ปัญหาเรื่อง หมาตาแฉะ เป็นหนึ่งในปัญหาที่ใครหลายๆ คนรู้สึกกังวลใจ เพราะผู้เลี้ยงบางรายอาจจะเป็นมือใหม่ที่ยังไม่เคยเลี้ยงน้องหมามาก่อนหรือไม่เคยพบกับปัญหานี้ แม้จะดูว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ถ้าดูแลรักษาไม่ดีก็อาจทำให้น้องหมาต้องเสียตาไปได้เช่นกัน ดังนั้นลองมาดูว่าปัญหา หมาตาแฉะ นั้นจะมีอาการอย่างไรและเกิดจากเหตุใดบ้าง
อ่านสาระน้องหมาอื่น ๆ เพิ่มเติม;
รู้ทันโรคไร ขี้เรื้อน รักษาอย่างไรเมื่อน้องหมาของเราเป็นโรคขี้เรื้อน
คนรักหมาต้องรู้ วิธีอาบน้ำหมา อาบอย่างไรให้น้องมีสุขภาพขนและผิวหนังที่ดี
ช่วยด้วยครับ! หมาหายใจแรง [ผิดปกติหรือเปล่า]
สาเหตุของอาการ หมาตาแฉะ
การที่น้องหมาเกิดอาการตาแฉะอาจจะมาจากหลากหลายสาเหตุ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ โรคเยื่อบุตาอักเสบในสุนัขที่เยื่อบุตาและเนื้อรอบเปลือกตาจะมีปัญหาติดเชื้อ โดยอาจจะมีทั้งสีแดงและสีเขียวเกิดขึ้นที่บริเวณดวงตา รวมไปถึงอาการที่หนักขึ้นจนเกิดเป็นเนื้องอกขึ้นที่ดวงตาด้วยเช่นกัน โดยสาเหตุที่เกิดขึ้นจะมาจากอาการติดเชื้อแบคทีเรียจากความสกปรกต่างๆ ถ้าเกิดกับสุนัขโตอาจจะมาจากโรคตาแห้งและการติดเชื้อ Canine distemper virus แต่ถ้าพบในสุนัขขนาดเล็กหรือขนาดแรกเกิดอาจจะมาจากขี้ตาแรกเกิดที่จะมีเป็นจำนวนมาก เมื่อแม่สุนัขไม่ยอมทำความสะอาดลูกก็จะทำให้สามารถติดเชื้อได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ปัญหาของขี้ตาแฉะในสุนัขเกิดขึ้นได้จากอีกหลายสาเหตุดังนี้
- การเกิดจากโรคภูมิแพ้เฉพาะตัวของสุนัขเอง
- เกิดจากโรค Follicular conjunctivitis
- เกิดจากโรคโรค Plasma-cell conjunctivitis หรือโรคอักเสบของเยื่อบุตาตรงส่วนของ Plasma Cell ซึ่งโรคนี้จะพบได้มากในกลุ่มของสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ด
- โรคจากการแพ้ภูมิของตัวเอง
- โรคจากมะเร็งเนื้องอกที่ดวงตา
- โรคจากการมีแผลที่เป็นตุ่มสีขาวระหว่างกระจกตาและตาขาว ซึ่งจะพัฒนากลายเป็นมะเร็งในอนาคต
- การมีวัตถุแปลกปลอมกระเด็นเข้าสู่เยื่อบุตา
- การระคายเคืองจากฝุ่นละออง สารเคมี และการใช้ยาที่ดวงตาบางชนิด
- เกิดจากโรค Ulcerative keratitis
- เกิดจากโรคม่านตาส่วนหน้าเกิดอาการอักเสบรุนแรง
- เกิดจากโรคเกี่ยวกับความดันภายในดวงตาหรือโรคต้อหิน
สำหรับการวินิจฉัยโรคตาแฉะของสุนัข ทางสัตวแพทย์จะต้องทำการตรวจสอบและหาโรคอื่นๆ ที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาตาแฉะได้มากกว่าการเป็นโรคตาอักเสบทั่วไป โดยจะมีการตรวจละเอียดทั้งการย้อมสีตาเพื่อให้สามารถมองเห็นรอยแผลภายในกระจกตา รอยขีดข่วน หรือวัตถุที่อาจจะหลุดเข้าไปภายในดวงตาได้ชัดเจนมากขึ้น จนสามารถที่จะวินิจฉัยได้ดีที่สุด นอกจากนี้ยังจะมีการวัดความดันภายในลูกตาเพื่อมองหาโรคต้อต่างๆ พร้อมการนำขี้ตาของสุนัขไปทำการตรวจสอบแบบเพาะเชื้อและเก็บตัวอย่างเซลล์ภายในเยื่อบุตา เพื่อนำไปตรวจให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะใช้วิธีเหล่านี้ในสุนัขที่ถูกวินิจฉัยว่าอาจจะเกิดอาการตาแฉะจากภูมิแพ้, โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรืออาการทางผิวหนังบางชนิด แต่ถ้าเกิดขึ้นในลูกสุนัขตั้งแต่แรกคลอดไปจนถึงลูกสุนัขขนาดเล็กที่เกิดมาเพียงไม่กี่วัน ทางสัตวแพทย์จะต้องมีการเปิดเปลือกตาแบบระมัดระวังเพื่อทำความสะอาดดวงตา จากนั้นทายาปฏิชีวนะจนกว่าอาการจะดีขึ้น ซึ่งขั้นตอนการทำความสะอาดดวงตาลูกสุนัขจะต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังที่สุดและสะอาดที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อเพิ่ม
