
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงน่ารักที่นิยมเลี้ยงกันแทบทุกบ้านเลยก็ว่าได้ แต่เมื่อเราเลี้ยงแมวแล้ว เราก็ต้องรู้จักที่จะเรียนรู้ปัญหาต่าง ๆ ที่มักเกิดกับแมวด้วย เพื่อที่เจ้าเหมียวมีความผิดปกติขึ้นมา จะได้รู้ว่าเกิดจากอะไรและดูแลรักษาได้ถูกวิธี ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจกับอาการแมวมีน้ําเหลืองๆ ออกจากช่องคลอด ว่าเกิดจากอะไรและเป็นอันตรายหรือไม่ เอาเป็นว่าไปดูกันเลย
แมวมีน้ําเหลืองๆ ออกจากช่องคลอด มีสาเหตุจากอะไร
แมวที่มีน้ำเหลือง ๆ ออกมาจากช่องคลอด เป็นอาการที่บ่งบอกถึงช่องคลอดอักเสบหรือมดลูกอักเสบ โดยสาเหตุนี้ก็จะมาจากการติดเชื้อของช่องคลอด ซึ่งเมื่อเกิดการอักเสบแล้วก็อาจจะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อแบบรุนแรงได้ด้วย โดยจะรู้ได้อย่างไรว่าแมวมีอาการติดเชื้อรุนแรง สังเกตได้จากการมีน้ำหนองสะสมที่บริเวณมดลูกจำนวนมาก จนเกิดภาวะมดลูกอักเสบซึ่งนอกจากแมวแล้วยังสามารถเกิดในสุนัขได้ด้วย และแน่นอนเลยว่าหากเกิดอาการดังกล่าวในแมวหรือสัตว์เลี้ยงของคุณแล้วยังไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ก็อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ สำหรับมดลูกอักเสบนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานมากแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถอธิบายถึงกลไกการเกิดโรคที่แท้จริงได้อย่างสมบูรณ์ โดยทั่วไปเราก็มักจะทราบกันดีว่า ฮอร์โมน Progesterone และ Estrogen นั้นเป็นสิ่งที่มีบทบาทและการติดเชื้อแบคทีเรียก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคได้เช่นกัน แต่จากสถิติการเกิดโรคในสัตว์เลี้ยงเรามักจะพบว่าภาวะมดลูกอักเสบนั้นมักจะเกิดกับสัตว์ที่มีอายุเยอะและจะพบในเพศเมียเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง
อาการที่บ่งบอกว่าแมว มีปัญหามดลูกอักเสบ
อาการที่จะบ่งบอกให้เรารู้ว่าแมวของเรามีปัญหาเกี่ยวกับมดลูกอับเสบ หรือระบบสืบพันธุ์มีปัญหาหรือไม่นั้น จะมีอาการดังต่อไปนี้
- แมวจะมีอาการซึมก่อนเลยเป็นอันดับแรก ซึ่งอาการนี้เราจะสังเกตเห็นได้ไม่ยาก เนื่องจากแมวจะแสดงอาการที่ชัดเจน โดยอาการซึมที่เราสังเกตได้คือ แมวจะไม่กินอาหาร หรือกินน้อยลงจนทำให้เกิดอาการอ่อนแรง รวมทั้งมีอาการอาเจียนบ่อย ๆ อีกด้วย
- ดื่มน้ำเยอะผิดปกติ นอกจากจะมีอาการซึมแล้วแมวจะมีอาการผิดสังเกตคือกินน้ำเยอะเกินไป ซึ่งแน่นอนเมื่อกินน้ำเยอะก็ต้องฉี่เยอะผิดปกติ อาการนี้สังเกตได้ไม่ยากเช่นกัน
- หอบ เยื่อเมือกมีสีซีด เมื่อไหร่ก็ตามที่แมวมีอาการซึมจะมีอาการหอบ เหนื่อย รวมทั้งมีสิ่งคัดหลั่งออกมาจากอวัยวะเพศที่มีลักษณะเป็นหนองเหลือง ไม่เพียงแค่นี้เพราะเขาจะมีอาการท้องกาง รวมถึงมีอาการปวดท้องอีกด้วย
- มีอาการถ่ายเหลว น้ำหนักตัวลด หากสังเกตรูปร่างจะพบว่าผอมมาก น้ำหนักเบา ตาอักเสบ เจ็บที่ขาและจะไม่ค่อยเดินไปมา
- ในแมวบางตัวก็อาจจะไม่มีอาการใด ๆ เลยก็ได้ นอกจากอาการแมวมีน้ําเหลืองๆ ออกจากช่องคลอด ซึ่งอันนี้ก็เป็นอาการที่สามารถสังเกตได้ง่ายเช่นกัน
วิธีการรักษา
การรักษาภาวะมดลูกอักเสบนั้น หากพบว่าแมวมีน้ําเหลืองๆ ออกจากช่องคลอด จะต้องได้รับการรักษาในทันที เพื่อที่จะได้เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิต ในส่วนของการรักษามดลูกอักเสบในแมวนั้นคือ จะต้องได้รับการผ่าตัด เพื่อนำเอามดลูกและรังไข่ออก ซึ่งก็จะมีลักษณะเหมือนกับการทำหมันทั่วไป โดยแมวของคุณจะต้องได้รับการปรับสภาพเพื่อจะได้มีร่างกายที่พร้อมในการผ่าตัด นั่นก็เพื่อให้แมวไม่เสี่ยงอันตรายจากการผ่าตัดนั่นเอง โดยการที่แมวได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดเอามดลูกออกจะเป็นวิธีการรักษาที่ได้ผล และที่สำคัญแมวของคุณจะมีการฟื้นตัวที่เร็วอีกด้วย ทั้งยังเป็นวิธีที่จะช่วยป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก และไม่เพียงแค่นี้เพราะการผ่าตัดเอามดลูกออกจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งรังไข่ มดลูก และลดการตั้งครรภ์ในแมวที่ไม่พร้อมได้ด้วย เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อสังเกตเห็นว่าแมวมีอาการดังกล่าวให้สันนิฐานได้เลยว่าอาจจะเป็นภาวะมดลูกอักเสบก็ได้ ให้รีบพาไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที ส่วนแมวที่เป็นมดลูกอักเสบแต่เจ้าของยืนยันไม่ผ่าตัดเพื่อเก็บไว้ทำพันธุ์ก็อาจจะใช้วิธีการรักษาในรูปแบบอื่น เช่น รักษาด้วยยา ซึ่งจะมีผลข้างเคียงกับแมวบ้างและอาจกลับมาเป็นว้ำได้อีก จึงต้องคอยดูแลและสังเกตอาการบ่อย ๆ
การดูแลหลังรักษา
ในการดูแลหลังรักษาหากไม่มีอาการแทรกซ้อนจะได้กลับบ้าน โดยการดูแลโดยรวมก็เหมือนกับการดูแลแมวหลังทำหมัน แต่แมวที่รักษามดลูกอักเสบจะได้รับยาต้านจุลชีพต่อเนื่อง 10 วัน และมีการกักบริเวณ เป็นอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังจากได้รับการผ่าตัดมดลูกมา และที่สำคัญแมวจะต้องได้รับการใส่เครื่องป้องกันการเลีย การเกาแผลผ่าตัดด้วย เพื่อที่แผลจะได้ไม่ติดเชื้อนั่นเอง แต่หากพบว่าหลังผ่าตัดเกิดการติดเชื้อและมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะน้ำแห้งรุนแรง ภาวะช็อค หรือมีภาวะอวัยวะล้มเหลวโดยเฉพาะไต แมวของคุณจะต้องได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ เพื่อให้ได้รับยาต้านจุลชีพ สารน้ำ รวมทั้งอาหารทางหลอดเลือดดำด้วย อย่างน้อยประมาณ 10-14 วัน หากอาการดีขึ้นเกือบเป็นปกติก็จะได้กลับบ้านไปดูแลต่อ
วิธีการป้องกัน
วิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้น้องแมวของคุณเกิดภาวะมดลูกอักเสบสามารถทำได้โดยการทำหมัน ซึ่งการทำหมันจะเป็นการตัดมดลูกและส่วนของรังไข่ออก เป็นวิธีป้องกันที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ดีมาก ๆ และนอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เช่น เนื้องอกที่เต้านม การเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ เป็นต้น
ปัจจัยใดบ้าง ที่จะทำให้การรักษาสำเร็จหรือไม่สำเร็จ
ปัจจัยที่จะทำให้การรักษามดลูกอักเสบสำเร็จหรือไม่นั้น มีปัจจัยหลักดังต่อไปนี้
สุขภาพของสัตว์
หากแมวของคุณที่มารับการรักษาไม่มีโรคประจำตัว หรือไม่มีภาวะแทรกซ้อนและการติดเชื้อที่รุนแรง การผ่าตัดเพื่อรักษามดลูกอักเสบก็จะประสบความสำเร็จง่ายขึ้น แต่เรามักจะไม่ค่อยพบแมวที่มีสุขภาพสมบูรณ์หรือแมวที่มีมดลูกที่ดีมารับการรักษาเท่าไหร่ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแมวที่มีปัญหาเกี่ยวกับมดลูกมากกว่า และแมวหลาย ๆ ตัวที่มารักษาก็มักจะมีอาการที่ค่อนข้างรุนแรงไม่ว่าจะ ซึม มีไข้ อาเจียน มีน้ำหนองไหล เป็นต้น ซึ่งแน่นอนเมื่อมารับการรักษาด้วยอาการที่รุนแรงการรักษาก็เป็นไปได้ยาก และใช้เวลาพอสมควร
การดูแลของเจ้าของ
การดูแลของเจ้าของก่อนรักษาและหลังผ่าตัดก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน เพราะหากคุณสังเกตอาการได้เร็ว และแมวยังมีอาการที่ไม่รุนแรง เมื่อได้รับการรักษาก็จะสามารถรักษาได้ง่าย การดูแลหลังผ่าตัดก็เป็นไปได้ง่ายอีกด้วย ยิ่งคุณดูแลดีเท่าไหร่การรักษาก็ประสบผลสำเร็จมากเท่านั้น
เครื่องมือที่ใช้ในการรักษา
หากแมวของคุณได้รับการรักษากับแพทย์หรือโรงพยาบาลสัตว์ที่มีความพร้อมในเรื่องของเครื่องมือก็จะทำให้การรักษาง่ายขึ้น โดยเฉพาะการวินิจฉัย เพราะหากวินิจฉัยได้เร็วและผลออกมาแม่นยำก็จะทำให้ได้รับการรักษาที่เร็วขึ้น โอกาสที่จะหายและดูแลหลังผ่าตัดก็จะง่ายอีกด้วย
ก็ได้รู้กันไปแล้วกับภาวะมดลูกอักเสบ ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งโรคของสัตว์เลี้ยงที่มีความน่ากลัวมาก ๆ ดังนั้นหากคุณไม่อยากให้แมวที่คุณรักต้องจากคุณไปอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงอายุที่กำหนดเราแนะนำให้คุณตรวจสุขภาพให้แมวหรือสัตว์เลี้ยง และเมื่อพร้อมก็ทำหมันเพราะการทำหมันจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ดีมาก ๆ นอกจากนี้ปัจจัยอื่น ๆ ก็สำคัญไม่น้อยเช่นกัน อย่างเช่น อาหารที่น้องแมวทานมีคุณภาพและเหมาะสมหรือไม่ เพราะหากอาหารไม่มีคุณภาพก็อาจจะเสี่ยงต่อสุขภาพของแมวได้นั่นเอง และอย่าลืมหากพบว่าแมวมีน้ําเหลืองๆ ออกจากช่องคลอด ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
อ่านเรื่องราวสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม