โรคหนองในหรืออาการมดลูกอักเสบเป็นโรคที่พบได้บ่อยในสุนัขเพศเมียที่มีอายุมาก ปัจจุบันโรคหนองในเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ว่าก็มีสุนัขจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียชีวิตจากโรคนี้เช่นกัน ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเจ้าของสุนัขยังมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ไม่มาก ทำให้เมื่อรู้ว่า สุนัขเป็นหนองใน ก็สายไปเสียแล้ว อาการอยู่ในขั้นที่รุนแรงจนไม่สามารถรักษาได้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโรคหนองในในสุนัขว่าที่มีลักษณะอย่างไร และเพราะอะไร ทำไมโรคนี้ถึงอันตรายกับสุนัข
สุนัขเป็นหนองใน เกิดจากอะไร
โรคหนองในหรือโรคมดลูกอักเสบเป็นหนอง (Pyometra) คือ โรคที่เกิดจากระบบสืบพันธุ์เกิดการติดเชื้อหรือภาวะอักเสบขึ้น โดยเฉพาะที่มดลูกของสุนัขเพศเมีย ซึ่งในปัจจุบันพบว่าอัตราการพบโรคหนองในในสุนัขเพศเมียมีอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทางด้านการแพทย์ยังไม่ทราบถึงกลไกการเกิดที่แน่นอน แต่ได้มีการสันนิฐานว่ากลไกการที่สุนัขเป็นหนองในเกิดจากการที่ปริมาณฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นในช่วงติดสัดแต่ไม่รับการผสมพันธุ์ ทำให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนยังคงอยู่ไม่ได้ลดลงหลังจากการฝังของตัวอ่อนบนผนังมดลูก หากมีการผสมพันธุ์ และเมื่อปริมาณฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนยังสูงอยู่จะ ส่งผลให้ต่อมเยื่อบุมดลูกหรือต่อมเยื่อบุโพรงมดลูกมีการขยายตัวใหญ่และหนาขึ้นจนมีลักษณะคล้ายกับถุงน้ำภายในมดลูก นอกจากนี้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนยังเข้าไปกระตุ้นการสร้างสารคัดหลั่งในมดลูกให้มีการสร้างในปริมาณที่มากขึ้น ส่งผลให้มดลูกมีการบีบรัดตัวน้อยลง มดลูกจึงมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่มดลูกผ่านทางช่องคลอดนั่นเอง เจ้าเชื้อแบคทีเรียนี้จะเข้าทำให้มดลูกเกิดภาวะติดเชื้อ อักเสบและเป็นหนองอยู่ภายในมดลูก
จะเห็นว่าสาเหตุที่ทำให้สุนัขเป็นหนองในที่แท้จริงก็คือ ความผิดปกติของระดับฮอร์โมนภายในร่างกาย เนื่องจากสังคมในปัจจุบันมีการเลี้ยงสุนัขในระบบปิดหรือเลี้ยงภายในบ้านไม่ให้สุนัขของตนยุ่งเกี่ยวกับสุนัขภายนอก ทำให้สุนัขไม่ได้รับการผสมพันธุ์เมื่อมีอาการติดสัด และสุนัขที่มีอายุมาก ผ่านการติดสัดและฉีดยาคุมกำเนิดมาแล้วหลายครั้ง ผนังมดลูกจะหนาขึ้น จึงมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหนองในมากขึ้นตามไปด้วย
สุนัขที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหนองใน
สุนัขทุกตัวมีโอกาสที่จะเป็นโรคหนองในได้ แต่สุนัขที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคหนองใน คือ สุนัขเพศเมียที่มีอายุมากกว่า 6 ปีขึ้นไป ที่ผ่านการติดสัดหลายครั้งและทุกครั้งที่ติดสัดไม่ได้รับการผสมพันธุ์เลยแม้แต่ครั้งเดียว และสุนัขที่มีความเสี่ยงสูงยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ สุนัขที่เคยได้รับการผสมพันธุ์และโดนฉีดยาคุมกำเนิดมาตลอด พบว่าสุนัขแบบนี้จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคหนองในมากกว่าสุนัขเพศเมียที่ไม่เคยฉีดยาคุมกำเนิดมาก่อนเลย
ชนิดของโรคหนองในที่พบในสุนัขเป็นหนองใน
โรคหนองในที่พบในสุนัขเพศเมียมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ ซึ่งแบ่งตามลักษณะการไหลของของเหลวที่อยู่ภายในมดลูก คือ
มดลูกอักเสบแบบเปิด ( Open pyometra )
เป็นลักษณะโรคหนองในที่พบได้บ่อย โดยภาวะมดลูกอักเสบแบบเปิด สุนัขเป็นหนองในจะมีของเหลวไหลออกมาจากปากมดลูกออกมาข้างนอก ทำให้สังเกตเห็นอย่างชัดเจน ซึ่งลักษณะของเหลวที่ไหลออกมาจะมีลักษณะอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการด้วย
มดลูกอักเสบแบบปิด (Closed pyometra)
เป็นลักษณะของโรคหนองในที่พบได้น้อย แต่ว่าสุนัขที่ป่วยเป็นโรคหนองในแบบปิดจะมีอันตรายมากกว่าสุนัขเป็นหนองในแบบเปิด เนื่องจากโรคหนองในแบบปิดจะไม่มีของเหลวไหลออกมาจากปากช่องคลอด มีแต่อาการซึม เบื่ออาหาร ซึ่งเจ้าของส่วนมากจะสันนิฐานอาการป่วยเป็นโรคอื่น ทำให้สุนัขได้รับการรักษาที่ล่าช้าหรืออาการของโรครุนแรงมากขึ้น และหากทำการรักษาไม่ทันท่วงที สุนัขอาจเกิดภาวะติดเชื้อและเสียชีวิตได้
ดังนั้นหากสุนัขมีอาการคล้ายคลึงกับสุนัขที่เป็นโรคหนองใน แต่ไม่มีของเหลวไหลออกมาจากช่องคลอด ควรสันนิฐานไว้ก่อนเลยว่าเป็นโรคหนองในและนำไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาอย่างละเอียดทุกครั้ง
อาการของสุนัขเป็นหนองใน
สุนัขที่เกิดภาวะมดลูกอักเสบหรือเป็นหนองในมดลูกจะแสดงอาการที่แตกต่างกันออกไป แต่ลักษณะโดยทั่วไปที่ช่วยบ่งบอกว่าสุนัขเป็นหนองใน คือ
- เบื่ออาหารหรือเมื่อกินอาหารแล้วอาเจียนออกมาจนหมด
- ซึมหรืออ่อนแรง ไม่ร่าเริง นอนซมทั้งวัน ไม่ยอมลุกเดินหรือเล่น
- กินน้ำมาก โดยเจ้าของจะสังเกตได้ว่าสุนัขเป็นหนองในจะดื่มน้ำมากกว่าปกติหลายเท่า
- ปัสสาวะมาก หลายคนอาจคิดว่าเมื่อดื่มน้ำมาก ย่อมต้องปัสสาวะมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว สุนัขปกติจะปัสสาวะไม่เกินวันละ 6 ครั้ง และสุนัขที่ได้รับการฝึกแล้วจะปัสสาวะเพียงแค่ 2-3 ครั้งต่อวันเท่านั้น ดังนั้นหากสุนัขปัสสาวะมากกว่าปกติทุกวันก็คือว่าผิดปกติแล้ว
- ท้องเสีย ปวดเกร็งท้อง โดยสุนัขมีการถ่ายเป็นน้ำ ถ่ายเหลวหรือมีมูกเลือด เนื่องจากเชื้อที่มดลูกได้กระจายเข้ามาสู่ระบบทางเดินอาหารนั่นเอง
- ท้องมีขนาดใหญ่ขึ้น สุนัขเป็นหนองในจะมีการสะสมของของเหลวหรือหนองในมดลูกเป็นจำนวนมาก ทำให้ท้องมีขนาดใหญ่ขึ้นจนสังเกตได้ด้วยตาเปล่า
- มีสารคัดหลั่งออกจากช่องคลอด อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของสุนัขที่เป็นหนองในก็คือ การมีของเหลวไหลออกจากปากช่องคลอดหรือบริเวณอวัยวะเพศ โดยลักษณะของเหลวที่ออกมาจะเป็นสีขาวขุ่น สีใส สีเหลืองหรือสีเหลืองปนแดง หากมดลูกเกิดการอักเสบมาก ๆ ของเหลวที่ไหลออกมาจะเป็นหนองปนเลือด หรือเป็นเลือดสีคล้ำ
