เช่นเดียวกับคน ปัญหากลิ่นปากเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันไม่น้อย นอกจากนั้น ปัญหากลิ่นปากอาจเป็นสัญญาณบอกเหตุของปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้เช่นกัน ไม่ว่าในกรณีของคนหรือแมว สำหรับปัญหา แมวมีกลิ่นปาก นั้น เชื่อว่าหลายคนที่ชอบเล่นกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับเจ้าแมวน้อยเป็นประจำ น่าจะพอได้กลิ่นปากของแมวมาบ้าง ซึ่งปกติแล้วกลิ่นปากของแมวจะไม่มีกลิ่นที่รุนแรงมากนัก
เพราะฉะนั้น หากพบว่ากลิ่นปากของแมวนั้นเหม็นผิดปกติก็แสดงว่าต้องมีเหตุอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับน้องแมวของคุณแล้ว จำเป็นที่จะต้องสืบให้ทราบสาเหตุและหาทางแก้ไขโดยเร็ว เพราะปัญหากลิ่นปากอาจลุกลามกลายเป็นปัญหาสุขภาพได้เช่นกันหากมัวแต่ชะล่าใจ ซึ่งเราจะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าปัญหา แมวมีกลิ่นปาก ผิดปกตินั้นเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร และมีวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไรบ้าง มาดูพร้อมกันเลย
แมวมีกลิ่นปากได้อย่างไร
กลิ่นปากนั้นไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับคนหรือสัตว์ล้วนแล้วแต่มีต้นตอมาจากการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากทั้งสิ้น นอกจากนั้น ยังหมายรวมถึงปัญหาสุขภาพช่องปากอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสะสมของหินปูนที่มีปริมาณมากเกินไป อันเกิดจากแคลเซียมในน้ำลายที่ไหลมากองกันที่ฟันทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียที่ในเวลาต่อมา อาจลุกลามกลายเป็นโรคเหงือกที่เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของกลิ่นปากได้ ด้วยเหตุนี้ ไม่ใช่เพียงแค่คนเท่านั้น แมวก็สามารถมีกลิ่นปากได้เช่นกันหากมีปัญหาสุขภาพช่องปากหรือเป็นผลมาจากโรคบางประการ
สาเหตุที่ทำให้แมวมีกลิ่นปาก
สาเหตุปัจจัยที่ทำให้แมวมีกลิ่นปากนั้นมีอยู่หลากหลายด้วยกัน ดังนี้
1.อาหารการกิน
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้น้องแมวมีกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์มาจากอาหารการกิน โดยเฉพาะอาหารรสจัดกลิ่นแรงนานาชนิดที่เมื่อน้องแมวกินเข้าไปแล้ว อาจไปติดอยู่ตามซอกฟันซึ่งน้องแมวไม่สามารถใช้ไม้จิ้มฟันเขี่ยออกเองได้ เศษอาหารจึงติดอยู่อย่างนั้นจนเน่าเสียและกลายเป็นสาเหตุของกลิ่นปากตามมา เพราะฉะนั้น เจ้าของแมวจึงควรพิจารณาเลือกอาหารแมวที่ไม่มีกลิ่นจัดมากจนเกินไป รวมทั้งอาหารดังกล่าวต้องทานง่าย ไม่มีเศษก้างหรือกระดูกที่อาจเข้าไปติดฟันน้องแมวจนอักเสบลุกลามกลายเป็นโรคเหงือกได้
2.ปัญหาหินปูน
เช่นเดียวกับคน ปัญหาสุขภาพช่องปากอย่างหินปูนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของกลิ่นปากของเจ้าแมวเหมียว หินปูนเกิดจากคราบเศษอาหารต่าง ๆ ที่แมวกินเข้าไปแล้วติดตามซอกฟันโดยปราศจากการทำความสะอาด เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า คราบเศษอาหารที่เรียกว่า Plaque ที่อุดมไปด้วยเชื้อแบคทีเรียเหล่านั้นก็ผสมเข้ากับแคลเซียมที่อยู่ในน้ำลายกลายเป็นหินปูนเกาะอยู่บนผิวฟัน พอสะสมมาก ๆ เข้าก็กลายเป็นบ้านของแบคทีเรียจำนวนมหาศาลในช่องปากอันเป็นปัจจัยที่นำไปสู่โรคเหงือกที่เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของกลิ่นปาก
3.โรคทางเดินหายในส่วนต้น
โรคชนิดนี้เป็นการติดเชื้อบริเวณโพรงจมูกและทางเดินหายใจส่วนต้น จึงทำให้อาการอักเสบที่เกิดขึ้นส่งสัญญาณออกมาทางลมหายใจซึ่งเชื่อมต่อระหว่างจมูกกับช่องปาก เป็นที่มาของกลิ่นปากเหม็นของน้องเหมียว นอกจากนั้น เชื้อดังกล่าวยังสามารถลุกลามมายังบริเวณช่องปากซึ่งอาจทำให้อาการปากเหม็นมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นได้เช่นกัน
4.ช่องปากอักเสบ
อาการปากเหม็นของน้องแมวอาจมีสาเหตุมาจากช่องปากอักเสบ อันเนื่องมาจากการสะสมของแบคทีเรียและคราบอาหารที่เพิ่มมากขึ้น จนส่งผลกระทบต่อเหงือก ฟัน และเนื้อบริเวณช่องปาก อาจมีอาการอักเสบถึงขั้นทำให้เนื้อตายและส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งได้ โดยสาเหตุของช่องปากอักเสบนั้นอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นโรคไต โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคฟันกร่อน รวมไปถึงโรคเหงือกอักเสบ ไม่ต่างจากคน เพราะฉะนั้น การหมั่นดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของน้องแมวจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
5.โรคตับ
เนื่องจากตับเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ขับของเสียออกจากร่างกาย เมื่อตับของน้องแมวไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามปกติ ก็อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต ส่งผลให้ของเสียในเลือดเพิ่มสูงยิ่งขึ้นเพราะตับไม่สามารถทำงานขับออกไปได้ จึงก่อให้เกิดอาการโลหิตเป็นพิษอันนำไปสู่ปัญหากลิ่นปากเนื่องจากร่างกายทำงานผิดปกตินั่นเอง อาจพบว่าน้องแมวมีกลิ่นปาก อันเนื่องมาจากโรคตับให้รีบนำส่งสัตวแพทย์โดยเร็ว เพราะอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
6.โรคไวรัส
ปัจจุบันมีไวรัสที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของแมวหลากหลายชนิด อาทิ Feline calcivirus (FCV) ,Feline viral rhinotracheitis (FVR), Feline leukemia virus (FeLV) and Feline immunodeficiency virus (FIV) ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงให้เกิดอาการอักเสบภายในช่องปากได้ เพราะฉะนั้น หากตรวจพบความผิดปกติในพฤติกรรมของแมวว่าทำตัวผิดปกติไปหรือเริ่มมีอาการป่วยจากไวรัส ให้พาน้องไปเข้าพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการโดยเร็ว เพราะจะสามารถรักษาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนอาการจะลุกลามหนักมากขึ้น
7.โรคไต
เช่นเดียวกับโรคตับ หากพบว่ากลิ่นปากของแมวมาจากภาวะการทำงานบกพร่องของไต ก็เป็นไปได้สูงว่ากลิ่นเหม็นที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากของเสียในเลือดที่ไม่ได้ถูกขับออกไปจากร่างกายที่พุ่งสูงขึ้นจนทำให้สุขภาพช่องปากมีปัญหา น้องแมวมีอาการอาเจียนออกมาเป็นเลือดหรือเกิดแผลในช่องปากได้ จำเป็นต้องพาพบสัตวแพทย์โดยเร็ว
8.เนื้องอก
หนึ่งในสาเหตุของอาการปากเหม็นที่พบได้น้อย แต่มีความรุนแรงค่อนข้างสูงคืออาการปากเหม็นจากเนื้องอกในช่องปาก ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในบริเวณต่าง ๆ ภายในช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นเหงือก ลิ้น และเพดานปาก ซึ่งเมื่อเกิดเนื้องอกขึ้นจะส่งผลให้เกิดอาการอักเสบในช่องปากน้องแมวและเป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็นได้ เพราะฉะนั้น หากพบว่าแมวมีปัญหากลิ่นปาก เจ้าของอาจจะลองใช้ไฟฉายเล็ก ๆ ส่องดูภายในช่องปากดูก่อนว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ หากพบก้อนเนื้อในช่องปากก็ให้รีบพาน้องแมวไปหาสัตวแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็ว
อ่านเพิ่มเติม;
การเลี้ยงแมวเปอร์เซีย ควรเตรียมตัวอย่างไรใน
บางแก้ว สุนัขไทยกับเรื่องที่คนคิดจะเลี้ยงควรรู้
วิธีแก้ไขปัญหาแมวมีกลิ่นปาก
เนื่องจากปัญหากลิ่นปากของน้องแมวส่วนใหญ่ทีที่มาจากปัญหาสุขภาพช่องปากเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้น การแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดจึงเป็นการทำความสะอาดช่องปากของเขาเป็นประจำเพื่อลดแบคทีเรีย หินปูน และคราบอาหารต่าง ๆ ที่อาจสะสมจนกลายเป็น Plaque ที่นำไปสู่โรคเหงือกอักเสบได้ ด้วยเหตุนี้ เจ้าของแมวจึงควรใช้แปรงสีฟันทำความสะอาดฟันและช่องปากของน้องแมวตั้งแต่ยังเด็ก ๆ โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 2 เดือนเป็นต้นไป ทั้งนี้ ให้ใช้ยาสีฟันที่ถูกออกแบบมาสำหรับสัตว์โดยเฉพาะจะช่วยให้การทำความสะอาดช่องปากของน้องแมวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ กับเหงือกและฟันของเขา
อย่างไรก็ตาม หากพบว่าในช่วงแรกน้องแมวอาจจะต่อต้านการแหย่แปรงสีฟันเข้าไปในช่องปาก เจ้าของอาจจะใช้นิ้วมือค่อย ๆ ถูทำความสะอาดของเขาแทนไปก่อน เมื่อเริ่มคุ้นชินกับการทำความสะอาดช่องปากก็ค่อย ๆ เปลี่ยนมาใช้แปรงสีฟันอย่างค่อยเป็นค่อยไป การหัดทำความสะอาดช่องปากให้แมวด้วยแปรงสีฟันตั้งแต่แมวยังเด็กจะช่วยให้เขาไม่ต่อต้านการแปรงฟันของคุณเมื่อโตขึ้นนั่นเอง การทำความสะอาดช่องปากแมวเป็นประจำ นอกจากจะช่วยขจัดกลิ่นปากของเขาให้หายเป็นปลิดทิ้งแล้ว ยังเป็นการลดโอกาสในการเกิดโรคเหงือกอักเสบหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับแบคทีเรียและไวรัสต่าง ๆ ที่ใช้ช่องปากเป็นที่อยู่อาศัยอีกด้วย เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวในนกสองตัวเลยทีเดียว
นอกจากการแปรงฟันน้องแมวเป็นประจำแล้ว คุณยังควรพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้ทราบได้ว่ามีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นกับน้องแมวบ้างหรือเปล่า เหงือกและฟันมีปัญหาอะไรบ้างไหม หากพบความผิดปกติก็จะได้เริ่มต้นการรักษาอย่างทันท่วงทีนั่นเอง
ปัญหากลิ่นปากของน้องแมวนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับสุขภาพของน้องแมวได้ เพราะฉะนั้น เจ้าของจึงควรหมั่นตรวจเช็คความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับน้องแมว หากพบว่ากลิ่นปากที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากภาวะการทำงานผิดปกติภายในร่างกาย ควรพาน้องแมวเข้าพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยโดยเร็ว หากพบว่าปากเหม็นเพราะปัญหาสุขภาพช่องปากก็สามารถรักษาได้ด้วยตนเองผ่านการหมั่นทำความสะอาดช่องปากให้เขา ตลอดจนเลือกอาหารที่ไม่มีกลิ่นแรงหรือเคี้ยวยากมากเกินไปก็สามารถช่วยลดกลิ่นปากของน้องแมวได้ดีเช่นกัน
อ่านสาระสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ เพิ่มเติม;
รักษาอย่างไรดีเมื่อน้อง กระต่ายขนร่วง เรามีคำแนะนำมาฝาก
หญิงหรือชาย? มาดู วิธีดูเพศกระต่าย มืออาชีพเขาดูกันยังไง?
คนรักหมาต้องรู้ วิธีอาบน้ำหมา อาบอย่างไรให้น้องมีสุขภาพขนและผิวหนังที่ดี