เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าน้องหมาที่เราเลี้ยงอยู่นั้น เมื่อเทียบกับอายุคนแล้วตอนนี้น้องอายุได้เท่าไหร่ ถึงแม้ว่าจะยังดูตัวเล็ก แต่รู้หรือไม่ว่าถ้าเทียบกับคนแล้วน้องหมานั้นเป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้ว เพราะลูกสุนัขโตเร็วกว่าลูกคนถึง 12 เท่า วันนี้เราจึงได้นำตารางเทียบ อายุของหมา กับคน พร้อมกับการดูแลน้องหมาแต่ละช่วงวัยมาให้ได้ทราบ ใครอยากรู้ว่าน้องหมาของตัวเองอายุได้เท่าไหร่มาดูกันเลยดีกว่า
อายุของหมา เทียบกับอายุคน
สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่มนุษย์โปรดปรานมากที่สุด สุนัขมีอายุยืนยาวมากพอสมควร ซึ่งแต่ละสายพันธุ์นั้นก็จะมีอายุที่ยืนยาวแตกต่างกัน และที่เราเห็นว่าน้องหมาของเรายังน่ารักสดใสแข็งแรงอยู่นั้น แต่แท้จริงแล้วเมื่อเทียบกับอายุคนแล้วน้องหมาของเราอาจจะอายุมากกว่าเราในตอนนี้ก็เป็นได้ วันนี้เราจึงได้นำตารางเปรียบเทียบอายุของน้องหมากับคนมาให้ได้ทราบกัน มาดูกันว่าอายุของน้องหมาตัวโปรดของเรานั้นตอนนี้มีอายุเทียบเท่ากับอายุคนเท่าไหร่กันแล้ว
อายุสุนัข (ปี) | อายุคน (ปี) |
3เดือน | 5 |
6 เดือน | 10 |
1 | 15 |
2 | 24 |
3 | 28 |
4 | 32 |
5 | 36 |
6 | 40 |
7 | 44 |
8 | 48 |
9 | 52 |
10 | 56 |
11 | 60 |
12 | 64 |
13 | 68 |
14 | 72 |
15 | 76 |
16 | 80 |
17 | 84 |
18 | 88 |
19 | 92 |
20 | 96 |
การดูแลหมาแต่ละช่วงวัยอย่างเหมาะสม
สุนัขก็คล้ายกับคนที่แต่ละช่วงวัยนั้นจะมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน การดูแลแต่ละช่วงวัยจึงแตกต่างกันออกไป ใครที่เลี้ยงสุนัขมักจะสังเกตเห็นว่าในแต่ละช่วงวัยนั้นสุนัขมักจะมีนิสัยที่แตกต่างกัน อย่างเช่นลูกสุนัขจะเป็นวัยขี้เล่น บ้าพลังวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ได้ทั้งวัน แต่พอโตมาหน่อยแล้วสุนัขจะขี้เล่นน้อยลงแต่ยังชอบทำกิจกรรมต่างๆ อยู่ และเมื่อถึงวัยชรา สุนัขมักจะปลีกวิเวกไม่ค่อยชอบพบปะอยากที่จะนอนเงียบๆ อยู่เพียงลำพังมากกว่า วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีดูแลสุนัขแต่ละช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ โภชนาการ และการออกกำลังอย่างเหมาะสม มาดูกันว่าแต่ละช่วงวัยนั้นจะต้องดูแลอย่างไรกันบ้าง
วัยแรกเกิด – 1 ปี
สุนัขวัยแรกคลอดถึง 1 ปี วัยนี้คนเลี้ยงจะต้องมีเวลาให้เขามากๆ เพราะเป็นวัยที่มีพัฒนาการทางด้านร่างกายและนิสัยเปลี่ยนแปลงเยอะ เปรียบเหมือนคนที่อยู่ในช่วงวัยเด็กจะเข้าสู่วัยรุ่น วัยนี้จึงต้องเอาใจใส่กับเขาให้มากๆ ส่วนเรื่องของอาหารการกินนั้นผู้เลี้ยงควรให้อาหารที่เหมาะสมแต่ละช่วงวัยและสายพันธุ์ สอนให้ลูกสุนัขเรียนรู้เกี่ยวกับการขับถ่ายและปัสสาวะ และเมื่ออายุครบ 2 เดือน ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อวางโปรแกรมเกี่ยวกับการถ่ายพยาธิ และการรับวัคซีนป้องกันเห็บหมัดและโรคพิษสุนัขบ้า โดยขวบปีแรกนั้นลูกสุนัขควรได้รับวัคซีนให้ครบทั้ง 3 เข็มคือ วัคซีนเห็บหมัด 1 เข็ม และวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 2 เข็ม