ที่กล่าวมานี้เป็นลักษณะอาการของสุนัขเป็นหนองในที่พบได้บ่อยและเป็นอาการบ่งชี้ว่าสุนัขมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหนองใน ดังนั้นหากพบว่าสุนัขมีอาการข้างต้นให้สันนิฐานไว้ก่อนว่าสุนัขอาจจะป่วยเป็นโรคหนองในได้ ให้รีบพาสุนัขไปพบสัตว์แพทย์เพื่อทำการตรวจรักษา เพราะหากปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน เชื้ออาจเกิดการแพร่กระจายจากมดลูกไปสู่อวัยวะภายในและแพร่เข้ากระแสเลือด ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
แนวทางในการรักษาสุนัขเป็นหนองใน
การรักษาสุนัขที่ป่วยเป็นโรคหนองใน มีแนวทางในการรักษาอยู่ด้วยกัน 2 วิธี ซึ่งแต่ละวิธีนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน ดังนี้
การผ่าตัดเอามดลูกและรังไข่ออก
การผ่าตัดเอาส่วนของระบบสืบพันธุ์ของสุนัขเป็นหนองในออกถือเป็นการรักษาที่นิยมใช้กันมาก ซึ่งระบบสืบพันธุ์ที่ต้องทำการตัดออก เช่น มดลูก รักไข่ ท่อนำไข่ เป็นต้น โดยการผ่าตัดแบบนี้จะมีลักษณะเหมือนการทำหมันสุนัขทั่วไป แต่ว่าแผลที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดจะมีขนาดที่ใหญ่เล็กน้อย การรักษาด้วยการผ่าตัดเอาระบบสืบพันธุ์ออกทั้งหมด ถือเป็นการรักษาแบบถาวรที่ช่วยให้สุนัขไม่มีโอกาสกลับมาเป็นหนองในได้อีก สุนัขที่รักษาด้วยการผ่าตัดจะหายจากอาการป่วยและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ว่าการผ่าก็จะมีข้อเสียคือ สุนัขจะไม่สามารถสืบพันธุ์หรือมีลูกได้อีก
การให้ยา
การใช้ยาสามารถรักษาสุนัขเป็นหนองในได้เช่นเดียวกับการผ่าตัด แต่ว่าการใช้ยาจะต้องอาศัยระยะเวลาในการรักษาที่นานกว่า โดยการรักษาส่วนมากสัตวแพทย์จะทำการฉีดฮอร์โมนโพสตราแกรนดิน (Protaglandins) เข้าสู่ร่างกายของสุนัข ซึ่งฮอร์โมนโพสตราแกรนดินจะเข้าไปทำปฏิกิริยาภายในร่างกาย ส่งผลให้ปริมาณของโปรเจสเตอโรนลดลง ทว่าการรักษาด้วยยาสามารถใช้รักษาสุนัขที่เป็นหนองในในระยะเริ่มต้นหรือมีอาการไม่รุนแรงเท่านั้น หากอาการของโรคอยู่ในขั้นที่รุนแรงหรือลุกลามแล้ว การใช้ยาจะไม่สามารถรักษาได้ ต้องใช้วิธีการผ่าตัดเท่านั้น โดยการรักษาสุนัขเป็นหนองในที่ดีและปลอดภัยที่สุด คือ การผ่าตัดเอาอวัยวะของระบบสืบพันธุ์ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของและการวินิจฉัยของสัตวแพทย์ด้วย
จะเห็นว่าสุนัขเพศเมียทุกตัวมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหนองในหรือมดลูกอักเสบได้ โดยเฉพาะสุนัขเพศเมียที่ได้รับการฉีดยาคุมกำเนิดและไม่เคยได้รับการผสมพันธุ์มาก่อน ดังนั้นหากไม่ต้องการให้สุนัขตั้งท้องแล้ว ควรเลือกทำหมันแทนการฉีดยาคุมกำเนิดเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงที่จะทำให้สุนัขเป็นหนองในได้ดี นอกจากจะช่วยให้สุนัขปลอดภัยแล้ว ยังช่วยให้สุนัขมีสุขภาพที่แข็งแรงไม่เจ็บป่วยด้วยโรคหนองในหรือมดลูกอักเสบอีกด้วย
อ่านเรื่องราวสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม;