เลี้ยงแมวเปอร์เซีย ในยุคนี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะหน้าตาของน้องเหมียวเปอร์เซียมีความน่ารักและน่าเอ็นดูอย่างมาก ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่หันมาเลี้ยงแมวพันธุ์เปอร์เซียกันมากขึ้น จุดนี้เองทำให้เกิดเป็นการนำแมวเปอร์เซียมาเลี้ยงในแบบที่ผู้เลี้ยงยังไม่ทันได้รู้ถึงลักษณะนิสัยส่วนตัว การดูแลที่ถูกต้อง รวมไปถึงโรคภัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับแมวเปอร์เซียโดยเฉพาะ ดังนั้นก่อนที่คุณจะทำการเลี้ยงแมวเปอร์เซีย คุณควรศึกษาเรื่องราวเหล่านี้ก่อน โดยลองดูรายละเอียดของแมวเปอร์เซียที่คุณควรรู้ดังนี้
ลักษณะของแมวเปอร์เซีย
แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่มีตั้งแต่ขนยาวปานกลางไปจนถึงขนยาวมาก โดยมีหลากหลายสายพันธุ์ที่แตกย่อยออกมา ดังนั้นวิธีการเลี้ยงดูจึงย่อมแตกต่างกันไป แต่ลักษณะโดยรวมมักจะคล้ายคลึงกัน คือ เพศผู้จะมีขนาดใหญ่ถึง 12 ปอนด์ ส่วนเพศเมียจะมีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ด้วยน้ำหนัก 8-12 ปอนด์ สีของดวงตาจะมีตั้งแต่สีฟ้า, สีทองออกแดง, สีเขียว และเป็นแบบตาสองสี อายุไขโดยเฉลี่ยของแมวเปอร์เซียจะอยู่ที่ 8-11 ปี แต่ถ้ามีการดูแลที่ดีและมีสุขภาพแข็งแรงอาจอยู่ได้ยาวนานกว่า 15 ปี
อย่างไรก็ตาม แมวเปอร์เซียเป็นแมวที่มีนิสัยไม่ค่อยกระตือรือร้นและมักจะมีนิสัยเฉยชา แต่ต้องการความรักและการดูแลเอาใจใส่พอสมควร ดังนั้นจึงควรมีเวลาในการเล่นหรือหยอกล้อกับแมวพันธุ์นี้อยู่เสมอ สำหรับขนนั้นจะมีลักษณะของขนที่ยาวมีความนุ่มลื่นและพันกันง่าย จึงทำให้คุณต้องแปรงขนให้กับน้องแมวเปอร์เซียทุกวัน วันละครั้งถึง 2 ครั้ง และมีเปอร์เซ็นต์ของการผลัดขนค่อนข้างสูง
ส่วนสีของตัวแมวจะมีตั้งแต่สีขาวล้วน, สีแดง, สีครีม, สีดำสีน้ำตาลช็อกโกแลต, สีม่วงกลีบดอกลาเวนเดอร์, สีฟ้า, สีเงิน silver, สี Golden Cameo, สี Calico และสี Blue Cream สำหรับการดูแลรักษาแมวพันธุ์นี้จำเป็นต้องทำอย่างดีและมีความสะอาดสูง เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะมีปัญหาเรื่องผิวหนังได้ง่าย ที่สำคัญคือเป็นแมวที่ค่อนข้างอ้วนง่าย กินเก่ง ถ้าน้ำหนักขึ้นสูงมากเกินไป อาจก่อให้เกิดโรคร้ายหรือโรคเรื้อรังตามมาได้เช่นกัน
อ่านสาระน้องแมวอื่น ๆ เพิ่มเติม;
รวมมิตรยอดฮิต แมวขนสั้น ที่คนไทยชอบเลี้ยง
ดีใจด้วย! คุณกำลังมีหลาน!! สัญญาณบอกเหตุน้อง แมวท้อง
คนรักแมวต้องรู้ โรค fip ภัยร้ายลูกรักของคุณ
13 สายพันธุ์น้องแมวที่ทำตัวหยั่งกับน้องหมา!
มาทำความรู้จักกับ แมวแมงซ์ {Manx} กันดีกว่า
เรื่องควรระวังของการเลี้ยงแมวเปอร์เซีย
การเลี้ยงแมวเปอร์เซียนั้นจะต้องมีการควบคุมอาหารเป็นอย่างดี เพราะแมวเปอร์เซียเป็นแมวที่กินเก่งและไม่ค่อยขยับตัว มีความกระตือรือร้นน้อย ไม่ชอบออกกำลังกายจึงทำให้อ้วนง่ายและน้ำหนักขึ้นสูงเร็ว สิ่งที่ควรระวังคือการให้อาหารอย่างเหมาะสม ควรให้เพียงแค่ 3 มื้อต่อวัน และอาหารจะต้องถูกจำกัดในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมไปด้วยการกระตุ้นให้น้องแมวออกกำลังกายอยู่เสมอ อาจจะมีการซื้อเครื่องออกกำลังกายเพื่อจูงใจให้น้องแมวออกมาวิ่ง หรือเจ้าของอาจจะต้องเล่นกับน้องแมวเอง เพื่อให้น้องแมวได้ออกกำลังกายและได้ปลดปล่อยพลังงานของตัวเองมากขึ้น ทั้งยังเป็นการทำให้ปฏิสัมพันธ์ของตัวเจ้าของและน้องแมวเป็นไปอย่างดีเยี่ยม
ส่วนอีกเรื่องที่ควรระวังคือ เรื่องของขนแมวเพราะแมวพันธุ์นี้จะมีปัญหาเรื่องขนร่วงง่ายและขนพันกัน จนอาจเกิดปัญหาการผลัดขนและปัญหาผิวหนังได้ง่ายด้วยเช่นกัน ที่สำคัญอีกหนึ่งเรื่องคือ การเช็ดคราบน้ำตาและคราบสกปรกบนใบหน้า โดยเฉพาะช่วงของจมูกที่จะต้องทำความสะอาดอยู่เสมอ เพราะเปอร์เซียเป็นแนวหน้าสั้นที่มีช่วงจมูกย่นเข้าไปด้านใน จึงต้องมีการเล็มขนช่วงดวงตา ช่วงจมูก และทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
อ่านเพิ่มเติม: วิธีการเลี้ยงแมวเปอร์เซีย เบื้องต้นกับสิ่งที่เจ้าของควรรู้
ลักษณะนิสัยเด่นของแมวเปอร์เซีย
แมวเปอร์เซียในบางครั้งเป็นแมวที่รักสงบ ชอบมีพื้นที่ส่วนตัวและชอบนอนมองแมวตัวอื่นเล่นกัน ที่สำคัญคือจะชอบทำกิจกรรมที่คล้ายกับเด็กน้อย โดยจะมีการนอนหลับในช่วงเวลากลางวันและจะตื่นขึ้นมาวิ่งเล่นหรือมีการกลิ้งไปรอบห้อง เวลานอนจะชอบทำท่ายืดเส้นยืดสายที่ข้างตัวเจ้าของ ในบางครั้งจะขึ้นมานอนบนเตียงและนอนตรงจุดที่เจ้าของนอน บางครั้งจะขึ้นไปนั่งบนตักเพื่อเป็นการอ้อนเจ้าของ แต่การอ้อนของแมวเปอร์เซียในแต่ละครั้งจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อน้องแมวเปอร์เซียจะต้องรู้สึกอยากทำเท่านั้น และอีกหนึ่งนิสัยที่โดดเด่นของน้องแมวเปอร์เซีย คือ จะไม่ค่อยสนใจสถานการณ์รอบข้าง จะไม่สนใจต่อการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในชีวิตประจำวันของตัวเองและเจ้าของ ทั้งยังเป็นมิตรกับคนรอบข้างและชอบเล่นกับเด็กๆ อีกด้วย
เรื่องที่ควรรู้ก่อนการรับเลี้ยงแมวเปอร์เซีย
- ก่อนรับเลี้ยงแมวเปอร์เซีย เรื่องแรกที่คุณควรทำคือถามตัวเองก่อนว่ามีเวลาในการเลี้ยงดูและเอาใจใส่น้องแมวมาก-น้อยแค่ไหน เพราะถึงแม้ว่าน้องแมวจะมีนิสัยที่ดูแลตัวเองได้ แต่ก็ยังต้องการความเอาใจใส่จากเจ้าของอยู่ดี ดังนั้นคุณจะต้องมีเวลาในการเล่นและดูแลน้องแมว รวมไปถึงการทำความสะอาดพื้นที่ กระบะทราย ที่อยู่ของน้องแมว และตัวน้องแมวเอง ซึ่งถ้าคุณเป็นคนไม่มีเวลา ต้องทำงานตลอดก็ไม่ควรนำน้องแมวมาเลี้ยง เพราะไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาในอนาคตได้
- เรื่องของพื้นที่ในการเลี้ยงก็สำคัญ เพราะแมวเป็นสัตว์ที่มักจะชอบทำกิจกรรมระหว่างวันเป็นการวิ่ง การกลิ้ง และการกระโดดเล่นไป-มาเพื่อเป็นการระเบิดพลังของตัวเอง ดังนั้นคุณจึงควรมีบริเวณให้น้องแมวได้วิ่งเล่นและในบริเวณนั้นจะต้องเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ไม่มีการวางของอันตรายใดๆ ไว้ เพื่อทำให้น้องแมวได้วิ่งเล่นอย่างสนุกสนานที่สุด
- ก่อนการเลี้ยงแมวเปอร์เซียควรเตรียมตัวให้ดีและศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เพราะแมวเปอร์เซียมีโรคประจำตัวที่ต้องได้รับการใส่ใจเป็นพิเศษ รูปลักษณ์ของแมวเปอร์เซียโดยเฉพาะช่วงหน้าสั้นจะทำให้ระบบการหายใจไม่เหมือนกับแมวชนิดอื่น ดังนั้นคุณจึงต้องพาน้องแมวเปอร์เซียไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายบ่อยครั้ง
- แมวเปอร์เซียเป็นแมวพันธุ์ขนยาวที่มีการผลัดขนบ่อยครั้ง ดังนั้นคุณจึงควรจะต้องแปรงขนให้น้องแมววันละ 1-2 ครั้ง รวมไปถึงการเข้าใจว่าน้องแมวเปอร์เซียเป็นสายพันธุ์ที่ผลัดขนค่อนข้างบ่อย จึงไม่ควรมีอารมณ์โกรธหรือรำคาญเมื่อเห็นขนแมวจำนวนมากและจะต้องทำความสะอาดเป็นประจำ
- ก่อนจะเลี้ยงแมวเปอร์เซีย คุณควรดูเรื่องงบประมาณของตัวเองให้ดีก่อน เพราะแมวสายพันธุ์เปอร์เซียจะต้องมีการพบสัตวแพทย์บ่อยครั้งเนื่องจากปัญหาสุขภาพ รวมไปถึงค่าอาหาร ค่าอาหารบำรุง ค่าแชมพูและคอนดิชันเนอร์ในการบำรุงขน ค่าขนม ค่าของเล่น ค่าทรายแมว และค่าอิจิปาถะอื่นๆ ที่คุณจะต้องเตรียมพร้อมไว้ให้น้องแมวโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าคุณมีเงินจำนวนนี้ คุณก็สามารถเลี้ยงได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ ทั้งสิ้น
- ก่อนการเลี้ยงแมวคุณควรตรวจสุขภาพตัวเองให้ดีก่อน เพราะถ้าคุณเป็นโรคภูมิแพ้และเป็นการแพ้ขนของน้องหมากับน้องแมว คุณก็ไม่ควรรับแมวเปอร์เซียมาเลี้ยงอย่างเด็ดขาด เพราะแมวเปอร์เซียเป็นสายพันธุ์ที่ผลัดขนบ่อยมากหรือแม้แต่แมวสายพันธุ์อื่นก็ไม่ควรนำมาเลี้ยงด้วยเช่นกัน เพราะอาจจะทำให้อาการแพ้ของคุณหนักขึ้น นอกเสียจากว่าคุณจะมีการปรึกษาแพทย์มาก่อนแล้ว
- น้องแมวสายพันธุ์เปอร์เซียมักจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพสูงกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ดังนั้นคุณจึงควรพาน้องแมวไปฉีดวัคซีนให้ครบตามตารางและพาไปตรวจสุขภาพประจำปีอยู่เสมอ เพื่อทำให้คุณได้มั่นใจต่อการเลี้ยงดูและทำให้น้องแมวเปอร์เซียอยู่กับคุณไปอย่างยาวนาน
- ทำความเข้าใจน้องแมวให้มากที่สุด เพราะต่อให้แมวสายพันธุ์เปอร์เซียจะเป็นแมวที่ไม่ค่อยกระตือรือร้น แต่ช่วงเวลาเล่นก็จะวิ่งชนข้าวของในบ้านและรับเล็บตามจุดต่างๆ ภายในบ้านได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรมีพื้นที่, มีของเล่น และมีจุดรับเล็บที่พร้อมให้น้องแมวได้ใช้งานตลอดเวลา
เลี้ยงแมวเปอร์เซีย นั้นไม่ได้ยุ่งยากเพียงแต่ผู้เลี้ยงจำเป็นจะต้องเข้าใจเรื่องของนิสัย, โรคภัย และการเลี้ยงดู โดยรวมของน้องแมวให้มากที่สุด เพื่อที่คุณจะนำมาเลี้ยงได้อย่างถูกต้องและทำให้น้องแมวมีอายุยืนยาวมากขึ้น ไม่ต้องเสี่ยงต่อโรคร้ายใดๆ พร้อมสร้างความสุขในการเลี้ยงให้กับทั้งผู้เลี้ยงและตัวน้องแมวเองอย่างเต็มที่
อ่านสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ;
- พัฒนาการลูกกระต่าย และวิธีการดูแลลูกกระต่ายเบื้องต้น
- สาระน่ารู้เรื่อง การเลือก อาหารกระต่ายที่ดีที่สุด [2020]
- คู่มือ อาบน้ำหมา [พันธุ์เล็ก vs พันธุ์ใหญ่]
- หมาตาแฉะ เพราะอะไร จะรักษาและป้องกันได้อย่างไร
- คอร์กี้ (Corgi) สุนัขพันธุ์แคระแสนรู้ที่น่ารักและหน้าตาเป็นมิตร
- ไซบีเรียน ฮัสกี้ สุนัขหน้าตาน่ารักที่ใครเห็นก็ต้องอยากเลี้ยง