
สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ใกล้ชิดกับมนุษย์อย่างมาก แต่แม้ว่าจะมีความใกล้ชิดเพียงใดพวกมันก็ไม่สามารถที่จะบอกมนุษย์ได้ถึงอาการเจ็บป่วย อย่างไรก็ตามผู้เลี้ยงสามารถสังเกตถึงอาการและสัญญาณต่างๆ ที่แสดงว่า สุนัขป่วย ได้ ดังนั้นเรามาดูกันว่าอาการไหนบ้างที่บ่งบอกว่าสุนัขที่เลี้ยงอยู่มีอาการไม่สบาย เพื่อที่จะได้พาไปพบแพทย์และทำการรักษาได้ทันนั่นเอง
อาการแสดงแบบไหนที่บ่งบอกว่า สุนัขป่วย
ผู้เลี้ยงหรือเจ้าของถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างมากในการช่วยดูแลไม่ให้สุนัขเกิดความป่วยและมีสุขภาพที่ดีให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งอาการป่วยของสุนัขก็อาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ และสุนัขก็ไม่สามารถอธิบายอาการไม่สบายดังกล่าวให้มนุษย์ได้รู้ แต่ผู้เลี้ยงสามารถสังเกตอาการแสดงของโรคได้ก่อน ซึ่งการรู้ถึงสัญญาณที่บ่งบอกว่าสุนัขไม่สบายเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงของสัตว์เลี้ยงที่จะได้รับผลกระทบจากโรคเหล่านี้ เพราะจะได้หาทางดูแลและรักษาก่อนที่โรคจะดำเนินไปในทางที่รุนแรงกว่านี้ สำหรับสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าสุนัขอาจมีอาการป่วยและต้องการการดูแลจากสัตวแพทย์ที่พบมาก มีอยู่ด้วยกันดังต่อไปนี้
1.เบื่ออาหาร กินน้ำมากขึ้นหรือน้อยลง
สัญญาณเตือนที่บอกว่าสุนัขอาจมีบางอย่างที่ผิดปกติหรือไม่สบายก็คือจู่ๆ สุนัขของคุณไม่สนใจที่จะกินอาหาร แม้ว่าจะเป็นอาหารที่เคยชอบกินอย่างมากก็ตาม สุนัขส่วนใหญ่มีนิสัยการกินในรูปแบบของตัวเองและอาจกินอาหารเป็นจำนวนมากกว่าปกติในบางวัน แต่ถ้าสุนัขไม่ยอมกินอาหารหรือกินไม่หมด ก็เป็นสัญญาณหนึ่งที่เจ้าของต้องให้ความใส่ใจอย่างใกล้ชิด และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของการดื่มน้ำก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความใส่ใจ เพราะการดื่มน้ำมากหรือน้อยกว่าปกติอาจเป็นสัญญาณว่าสุนัขป่วย การดื่มน้ำมากเกินไปอาจบ่งบอกว่าสุนัขมีไข้ มีปัญหาเรื่องฮอร์โมน หรือปัญหาเกี่ยวกับไตหากสุนัขมีอาการเบื่ออาหารหรือไม่ยอมกินอาหารเลยเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ควรพาไปพบแพทย์
2.พฤติกรรมเปลี่ยนไป
เมื่อสุนัขเกิดความเจ็บปวดหรือรู้สึกไม่สบาย มันจะแสดงการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมที่เห็นได้ชัดเจนอย่างฉับพลัน อย่างสุนัขที่ชอบอยู่กับคนอาจมีการปลีกตัวไปหลบนอนอยู่เงียบๆ หรือสุนัขที่อ่อนโยนร่าเริงมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปเป็นก้าวร้าว หรือเซื่องซึม เมื่อเข้าไปใกล้อาจมีการส่งเสียงขู่หรือเห่า ไม่ยอมให้จับตัว แต่ทั้งนี้สุนัขบางตัวที่มีอาการป่วยก็อาจจะแสดงพฤติกรรมที่ติดผู้เลี้ยงมากขึ้น อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสุนัขที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าพวกมันอาจมีอาการไม่สบาย
3.ปัสสาวะบ่อยขึ้นหรือปัสสาวะน้อยลง
สุนัขที่มีอาการกระหายน้ำมากขึ้นและปัสสาวะมากขึ้นอาจเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงภาวะเบาหวาน อีกทั้งการปัสสาวะมากกว่าปกติก็เป็นสัญญาณที่แสดงถึงโรคตับ,โรคไตหรือโรคต่อมหมวกไต ในทางตรงกันข้าม การปัสสาวะน้อยเกินไปหรือปัสสาวะลำบาก มักเป็นสัญญาณที่บอกถึงปัญหาทางเดินปัสสาวะหรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งต้องพาไปพบแพทย์โดยเร่งด่วน นอกจากนี้สีของปัสสาวะที่ผิดปกติก็เป็นสิ่งที่ต้องสังเกตเช่นเดียวกัน เช่น ปัสสาวะเป็นเลือดหรือมีสีชมพู ควรต้องรีบพาไปตรวจโดยด่วนเช่นกัน
4.ขนร่วงหรือคันผิวหนัง
หมัด ,เห็บ,ขี้เรื้อน และไรในหูเป็นสาเหตุที่ทำให้ขนสุนัขร่วงและมีอาการคันที่ผิวหนังหรือรอบหู พวกมันอาจเกาที่หูจนขนหลุดร่วงและเกิดแผล แต่นอกเหนือจากนี้อาการดังกล่าวก็อาจเกิดขึ้นจากปัญหาต่อมไร้ท่อ ,การติดเชื้อ Staph ,การติดเชื้อราหรือยีสต์ และสาเหตุอื่นๆ อีกมากมายรวมถึงฮอร์โมน ดังนั้นเมื่อมีอาการเช่นนี้ไม่ควรนิ่งนอนใจ รีบพาไปตรวจกับสัตวแพทย์จะดีที่สุด
5.ไอ และมีอาการของระบบทางเดินหายใจ
อาการไอ หายใจมีเสียงหวีด มีน้ำมูก ล้วนเป็นสัญญาณของปัญหาระบบทางเดินหายใจ หากสุนัขมีอาการไอเรื้อรัง อาจไม่ได้เกิดจากปัญหาโรคทางเดินหายใจเพียงอย่างเดียวแต่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโรคหัวใจ พยาธิหนอนหัวใจ หรือโรคปอดได้อีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้าม สุนัขที่มีใบหน้าสั้นเช่น บ็อกเซอร์, บูลด็อก ,ปั๊ก และบอสตัน เทอร์เรียร์ หากมีอาการไอจะมีอันตรายมากกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น เพราะกายวิภาคของศีรษะดังกล่าวทำให้หายใจได้ลำบาก สุนัขที่มีอาการไอรุนแรง อาจเกิดจากหลอดลมอักเสบ ซึ่งหากได้รับการรักษาที่ดีจะทำให้หายได้ภายในสองสัปดาห์ แต่หากลูกสุนัขมีอาการไออาจเป็นอันตรายมากกว่าที่คิดเพราะอาจนำไปสู่โรคปอดบวมที่มีความรุนแรงมากกว่าได้
6.อาเจียน ท้องเสีย
ลูกสุนัขที่ซุกซนอาจกินของบางอย่างที่ไม่ควรกินเข้าไป เช่น ใบไม้หรือกระดาษซึ่งจะทำให้พวกมันอาเจียนออกมาซึ่งอาการดังกล่าวไม่ได้มีความน่ากังวลมากนัก เพียงแต่ต้องดูแลไม่ให้พวกลูกสุนัขกินอะไรที่ไม่ควรกิน แต่หากสุนัขมีอาการอาเจียนหลายครั้ง ร่วมกับอาการซึมและเบื่ออาหาร เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าพวกมันเริ่มป่วยและอาจต้องพาไปพบแพทย์ อาการที่ร้ายแรงอีกอย่างหนึ่ง คือ มีเลือดปนในอาเจียนหรืออาเจียนเป็นเลือดหรือมีสีเหมือนกากกาแฟซึ่งมีสาเหตุมาจากแผลในกระเพาะอาหาร โดยแผลดังกล่าวอาจเกิดจากการกลืนกระดูกแหลมคม,ของเล่น,ตะขอ,ตะปู หรือของอื่นๆ ส่วนอาการท้องเสียอาจมีสาเหตุมาจากโรคทางเดินอาหารหรือการติดเชื้อปรสิตที่รวมถึงพยาธิ หากมีเลือดปนในอุจจาระก็เป็นสิ่งที่ผู้เลี้ยงมองข้ามไม่ได้เช่นกัน
7.กล้ามเนื้อแข็งตึงเกร็ง,กล้ามเนื้อออ่อนแรง ลุกไม่ขึ้น
สุนัขที่มีอาการกล้ามเนื้อแข็งตึง เป็นตะคริว ขาไม่สามารถรับน้ำหนักได้ หรือมีปัญหาลุกจากพื้นได้ลำบาก อาจเป็นโรคข้อสะโพกหรือกระดูกสันหลัง ,โรคหมอนรองกระดูก ,เอ็นฉีกขาด หรือข้อสะโพกผิดปกติ นอกจากนี้ยังอาจเป็นโรคที่เกิดจากเห็บ เช่น โรค Lyme ก็สามารถทำให้เกิดโรคข้ออักเสบได้เช่นกัน ข้อสะโพกที่ผิดรูปของสุนัขหรือข้อต่อสะโพกพัฒนาที่ผิดปกติเป็นสาเหตุของโรคข้อเสื่อม ในสุนัขที่มีขนาดตัวค่อนข้างตัวใหญ่ เช่น เยอรมันเชพเพิร์ด ,ลาบราดอร์ และโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ มีแนวโน้มที่จะเกิดโรคเช่นนี้ได้มาก เพราะสุนัขตัวใหญ่มักมีปัญหาเกี่ยวกับปัญหาข้อต่อที่สืบทอดมาจากพันธุกรรมซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโรคข้ออักเสบเมื่ออายุมากขึ้น นอกจากความเจ็บปวดและเคลื่อนไหวลำบากแล้ว โรคข้ออักเสบยังสามารถส่งผลร้ายอื่นๆ ตามมาได้ ตัวอย่างเช่น สุนัขที่ไม่สามารถลุกขึ้นได้เองทำให้ต้องนอนติดอยู่กับพื้นจนกลายเป็นแผลกดทับ ที่จะทำให้เกิดหนอนและแมลงเข้ามาตอมแผล
สิ่งที่ต้องทำเมื่อสุนัขป่วย
เมื่อสุนัขมีอาการป่วย ผู้เลี้ยงจะต้องรีบพาสุนัขไปตรวจและปรึกษากับสัตวแพทย์โดยทันที ไม่ควรซื้อยามาป้อนเองเพราะอาจไม่ถูกกับโรคของสุนัขและอาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้
ดูแลให้อาหารและน้ำสุนัขอย่างเพียงพอ แม้ว่าช่วงที่ป่วยนั้นสุนัขอาจมีอาการเบื่ออาหาร ผู้เลี้ยงก็ต้องให้อาหารด้วยการแบ่งส่วนอาหารเป็นส่วนเล็กๆและใช้วิธีการป้อนบ่อยๆ และอาหารที่ให้กินนี้ควรเป็นอาหารเหลวที่มีสารอาหารครบถ้วนและพลังงานสูงเพื่อช่วยให้สุนัขฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น รวมถึงต้องให้กินน้ำอย่างเพียงพอ ซึ่งอาหารดังกล่าวนี้ควรปรึกษากับสัตวแพทย์ก่อนว่าอะไรที่กินได้และอะไรที่กินไม่ได้บ้าง และควรให้ยาสุนัขตามแผนการรักษา โดยอาจจะผสมในอาหารหรือหากเป็นยาน้ำก็ให้ใส่ในไซริงก์แล้วป้อนให้สุนัขกิน
สุนัขป่วยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าจะมีการดูแลและการป้องกันที่ดีก็ตามด้วยเหตุผลทางด้านอายุที่มากขึ้นหรือพันธุกรรมรวมถึงสาเหตุอื่นๆ สิ่งที่ผู้เลี้ยงสามารถทำได้ก็คือรู้จักสังเกตอาการแสดงที่บ่งบอกว่าสุนัขป่วยเพื่อที่จะได้รีบให้การดูแลได้เร็วขึ้น รวมถึงเรียนรู้วิธีการดูแลสุนัขที่ป่วยเพื่อให้พวกมันมีสามารถฟื้นตัวจากอาการป่วยและทำให้รู้สึกดีขึ้น
อ่านสาระน้องหมา อื่น ๆ;