การแสดงอาการของน้อง หมาตาแฉะ ที่บ่งบอกให้รู้ว่ากำลังป่วย
เมื่อน้องหมามีอาการตาแฉะ เจ้าของสามารถสังเกตอาการของน้องหมาได้ดังนี้
1.อาการตาแดง
อาการตาแดงจะเกิดขึ้นในลักษณะของตาขาวมีสีแดงคล้ายเลือดและในตาดำเริ่มขุ่นออกสีแดงเช่นเดียวกัน โดยจะเกิดจากเยื่อตาขาวอักเสบและกระจกตาอักเสบ มีการติดเชื้อหรืออาจจะมีสิ่งสกปรก รวมไปถึงสิ่งแปลกปลอมต่างๆ กับสารเคมีเข้าสู่ดวงตา ในช่วงแรกจะเกิดเป็นเพียงอาการระคายเคือง แต่เมื่อเริ่มอาการหนักขึ้นจะเริ่มมีเลือดออกภายในตาขาวและกลายเป็นเลือดคั่งไปในที่สุด
2.อาการตาขาว
มีลักษณะเป็นสีตาที่มีความขุ่นขาวขึ้นที่บริเวณตาดำ โดยจะเป็นเพียงแค่จุดเล็กๆ ที่กลางดวงตาก่อน จากนั้นจะขยายวงกว้างมากขึ้นจนกระทั่งกระจกตาขุ่นอย่างเห็นได้ชัด จะมีการสะสมของไขมันอยู่ที่กระจกของตา ซึ่งลักษณะของตาขุ่นขาวนี้จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อหินสูงเลยทีเดียว
3.อาการตาแห้ง มีขี้แฉะเกาะ
ลักษณะของหมาตาแฉะ แบบแห้งจนข้น จะมีลักษณะที่คล้ายกับขี้ตาแห้งเกรอะกรังและติดอยู่ภายในดวงตาเป็นจำนวนมาก ต่อให้เช็ดทำความสะอาดไม่นานก็จะมาเกาะใหม่อีกครั้ง จะมีลักษณะเป็นขี้ตาแฉะแบบเหนียวข้นและอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองเรื้อรัง ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากอาการภูมิแพ้ที่เยื่อตาขาวอักเสบ
4.มีน้ำตาไหลตลอดเวลา
ลักษณะของตาแฉะแบบเรื้อรังเป็นอาการน้ำตาไหลออกจากดวงตาตลอดเวลา โดยน้องหมาจะมีอาการระคายเคือง เปิดตาได้แค่เพียงข้างเดียวหรือกระพริบตาบ่อยครั้ง แต่ถ้าเกิดท่อน้ำตาอุดตันก็อาจจะทำให้ส่วนของท่อน้ำตาปูดขึ้นมาได้เช่นกัน
5.เริ่มมองไม่เห็น
เมื่อเกิดอาการและปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับตา น้องหมาจะเริ่มเดินชนของภายในบ้านหรือมองไปทางอื่นเมื่อเวลาที่เจ้าของเรียกหา นั่นคือการแสดงให้เห็นว่าการมองเห็นเริ่มเลือนลางหรืออาจจะถึงขั้นมองไม่เห็นไปเลยก็ได้เช่นกัน
6.มีเนื้องอกขึ้นที่ดวงตา
ลักษณะของเนื้องอก คือ จะมีเนื้อที่ผิดปกติงอกออกมาจากภายในดวงตา โดยอาจจะมีทั้งสีแดง สีขาว หรือสีเข้ม เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว จะทำให้น้องหมามองเห็นสิ่งของหรือสถานการณ์ตรงหน้าไม่ชัดเจน จึงทำให้เดินชนเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของต่างๆ ภายในบ้านได้ง่าย ซึ่งเนื้องอกนี้จะงอกออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
วิธีการดูแลอาการ หมาตาแฉะ หรือโรคเยื่อบุตาอักเสบ
เมื่อคุณได้พาน้องหมาตาแฉะ ไปทำการรักษากับสัตวแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณต้องรู้วิธีการดูแลน้องหมาหลังการรักษาอย่างถูกต้อง ดังนี้
- ไม่จับหรือกระตุ้นที่แผลของน้องหมาหลังการรักษาเด็ดขาด แม้แต่ตัวน้องหมาเองก็ไม่ควรเกาที่แผล จึงควรใส่คอลลาเพื่อป้องกันไม่น้องหมาเกาและไม่ให้สิ่งแปลกปลอมใดๆ กระเด็นเข้ามาโดนดวงตาได้ง่าย
- งดการเล่นหรือใช้ชีวิตร่วมกับน้องหมาตัวอื่น เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มเติม โดยเฉพาะเชื้อ canine distemper virus ที่ถือว่าเป็นเชื้อสำคัญที่อาจจะทำให้อาการตาอักเสบของน้องหมาเป็นหนักมากขึ้น
- ถ้ามีการวินิจฉัยมาอย่างชัดเจนแล้วว่าเกิดจากอาการแพ้ คุณจะต้องฟังคำแนะนำจากทางสัตวแพทย์ในการใช้ของต่างๆ และการให้อาหารที่จะต้องเป็นไปอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันอาการของน้องหมาแพ้มากขึ้นในอนาคต
- การทำความสะอาดดวงตาจะต้องเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ และจะต้องมีการทายาตรงตามเวลาที่ถูกกำหนดไว้ในทุกๆ วัน เพื่อป้องกันไม่ให้อาการของน้องมาแย่ลงและควรนำน้องหมากลับไปตรวจตามที่หมอนัดตรงเวลาด้วยเช่นกัน เพื่อทำให้เกิดการรักษาที่ต่อเนื่อง
- ในช่วงขณะที่อาบน้ำหรือต้องล้างหน้าให้กับน้องหมา ไม่ควรปล่อยให้แชมพูทำความสะอาดขนเข้าดวงตาเด็ดขาด ควรใช้เป็นการนำผ้าหรือสำลีชุบน้ำสะอาดเช็ดที่บริเวณใบหน้ากับรอบดวงตาเท่านั้น
- ในช่วงที่ทำความสะอาดดวงตา ให้คุณใช้สำลีชุบน้ำหรือน้ำเกลือทำความสะอาดดวงตา โดยเช็ดจากหัวตาไปสู่หางตาเท่านั้นและเป็นการเช็ดแบบเบาที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้โดนกระจกตา ดังนั้นในขณะที่กำลังเช็คดวงตาอยู่จึงควรปิดหนังตาของน้องหมาลงมาก่อน เพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ไหลลงสู่ดวงตา
- ถ้าเป็นสุนัขพันธุ์ขนยาวให้มันตัดขนที่บริเวณรอบดวงตาออกให้กลายเป็นขนสั้นทั้งหมดจนกว่าอาการจะดีขึ้นและหายดี เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ขนลงไปทิ่มดวงตาหรือช่างอาการระคายเคืองใดๆได้
- ขณะที่กำลังทำการรักษา ควรให้น้องหมาอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงในปริมาณพอเหมาะ ไม่ควรให้ออกไปเจอแสงแดดหรือแสงสว่างที่จ้ามากเกินไปและไม่ควรนำออกไปเดินเล่นในที่มีฝุ่นเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับดวงตาได้
สำหรับปัญหาน้องหมาตาแฉะมักจะเป็นสายพันธุ์ขนาดเล็ก ที่มีโครงสร้างของรูปหน้าเรียวและเล็ก ส่วนดวงตามีขนาดใหญ่ออกมา มีลักษณะของเบ้าตาที่ตื้น เช่น พันธุ์ชิวาวา, พันธุ์บ๊อกเซอร์, พันธุ์อิงลิชบูลด็อก และพันธุ์เฟรนช์บลูด็อก เป็นต้น ซึ่งสายพันธุ์เล็กเหล่านี้จะมีภาวะเสี่ยงดวงตาอักเสบ ดวงตาติดเชื้อ รวมไปถึงภาวะลูกตาทะลักออกมาได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้นเมื่อรู้ว่าน้องหมาเกิดอาการผิดปกติที่ดวงตา ควรรีบพาไปรักษากับสัตวแพทย์ทันทีเพื่อลดความเสี่ยงตาบอดในอนาคต
อ่านสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม;
- มาดูกันว่า กระต่ายมีพันธุ์อะไรบ้าง ที่เป็นที่นิยมสุดๆ [2020]
- ฮอลแลนด์ลอป กระต่ายที่หากใครได้ลองเลี้ยงแล้วจะต้องหลงรัก
- รวมมิตรยอดฮิต แมวขนสั้น ที่คนไทยชอบเลี้ยง
- คนรักแมวต้องรู้ โรค fip ภัยร้ายลูกรักของคุณ
- การเลี้ยงแมวเปอร์เซีย ควรเตรียมตัวอย่างไร