วัย 1-7 ปี
สุนัขวัย 1 – 7 ปีถือเป็นช่วงวัยที่ทุกอย่างคงที่ ไม่ว่าจะเป็นการเจริญเติบโตและพัฒนาการ แต่วัยนี้ก็ยังคงมีซุกซนและอยากรู้อยากเห็นเหมือนเดิม สำหรับเจ้าของหากมีความกังวลว่าสุนัขวัยนี้จะมีน้ำหนักตัวที่มากจนเกินไปจนกลายเป็นโรคอ้วน ควรควบคุมอาหาร และหมั่นพาไปวิ่งเล่นออกกำลังกายบ่อยๆ นอกจากจะไม่อ้วนแล้วยังทำให้สุนัขแข็งแรงขึ้นด้วย อาหารสุนัขวัยนี้แนะนำให้กินอาหารตามช่วงวัยและสายพันธุ์ที่เหมาะสม
วัย 7-11 ปี
สุนัขช่วงวัย 7 – 11 ปีขึ้นไปจะเริ่มเข้าสู่วัยชราแล้ว วัยนี้ควรได้รับการตรวจสุขภาพทั้งภายในและภายนอกแบบทั่วไป และควรตรวจเลือดทุกๆ 6 เดือนรวมถึงช่องท้องและหัวใจด้วย เพื่อประเมินสถานะทางสุขภาพ เนื่องจากว่าสุนัขวัยนี้จะเป็นวัยที่เริ่มเจ็บป่วยบ่อยขึ้น โดยโรคที่พบบ่อยในสุนัขทุกๆ สายพันธุ์คือ โรคตาแห้ง โรคไขข้ออักเสบ โรคเหงือกอักเสบ หินปูน โรคหัวใจ และโรคไตเสื่อม และสุนัขสายพันธุ์เล็กเป็นสุนัขที่พบมากที่สุด สุนัขวัยนี้ให้ระวังในเรื่องอาการหอบเหนื่อยง่าย และมีภาวะเลือกกินอาหารมากขึ้น อาหารของสุนัขวัยนี้จึงควรเลือกให้เหมาะกับวัยของเขาโดยเฉพาะ
วัย 11 ปีขึ้นไป
สุนัขช่วงวัย 11 ปีขึ้นไปวัยนี้เป็นวัยชราอย่างเต็มตัวแล้ว ผู้เลี้ยงควรพาไปตรวจสุขภาพร่างกายบ่อยๆ ทั้งภายในและภายนอกอย่างละเอียด ตรวจทุกๆ 4 เดือน หรือหากพบความผิดปกติอะไรก็นำไปพบสัตวแพทย์ได้เลย วัยนี้จะเริ่มมีกิจกรรมน้อยลง มักจะปลีกวิเวกไปหาที่เงียบๆ นอนเพียงลำพัง สุนัขวัยนี้มักพบโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายตามอายุเช่น โรคข้อเสื่อม โรคเลนส์ตาจอประสาทเสื่อม โรคผิวหนังแห้ง โรคเนื้องอก โรคความจำเสื่อมเป็นต้น หากแพทย์พบความผิดปกติโรคใดก็จะทำการรักษาและให้ยาตามความเหมาะสม การดูแลสุนัขที่ชราที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้สิ่งที่ต้องระวังคือแผลกดทับ ที่เกิดจากการขับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะโดนผิวหนัง ควรหมั่นรักษาความสะอาดและจับพลิกตัวบ่อยๆ ป้อนน้ำป้อนอาหารให้เพียงพอ
เพราะสุนัขแต่ละช่วงวัยนั้นไม่เหมือนกัน การดูแลเอาใจใส่ให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยนั้นจึงสำคัญมาก สิ่งสำคัญในการเลี้ยงสุนัขคือการพาไปฉีดวัคซีนให้ครบ ดูและในเรื่องของสุขภาพอาหารการกิน และควรพาไปออกกำลังกายวิ่งเล่น เพื่อที่เขาจะได้แข็งแรงและห่างไกลโรคอ้วนด้วยนั่นเอง
อ่านสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม;