สุนัขไซบีเรียนเป็นสุนัขพันธุ์ที่ได้รับความชื่นชอบอย่างมาก และมีการนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงกันอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย จุดเด่นอย่างหนึ่งของสุนัขไซบีเรียนอกเหนือจากรูปลักษณ์ที่มีความน่าเกรงขามแต่มีนิสัยขี้เล่นและเป็นมิตรแล้ว ขนที่หนาหนุ่มฟูของมันก็เป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ ซึ่งการจะดูแลขนของไซบีเรียนให้นุ่มฟูสวย มีสุขภาพี จะต้องมการดูแลและให้ อาหารบำรุงขนไซบีเรียน อย่างไรบ้าง มาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทความนี้
ทำความรู้จักกับขนตามธรรมชาติของไซบีเรียน
ไซบีเรียนถือได้ว่าเป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดมาจากพื้นที่เขตหนาว ดังนั้นมันจึงมีขนสองชั้นที่ประกอบด้วยขนชั้นในที่มีความหนานุ่ม และขนชั้นนอกที่ยาวกว่าแต่มีความหยาบกระด้างกว่า ซึ่งขนภายนอกจะมีความมันเงาตามธรรมชาติเพื่อกันน้ำที่จะช่วยให้พวกมันเอาตัวรอดในภูมิอากาศแบบอาร์กติกที่แห้งแล้งและหนาวเย็นได้
ความชื้นและสิ่งสกปรกมักสะสมอยู่บนขนชั้นนอกในขณะที่ขนชั้นในจะแห้งและสะอาด การสะบัดขนจะช่วยขจัดหิมะ ฝุ่น หรือสิ่งสกปรกออกจากขนชั้นนอกได้เป็นอย่างดีจึงทำให้ไซบีเรียนตามธรรมชาติและไม่ค่อยมีกลิ่นตัว แต่เมื่อนำมาเลี้ยงเป็นสุนัขเลี้ยงในบ้านแล้วก็ต้องมีการดูแลขนไซบีเรียน ทำความสะอาดขนและแปรงขนอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งต้องมีการให้กินอาหารบำรุงขนเพื่อให้ขนของไซบีเรียนมีความสวยเงางามและดูมีสุขภาพดีอีกด้วย
การผลัดขนของไซบีเรียน
สุนัขไซบีเรียนจะมีการผลัดขนของขนชั้นใน ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงจะเห็นว่าช่วงผลัดขนนี้ไซบีเรียนจะมีขนหลุดร่วงเป็นจำนวนมาก ซึ่งการเลี้ยงในบ้านที่มีสมาชิกครอบครัวเป็นภูมิแพ้ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้ดีว่าควรเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้หรือไม่ แต่หากตัดสินใจจะเลี้ยงก็ต้องมีการทำความสะอาดขนที่หลุดร่วเหล่านี้เพื่อไม่ให้ฟุเงกระจายและติดอยู่ตามเฟอร์นิเจอร์ต่างๆในบ้านรวมถึงติดอยู่บนเสื้อผ้าของผู้เลี้ยงด้วย การผลัดขนจะใช้เวลาหกถึงแปดสัปดาห์ ซึ่งผู้เลี้ยงสามารถช่วยเร่งระยะเวลาการผลัดขนนี้ให้เร็วขึ้นได้ด้วยการใช้ตัวช่วยอื่นๆที่จะกล่าวถึงในรายละเอียดต่อไป
ขนที่ร่วงจะเริ่มจากขนบริเวณขาที่จะสังเกตเห็นได้ว่าขนหายไปเป็นกระจุกใหญ่ จากนั้นก็ค่อยๆร่วงไปเรื่อยๆจากหาง,หลังและคอ ซึ่งผู้เลี้ยงสามารถทำให้กระบวนการผลัดขนนี้เป็นไปได้เร็วขึ้นด้วยการอาบน้ำให้ไซบีเรียนด้วยน้ำอุ่นหรือถ้าหากมีถังหรืออ่างน้ำที่สุนัขสามารถลงไปแช่ได้ทั้งตัวก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้น จากนั้นก้ให้ทำการแปรงขนด้วยหวีที่ใช้ในการแปรงขนโดยเฉพาะ ค่อยๆทำการแปรงขนจากหัวจรดหาง จากด้านในลำตัวสู่ด้านนอก แปรงไปเรื่อยๆด้วยน้ำหนักที่พอเหมาะ หากมีขนส่วนไหนที่พันกันยุ่งเหยิงให้ค่อยๆสางออกจนปมขนคลายตัวแล้วค่อยแปรงขนต่อไปอย่างต่อเนื่อง
ทำไมขนของไซบีเรียนที่เลี้ยงอยู่ถึงไม่ฟูนุ่มเหมือนกับตัวอื่น
ดังที่ได้ทราบกันไปแล้วว่า สุนัขไซบีเรียนมีต้นกำเนิดมาจากพื้นที่ที่มีอากาศหนาวดังนั้นพวกมันจึงมีขนที่ฟูนุ่มเป็นธรรมชาติ แต่ไซบีเรียนบางตัวกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะมีขนที่แห้ง หลุดร่วงและไม่ฟูนุ่ม ซึ่งการที่ขนของไซบีเรียนเป็นเช่นนี้ก็มีสาเหตุมาจากหลายประการดังต่อไปนี้
1.สายพันธุ์
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดสำหรับสุนัขไซบีเรียนที่มีขนไม่ฟูเหมือนกับสุนัขตัวอื่นก็คือสายพันธุ์ ซึ่งหากสุนัขไซบีเรียนที่เลี้ยงอยู่มาจากสายพันธุ์สุนัขลากเลื่อน ก็มีแนวโน้มว่าขนของพวกมันจะแข็งและหยาบ แต่หากเป็นสุนัขไซบีเรียนที่มาจากสายพันธุ์สุนัขประกวด ขนของมันก็จะนุ่มและฟูมากเหมือนกับตุ๊กตาหมี ซึ่งการคัดเลือกสายพันธุ์ที่ทำให้ไซบีเรียนมีขนฟูจะคัดมาจากรุ่นพ่อแม่และปู่ย่าตายาย โดยจะผสมพันธุ์กันเฉพาะสุนัขไซบีเรียนที่มีขนฟูหนาด้วยกันเท่านั้น ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงต้องดูสายพันธุ์ให้ดีหากอยากเลี้ยงสุนัขไซบีเรียนที่มีขนสวยหนานุ่ม
2.อาหาร
อาหารที่สุนัขไซบีเรียนกินอยู่จะส่งผลต่อขนของพวกมันเช่นเดียวกับสุขภาพโดยทั่วไป แต่ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าขนฟูไม่ได้แปลว่าสุขภาพดี ไซบีเรียนบางตัวก็ขนนุ่มและบางตัวก็ไม่นุ่มอันเนื่องมาจากเหตุผลในด้านของสายพันธุ์ แต่อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารที่ได้ผลดีกับร่างกายของไซบีเรียนจะทำให้ผิวหนังและขนแข็งแรงขึ้น การให้อาหารที่มีโปรตีนสูง, ไขมันสูงปานกลาง และอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำเป็นสิ่งสำคัญทั้งต่อระบบย่อยอาหารและลำไส้และรูปลักษณ์ภายนอก ควรดูแลให้สุนัขได้รับอาหารที่มีวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่เพียงพอ ซึ่งจะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ผิวหนัง และขนที่แข็งแรงขึ้น และกรดไขมันโอเมก้า 3 ยังมีบทบาทสำคัญในสุขภาพผิวและขนของสุนัขไซบีเรียนอีกด้วย
3.การอาบน้ำและการแปรงขน
สุนัขไซบีเรียนมีขนอยู่ด้วยกันถึงสองชั้น ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงต้องมีการแปรงขนเป็นประจำเพื่อรักษาสุขภาพขนของไซบีเรียน การแปรงขนไม่เพียงแต่กำจัดขนแห้งที่ตายแล้วออกไปเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและนวดผิวซึ่งจะช่วยปล่อยน้ำมันตามธรรมชาติออกมาที่จะช่วยให้ขนนุ่มขึ้นอีกด้วย ส่วนการอาบน้ำนั้นควรทำ ทุกๆ 3 หรือ 4 เดือนก็เพียงพอแล้ว เพราะการอาบน้ำบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวหนังของสุนัขแห้งซึ่งจะทำให้ขนเสียได้
อาหารบำรุงขนไซบีเรียน มีสารอาหารอะไรบ้างที่จำเป็น
สภาพขนและผิวหนังของสุนัขไซบีเรียนเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงภาวะโภชนาการเพราะผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย และเมื่อไม่ได้รับสารอาหารตามที่ต้องการ ก็จะมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ง่าย
สารอาหารที่มีส่วนสำคัญในการบำรุงขนของสุนัขไซบีเรียนก็คือโปรตีน เพราะขนประกอบด้วยโปรตีนประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากการศึกษาพบว่า 25-30 เปอร์เซ็นต์ของโปรตีนที่สุนัขไซบีเรียนกินเข้าไปจะช่วยบำรุงผิวหนังและขนของมัน เมื่อสุนัขกินโปรตีน ระบบย่อยอาหารจะย่อยโปรตีนออกเป็นกรดอะมิโน ซึ่งจะถูกดูดซึมและนำไปใช้เพื่อสร้างโปรตีนประเภทที่จำเป็นต่างๆในร่างกาย ทำให้ขนนุ่ม แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย ขนของไซบีเรียนจะหนาฟูนุ่มได้อย่างที่ต้องการ
สารอาหารที่จำเป็นอีกประเภทหนึ่งก็คือไขมัน โดยเฉพาะกรดไขมันจำเป็น เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบำรุงสุขภาพผิวหนังและขนให้แข็งแรง สุนัขไซบีเรียนที่ขาดสารอาหารประเภทกรดไขมันจำเป็นจะทำให้ผิวหนังอ่อนแอและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย ผิวหนังเกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้นและทำให้ขนหลุดร่วง แห้งและหยาบกร้าน
วิตามินที่มีส่วนสำคัญในการบำรุงขนของไซบีเรียนก็คือ วิตามินอีที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ,วิตามินเอ เช่น เรตินอลและเบตาแคโรทีน จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการสร้างเซลล์ตามปกติ รวมถึงการสร้างเคราติไนเซชันที่ทำให้ขนแข็งแรงและหนาขึ้น รวมทั้งสร้างความแข็งแรงให้กับชั้นผิวหนังอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมี แร่ธาตุสังกะสี ซีลีเนียม ทองแดง ไอโอดีน และแมงกานีสมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการหมุนเวียนของเซลล์ผิวหนังและขนตามธรรมชาติ ดังนั้นอาหารของไซบีเรียนควรมีสารอาหารที่จำเป็นดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้อย่างครบถ้วนเพื่อจะช่วยบำรุงขนให้เงางามแข็งแรงและดูแลผิวหนังของไซบีเรียนให้มีสุขภาพดี ไม่เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้ง่ายๆ อีกด้วย
ขนของไซบีเรียนนั้นทำหน้าที่ในการรักษาอุณหภูมิของร่างกาย อีกทั้งยังทำหน้าที่ในการป้องกันสิ่งสกปรกต่างๆที่จะเข้าสู่ผิวหนังของสุนัข ดังนั้นการดูแลขนอย่างถูกวิธีและทำอย่างสม่ำเสมอจะทำให้สุนัขไซบีเรียนมีขนที่เงางาม ผิวหนังมีสุขภาพดี ขนไม่หลุดร่วงหรือเกิดโรคผิวหนังที่ทำให้ไซบีเรียนขนร่วงหรือมีปัญหาทางด้านผิวหนัง
อ่านเรื่องราวสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม;