยมีความยาวเหลือประมาณ 1 นิ้ว พร้อมทั้งทิงเจอร์ไอโอดีนหรือเบตาดีนที่แผล เพื่อป้องกันการติดเชื้อให้กับลูกสุนัข

ระยะที่ 3: เป็นระยะสุดท้ายของการคลอดลูกสุนัขแต่ละตัว โดยเป็นช่วงที่ร่างกายของแม่สุนัขจะทำการขับของเหลวและรกของลูกสุนัขที่คลอดออกมาให้หมด ถือเป็นช่วงการพักมดลูกและพื้นฟูแรงของแม่สุนัข ก่อนที่จะทำการเบ่งลูกสุนัขตัวต่อไป ซึ่งระยะที่ 3 นี้จะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีต่อครั้ง

ที่กล่าวมานี้คือระยะการคลอดของแม่สุนัขที่มีการคลอดตามธรรมชาติ หรือสามารถคลอดได้เองหลังจากที่สุนัขถุงน้ำคร่ำแตกนั่นเอง

3. การดูแลหลังคลอด

การดูแลหลังคลอดจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

3.1 การดูแลแม่สุนัข

สุนัขถุงน้ำคร่ำแตกที่ผ่านการคลอดลูกจะมีอาการเพลีย เนื่องจากการเสียเลือดจากการคลอด ดังนั้นเมื่อคลอดเสร็จแล้ว เจ้าของจะต้องป้องกันไม่ให้สุนัขตัวอื่นหรือคนอื่น ๆ เข้าไปรบกวนแม่สุนัข ถึงแม้ว่าจะเข้าไปด้วยความหวังดีก็ตาม เพราะแม่สุนัขจะมีสัญชาตญาณห่วงใยลูก ทำให้เมื่อมีคนหรือสุนัขตัวอื่นเข้าไป มันจะมีความระแวงจึงพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ แม้จะอ่อนเพลียมากก็ตาม สำหรับเรื่องอาหารแล้ว หากแม่สุนัขทำการกัดถุงน้ำคร่ำ รกและทำความสะอาดลูกด้วยตัวเอง แม่สุนัขจะอิ่มและไม่อยากอาหาร แต่ควรเตรียมน้ำไว้ด้วย เพราะร่างกายแม่สุนัขจะต้องการน้ำมากจากการเสียเลือดระหว่างการคลอดนั่นเอง

3.2 การดูลูกสุนัข

ลูกสุนัขที่คลอดออกมา สุนัขถุงน้ำคร่ำแตกจะทำความสะอาด หากตัวของลูกสุนัขยังไม่แห้งดี เจ้าของจะต้องทำการเช็ดตัวให้แห้ง เพื่อป้องกันความชื้นและสิ่งสกปรกติดตามตัวของลูกสุนัข และให้เจ้าของนำลูกสุนัขไปเข้าเต้านมเพื่อดูดนมแม่หลังจากที่คลอดออกมาแล้วภายใน 12-16 ชั่วโมง เนื่องจากน้ำนมที่ออกมาจากนมแม่ครั้งแรกเป็นน้ำนมสีเหลืองซึ่งเป็นน้ำนมที่มีคุณภาพสูง ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับลูกสุนัขได้เป็นอย่างดี และเจ้าของควรทำการชั่งน้ำหนักแรกเกิดของลูกสุนัข สำหรับเป็นข้อมูลดูพัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงของลูกสุนัขต่อไป

จะเห็นว่าการดูแลและทำคลอดสุนัขถุงน้ำคร่ำแตกนั้นไม่ยาก ซึ่งเป็นเฉพาะแม่สุนัขที่สามารถคลอดได้เองตามธรรมชาติเท่านั้น ถ้าเป็นแม่สุนัขที่ไม่สามารถคลอดได้เองตามธรรมชาติเจ้าของจะต้องรีบพาแม่สุนัขไปพบสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของแม่สุนัขและลูกสุนัขที่อยู่ในท้อง

อาการของแม่สุนัขถุงน้ำคร่ำแตก แต่คลอดเองไม่ได้!

สุนัขถุงน้ำคร่ำแตก

ตามธรรมชาติของแม่สุนัขส่วนมากจะสามารถคลอดลูกเองตามธรรมชาติได้ แต่ก็มีบางสายพันธุ์หรือบางกรณีที่แม่สุนัขไม่สามารถคลอดเองตามธรรมชาติได้ ซึ่งแม่สุนัขจะมีอาการดังนี้

  • สุนัขถุงน้ำคร่ำแตกจะทำการการเบ่งรุนแรงติดต่อกันมากว่า 30 นาที แต่ลูกสุนัขก็ยังไม่ออกที่บริเวณปากช่องคลอด
  • ตั้งแต่เริ่มต้นการคลอดจนน้ำคร่ำแตกใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมงแล้ว ลูกสุนัขยังไม่ออกมาจากช่องคลอดแม้แต่ตัวเดียวหรือลูกสุนัขตัวที่สองยังไม่ออกมา ในกรณีที่เจ้าของได้ทำการตรวจแล้วว่ามีลูกสุนัขมากกว่า 1 ตัว
  • ลูกสุนัขออกมาแต่ค้างอยู่ที่ปากช่องคลอดนานกว่า 15 นาที และไม่ยอมหลุดออกมาจากปากช่องคลอด
  • แม่สุนัขมีการตั้งท้องนานกว่า 66 วัน ซึ่งจะต้องทำการนับจากวันตกไข่และได้รับการผสมพันธุ์ เพราะลูกสุนัขที่มีอายุมากจะมีขนาดลำตัวที่ใหญ่กว่าปกติ
  • บริเวณปากช่องคลอดมีของเหลวสีเขียวเข้ม หรือมีเลือดออกจากปากช่องคลอดมากกว่าปกติ

หากสุนัขถุงน้ำคร่ำแตกมีอาการตามที่กล่าวมาข้างต้น แสดงว่าแม่สุนัขอยู่ในภาวะคลอดยาก ไม่สามารถทำการคลอดเองตามธรรมชาติได้ เจ้าของจะต้องรับพาแม่สุนัขพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการช่วยทำคลอดให้ต่อไป

สาเหตุที่สุนัขถุงน้ำคร่ำแตก แต่ไม่คลอดลูกออกมา

สุนัขถุงน้ำคร่ำแตก

แม่สุนัขบางตัวไม่สามารถคลอดเองได้ตามธรรมชาติ ทำให้เจ้าของจะต้องพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อช่วยทำคลอดให้กับลูกสุนัขที่อยู่ในท้อง ให้คลอดมาได้ปลอดภัยทั้งแม่สุนัขและลูกสุนัข โดยเฉพาะแม่สุนัขถุงน้ำคร่ำแตก แต่ยังไม่คลอดลูกออกมา ซึ่งสาเหตุที่ทำให้สุนัขคลอดยากก็มีดังนี้

  1. มดลูกล้า

    คือ อาการที่มดลูกของแม่สุนัขไม่มีการบีบรัดเพื่อเบ่งเอาลูกสุนัขออกมาจากมดลูก ส่งผลให้แม่สุนัขมีความเครียดและความเมื่อยล้ามดลูก จึงไม่สามารถคลอดลูกออกมาได้ ส่วนมากอาการมดลูกล้าจะเกิดในแม่สุนัขที่ไม่ค่อยแข็งแรงจึงไม่สามารถเบ่งคลอดลูกสุนัขออกมาได้หรือแม่สุนัขที่มีลูกเป็นจำนวนมาก เมื่อคลอดลูกตัวท้ายจะเกิดภาวะหมดแรง ไม่มีแรงเบ่งลูกนั่นเอง

  2. คลอดผิดท่า

    ท่าของลูกสุนัขที่คลอดง่าย คือ ท่านอนคว่ำเอาหน้าพุ่งออก แขนขาแนบกับลำตัว แต่ถ้าสุนัขหันเอาก้นหรือนอนหงายจะคลอดยาก

  3. ตัวลูกมีขนาดใหญ่เกินไป

    สำหรับแม่สุนัขสายพันธุ์เล็กหรือแม่สุนัขที่ได้รับการบำรุงเป็นอย่างดี จนทำให้ลูกสุนัขที่อยู่ในท้องมีขนาดที่ใหญ่มาก ทำให้เมื่อสุนัขถุงน้ำคร่ำแตกจะคลอดลูกสุนัขออกมาได้ยาก

  4. เชิงกรานแคบ

    แม่สุนัขบางสายพันธุ์จะมีเชิงกรานแคบ ดังนั้นเมื่อเกิดตั้งท้องแล้วจะทำให้ไม่สามารถคลอดลูกออกมาได้ เนื่องจากเชิงกรานจะขวางลูกสุนัขในท้อง ทำให้ไม่สามารถคลอดได้

  5. เคยประสบอุบัติเหตุ

    แม่สุนัขบางตัวที่เคยได้รับอุบัติเหตุเกี่ยวกับเชิงกราน ทำให้กระดูกส่วนเชิงกรานมีลักษณะที่ผิดปกติ ซึ่งความผิดปกตินี้จะส่งผลให้สุนัขถุงน้ำคร่ำแตกจึงไม่สามารถเบ่งคลอดได้เองตามธรรมชาติหรือเกิดภาวะคลอดยาก

  6. ท้องแรก

    แม่สุนัขที่ตั้งท้องแรก กระดูกเชิงกรานและมดลูกยังไม่แข็งแรงและต้องรองรับน้ำหนักของลูกสุนัข ทำให้โอกาสที่มดลูกของแม่สุนัขจะเกิดอาการล้าหรืออ่อนแรง ส่งผลให้เกิดภาวะคลอดยาก

  7. ปัจจัยด้านพันธุกรรม

    สุนัขที่ได้รับการผสมพันธุ์จากแม่สุนัขที่มีประวัติคลอดยากหรือเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ อย่าง มดลูกอักเสบ จะมีโอกาสเกิดภาวะคลอดยากได้มากกว่าสุนัขที่ได้รับการผสมจากแม่สุนัขที่ไม่มีประวัติดังกล่าว ดังนั้นหากต้องการผสมพันธุ์แม่สุนัขควรคัดเลือกแม่สุนัขที่ไม่เคยมีประวัติการป่วยหรือคลอดยากจะดี

จะเห็นว่าเมื่อแม่สุนัขถุงน้ำคร่ำแตกแสดงว่าแม่สุนัขเข้าสู่ภาวะพร้อมที่จะคลอดลูกสุนัขออกมาแล้ว ดังนั้นเจ้าของจะต้องทำการดูแลอย่างใกล้ชิดและคอยช่วยเหลือ หากถุงน้ำคร่ำของแม่สุนัขแตกแล้ว แต่เวลาผ่านไปมากกว่า 4 ชั่วโมง ลูกสุนัขยังไม่คลอดออกมา เจ้าของควรรีบพาแม่สุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อช่วยทำคลอดโดยด่วน เพื่อเป็นการรักษาชีวิตของแม่และลูกสุนัขให้ปลอดภัย

อ่านเรื่องราวสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม

  • 7 ประโยชน์การเลี้ยงสุนัข ที่คุณรู้แล้วต้องอึ้ง
  • วิธีเลี้ยงกระต่ายฮอลแลนด์ลอป สิ่งที่มือใหม่ควรรู้
  • 5 ภัยเงียบ เลี้ยงสุนัขในห้องนอน ที่คุณต้องระวัง!
  • มาดูกันว่า กระต่ายมีพันธุ์อะไรบ้าง ที่เป็นที่นิยมสุดๆ [2020]
  • รู้ถึงสาเหตุและวิธีการดูแลสุนัข ดูแลอย่างไรดีเมื่อสุนัขถ่ายไม่ออก
  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

Related

Filed Under: น้องหมา Tagged With: น้องหมาคลอดลูก, สุนัขคลอดลูก, สุนัขถุงน้ำคร่ำแตก, สุนัขน้ำคร่ำแตก, หมาถุงน้ำคร่ำแตก

ABOUT BOX MEAW

@BoxMeaww
ผู้ที่ชื่นชอบน้องหมา และน้องแมว เป็นชีวิตจิตใจ

Reader Interactions

You must log in to post a comment.

Primary Sidebar

Recent Posts

  • อายุของหมา เทียบกับอายุคนเป็นกี่ปี และการดูแลหมาแต่ละช่วงวัย
  • นิสัยสุนัขพันธุ์ต่างๆ เป็นอย่างไร ต้องรู้ก่อนคิดจะเลี้ยง
  • เรื่องน่ารู้ กับการเลี้ยงนก ต้องรู้อะไรบ้างถ้าอยากเลี้ยง
  • 7 เรื่องที่ทาสแมวต้องรู้ ถ้าคิดจะเลี้ยงแมวในคอนโด
  • สุนัขพิทบูล สุนัขพันธุ์ใหญ่ ขาโหดที่หลายคนนิยมเลี้ยง

ติดตามผ่านทาง Facebook

  • Popular

Recent Comments

    Categories

    • น้องต่าย
    • น้องนก
    • น้องปลา
    • น้องหมา
    • น้องแมว
    • อลาสกัน คลี ไค
    • อลาสกัน มาลามิวท์
    • เรื่องราวอื่น ๆ
    • ไซบีเรียน ฮัสกี้

    Archives

    • April 2022
    • February 2022
    • January 2022
    • November 2021
    • October 2021
    • September 2021
    • August 2021
    • July 2021
    • June 2021
    • May 2021
    • April 2021
    • March 2021
    • November 2020
    • October 2020
    • September 2020
    • August 2020
    • July 2020
    • June 2020
    • May 2020
    • April 2020
    • March 2020
    • January 2020
    • December 2019
    • November 2019
    • July 2019

    Before Footer

    ติดตามผ่าน Instagram

    Follow on Instagram
    • Home
    • Privacy Policy
    • Contact

    Copyright © 2025 · Wellness Pro on Genesis Framework · WordPress · Log in