แมวศุภลักษณ์ หรือแมวทองแดง ถือเป็นแมวมงคลของไทยที่ปัจจุบันเริ่มหายากแล้ว เป็นแมวที่สมัยโบราณบุคคลชั้นสูงมักนิยมเลี้ยงกันเป็นอย่างมาก เพราะเชื่อว่าจะนำความสุข ความเจริญ ความร่ำรวย และยศถาบรรดาศักดิ์มาให้กับผู้ที่เลี้ยงดู โดยแมวศุภลักษณ์เป็นแมวไทยที่มีลักษณะโดดเด่นและหายาก ซึ่งในปัจจุบันนั้นแทบจะหาไม่ได้แล้ว และวันนี้เราก็จะพาไปดูกันว่าแมวศุภลักษณ์มีลักษณะนิสัยอย่างไร และมีต้นกำเนิดจากไหน มาทำความรู้จักกับแมวชนิดนี้กันเลยดีกว่า
รู้จักกับต้นกำเนิด แมวศุภลักษณ์ กันหน่อย
แมวศุภลักษณ์ Burmese Cat มีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทยแต่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าแมวศุภลักษณ์เป็นแมวจากประเทศพม่า ข้อนี้คนที่รักแมวในประเทศไทยรู้ดี ซึ่งต้นเหตุที่คนต่างชาติเข้าใจผิดนั้น เนื่องจากว่าในสมัยกรุงศรีอยุธยาคนไทยส่วนหนึ่งถูกจับนำไปเป็นเชลยในประเทศพม่า ด้วยความที่มีลักษณะที่โดดเด่นและสวยงามแมวสายพันธุ์นี้จึงถูกนำติดไปด้วย และด้วยความสง่างามของแมวสายพันธุ์ศุภลักษณ์ จึงทำให้เหล่าขุนนางและชนชั้นสูงของชาวพม่าได้นำไปเลี้ยงที่นั่น และต่อมาในปี 2473 ดร โจเซฟ ซี ทอมสัน ได้มาพบแมวสายพันธุ์นี้ที่ประเทศพม่า และรู้สึกชอบเป็นอย่างมากจึงได้นำแมวสายพันธุ์นี้กลับไปที่ซานฟรานซิสโกด้วย ต่อมาได้นำไปจดทะเบียนในประเทศอังกฤษและตั้งชื่อสายพันธุ์ว่า Burmese Cat หรือแมวพม่านั่นเอง แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนเชื่อว่าเป็นแมวที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทยนั้นเนื่องจากว่ามีลักษณะ โครงสร้าง นิสัยทุกอย่างตรงกับแมวไทยทุกประการเลย
ลักษณะของแมวศุภลักษณ์ เป็นอย่างไร
แมวศุภลักษณ์หรือแมวทองแดง มีลักษณะ รูปร่างขนาดกลาง มีลำตัวที่ยาว น้ำหนักตัวพอประมาณมีขนสีทองแดงหรือน้ำตาลทั่วทั้งตัวและอาจมีสีที่เข้มเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นลักษณะที่โดดเด่นของแมวสายพันธุ์นี้ แต่มักเข้าใจผิดว่าเป็นแมววิเชียรมาศด้วยความที่มีลักษณะคล้ายๆ กัน มีขาที่แข็งแรงเรียวยาว ฝ่าเท้าอวบ ศีรษะมีลักษณะกลม สีตาออกสีเหลืองหรือสีอำพัน มีหนวดเหมือนลวดทองแดง จุดที่มีสีเข้มมากกว่าปกตินั่นก็คือ ตรงหน้า ปลายหู ปลายขาและหาง แต่ถ้าแมวศุภลักที่มีลักษณะพิเศษนั้นจะสังเกตได้ดังนี้
- ขนจะต้องสั้นกว่าปกติ มีสีน้ำตาลหรือสีทองแดง บริเวณ ใบหน้า ปลายหู ปลายขา และหาง จะมีสีที่เข้มกว่าบริเวณอื่นๆ ของลำตัว
- ลักษณะศีรษะจะกลมๆ และกว้างกว่าปกติ
- ลักษณะของหนวดจะคล้ายเส้นลวดของทองแดง
- ขาทั้งสี่ข้างจะเรียว ตรงฝ่าเท้าจะอวบกว่าปกติ
- มีนัยน์ตาสีเหลือง หรือสีอำพัน
- หูมีลักษณะสามเหลี่ยมปลายหูมนๆ เรียวๆ และหูตั้งชี้
- มีหางที่ยาว โคนหางจะใหญ่และจะค่อยๆ เรียวเล็กลงไปจนสุดปลายหางและตรงปลายหางจะมีสีเข้มมาก
อุปนิสัยของแมวสายพันธุ์นี้
เนื่องจากแมวศุภลักษณ์เป็นแมวสายพันธุ์ที่เกิดในประเทศไทยลักษณะนิสัยจึงคล้ายกับแมวไทยทั่วๆ ไป ซึ่งมีความเป็นนักล่าตามสัญชาตญาณเดิม เพราะจะสังเกตเห็นแมวไทยทั่วๆ ไปที่มักจะไปวิ่งไล่จับนกจับหนูมาเป็นประจำ ซึ่งนั่นก็คือสัญชาตญาณความเป็นนักล่าในตัวนั่นเอง โดยมีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ก่อนที่แมวจะถูกมนุษย์นำมาเป็นสัตว์เลี้ยง แมวศุภลักษณ์จะมีลักษณะนิสัยกระตือรือร้นมีความเป็นนักล่าอยู่ในตัวเต็มที่ อยากรู้อยากเห็นชอบผจญภัย ชอบเป็นจ่าฝูง รักอิสระเหนือสิ่งอื่นใดบ้าพลัง พลังเยอะต้องการจะเล่นตลอดเวลา รักสงบ ขี้อ้อน รักเจ้าของและชอบมาเกาะแกะกับเจ้าของ แต่ไม่ค่อยเป็นมิตร ไม่ค่อยชอบคนแปลกหน้า เป็นแมวที่ดุร้ายพอสมควรและยิ่งเป็นช่วงที่มีลูกอ่อนจะดุร้ายมากเป็นพิเศษ
คำแนะนำในการเลี้ยงแมวศุภลักษณ์
แมวศุภลักษณ์ เป็นแมวสายพันธุ์ไทยที่เลี้ยงง่ายไม่ขี้โรคเลี้ยงได้ตามปกติทั่วไปจะปล่อยไว้ข้างนอกหรือในบ้านก็สามารถอยู่ได้ สามารถอยู่ได้ตามลำพัง เพราะรักอิสระมาก แต่สิ่งที่จะต้องใส่ใจเป็นพิเศษในแมวสายพันธุ์นี้ก็คือควรพาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคและการเจ็บไข้ด้วย เพราะแมวสายพันธุ์นี้มักจะไม่ชอบอยู่นิ่งและมีสัญชาตญาณนักล่าจึงไม่แปลกที่มักจะเห็นจับนกจับหนูมาได้เป็นประจำ จึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องสุขอนามัยพาไปตรวจสุขภาพประจำ แต่เนื่องจากแมวศุภลักษณ์เป็นแมวสายพันธุ์ไทยอยู่แล้วจึงไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องของสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวเหมือนแมวสายพันธุ์นอก แมวศุภลักษณ์มีอายุเฉลี่ยประมาณ 10 ปี แต่บางตัวก็ยืนถึง 20 ปี สามารถผสมพันธุ์ได้ตั้งแต่อายุ 8 – 9 เดือน และใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 9 สัปดาห์ ลูกแมวสามารถหย่านมแม่ได้เมื่ออายุ 45 วัน ใครที่คิดจะเลี้ยงแมวศุภลักษณ์จึงไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องของค่าใช้จ่ายเพราะเป็นแมวสายพันธุ์ไทยอยู่แล้ว นอกจากค่าวัคซีนและค่ายาเวลาเจ็บป่วยเท่านั้น
สำหรับใครที่ชื่นชอบแมวศุภลักษณ์ และอยากได้มาเลี้ยงสักตัวต้องบอกเลยว่าไม่ง่ายเลย เพราะในปัจจุบันแมวศุภลักษณ์ถือเป็นแมวอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่หายากมากและเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ และที่มีส่วนมากก็จะไม่ใช่สายพันธุ์แท้ ส่วนเรื่องการเลี้ยงดูนั้นไม่ยากเลยเพราะมีสายพันธุ์เป็นแมวไทยอยู่แล้วจึงเลี้ยงดูง่ายปล่อยได้ตามปกติไม่ขี้โรค ถ้าใครอยากเลี้ยงเสริมดวงนำโชคก็ลองหามาเลี้ยงสักตัวกันดู
อ่านสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม