เชื่อว่าหลาย ๆ ท่าน คงเคยมี “สัตว์เลี้ยง” เป็นของตนเอง เพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้น เป็นการผ่อนคลายความเครียดและคลายความเหงาได้อย่างหนึ่ง ดูได้จากการรักษาอาการของบางโรคนั้น แพทย์ได้มีการแนะนำให้ผู้ป่วย “เลี้ยงสัตว์” สักตัวหนึ่ง เพื่อลดความเครียดและเพิ่มความสุข ซึ่งเป็นการบำบัดโรคได้ทางอ้อมนั่นเอง
ซึ่งสัตว์เลี้ยงยอดนิยมก็มีตั้งแต่ สุนัข แมว นก หรือจะเป็น กระต่าย ก็นิยมกันมากเพราะว่าตัวเล็กน่ารักสวยงาม มีหลายพันธุ์ให้เลือก ใช้พื้นที่น้อย ไม่รบกวนชีวิตประจำวันมาก และไม่ส่งเสียงรบกวนด้วย ซึ่งการจะเลี้ยงกระต่ายให้มีลักษณะที่ดีและสมบูรณ์นั้น นอกจากต้องดูแลเรื่องสุขภาพและบริเวณที่อยู่แล้ว ก็ต้องดูแลเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างดีด้วย จึงเป็นคำถามยอดนิยมของผู้เริ่มเลี้ยงกระต่าย ว่า กระต่ายกินอะไรเป็นอาหาร เราจึงได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ มาฝากผู้ที่ต้องการเลี้ยงกระต่าย ดังนี้
อาหารหลัก ๆ ที่ “กระต่าย” กินแบ่งออกได้เป็น 4 อย่าง ได้แก่
1) หญ้าและฟาง
เป็นอาหารหลักของกระต่าย ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก มีผลต่อระบบขับถ่ายของกระต่าย เพราะหญ้าและฟางนั้นมีกากใยสูง ทำให้มีส่วนช่วยในการย่อยอาหารของกระต่าย และการกินหญ้าและฟางนั้น ยังต้องมีการเคี้ยวก่อน ซึ่งเป็นการช่วยเสริมสร้างฟันกระต่ายให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เหมือนการออกกำลังกายฟันไประหว่างเคี้ยวนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นการช่วยรักษาสมดุลระบบขับถ่ายของกระต่าย ด้วยการขับก้อนขนไม่ให้ไปอุดตันในท้อง โดยหญ้าสำหรับการเลี้ยงกระต่ายนั้น มีอยู่หลายรูปแบบ และสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
- หญ้าอัลฟาฟ่า (Alfalfa Hay) : หญ้าที่มีสารอาหารมาก มีแคลเซียม และโปรตีนสูง อีกทั้งที่มีขายตามท้องตลาด และให้ในปริมาณที่มากอีกด้วย หญ้าชนิดนี้เหมาะกับการใช้เลี้ยงลูกกระต่ายและแม่กระต่ายที่กำลังเลี้ยงลูกหรือให้นมลูก
- หญ้าทิโมที (Timothy Hay) : เป็นหญ้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในการใช้เลี้ยงกระต่าย เพราะเป็นหญ้าที่มีกากใยสูง ช่วยในการขับถ่ายได้ดี อีกทั้งยังช่วยในการขัดฟันได้ดีอีกด้วย แต่ไม่แนะนำให้ใช้เลี้ยงลูกกระต่าย เพราะหญ้าชนิดนี้มีก้านและใบขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเลี้ยงลูกกระต่ายนั่นเอง
- หญ้าออชาด (Orchard Grass Hay) : หญ้าชนิดนี้มีรสชาติที่ค่อนข้างหวานมากกว่าชนิดอื่น ๆ และมีปริมาณของใบมากกว่าก้าน ความหยาบของหญ้าจึงค่อนข้างต่ำ เหมาะกับกระต่ายที่หัดกินหญ้าแห้ง และกระต่ายที่ชอบเลือกกิน
- หญ้าโอ๊ต (Oat Hay) : หญ้าชนิดนี้เป็นที่ชื่นชอบของกระต่ายหลาย ๆ ตัว เพราะกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของหญ้าโอ๊ต แม้ว่าจะมีโปรตีนและแคลเซียมไม่มาก แต่ก็ช่วยในการขัดฟันได้ดีเยี่ยม เหมาะอย่างมากกับกระต่ายที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟันยาวผิดปกติ
- หญ้าขน (Brachiaria mutica) : แตกต่างจากหญ้าข้างต้นทั้ง 4 ชนิด เพราะหญ้าขนนั้น เป็นหญ้าทั่วไปที่สามารถหาตัดได้จากข้างทาง แนะนำให้มีหญ้าขนติดในกรงไว้ตลอด โดยก่อนที่จะนำมาให้กระต่ายกิน ก็ควรทำความสะอาดให้เรียบร้อยด้วยการล้างน้ำให้สะอาด หรือแช่น้ำด่างทับทิมไว้สัก 30 นาที เพื่อล้างสารเคมีจากยาฆ่าแมลงต่าง ๆ ด้วย
รักษาอย่างไรดีเมื่อน้อง กระต่ายขนร่วง เรามีคำแนะนำมาฝาก
หญิงหรือชาย? มาดู วิธีดูเพศกระต่าย มืออาชีพเขาดูกันยังไง?
2) อาหารเม็ด
อาหารชนิดนี้ แม้ว่าจะหาซื้อได้ง่าย เพราะมีขายมากมายตามท้องตลาดอยู่หลากหลายยี่ห้อ แต่ว่าไม่แนะนำให้กระต่ายกินมากเกินไป เพราะอาหารเม็ดนั้นมีกากใยที่น้อย ดังนั้นหากจะให้กระต่ายกิน ควรเลือกที่มีปริมาณกากใยหรือไฟเบอร์สูง ไขมันต่ำ เพื่อไม่ให้กระต่ายอ้วนมากเกินไป และหากให้กินก็ควรรักษาความสะอาดด้วยการเปลี่ยนอาหารทุกวัน
3) ผักและผลไม้
เป็นอาหารตามธรรมชาติของกระต่ายอยู่แล้ว แต่ไม่แนะนำให้ลูกกระต่ายที่อายุต่ำกว่า 3 เดือนกิน เพราะอาจทำให้ลูกกระต่ายมีอาการท้องเสียได้ เนื่องจากในผักและผลไม้มีน้ำในปริมาณที่มาก อีกทั้งอาการท้องเสียของกระต่ายยังเป็นอันตรายกับกระต่ายอย่างมากจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ แนะนำว่าหากต้องการให้กระต่ายกินผักและผลไม้ ก็ควรเลือกให้ดีก่อน เนื่องจากอาจมีการเจือปนของสารเคมีที่ทำให้เกิดอันตรายอย่างมากหากกระต่ายกินเข้าไป และควรเลือกกินผักหรือผลไม้ที่มีน้ำน้อย เพื่อหลีกเลี้ยงไม่ให้กระต่ายท้องเสีย และศึกษาก่อนให้กระต่ายกิน ยกตัวอย่างผักและผลไม้ที่กินได้ เช่น มะละกอ แอปเปิล แครอท ผักชี ขึ้นฉ่าย ผักขม เป็นต้น
4) น้ำสะอาด
ต้องขอย้ำอีกครั้งว่าเป็นน้ำสะอาดเท่านั้น เพราะสำคัญมากจริง ๆ เนื่องจากกระต่ายนั้นเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างจะท้องเสียได้ง่าย และอาการท้องเสียนั้นก็เป็นอันตรายอย่างมาก หมั่นเปลี่ยนน้ำให้กระต่ายบ่อย ๆ ให้มีความสะอาดอยู่ตลอดเวลา และใช้น้ำสะอาดที่เราใช้ดื่มกินเท่านั้น ไม่ควรใช้น้ำประปา เพราะอาจไม่สะอาดพอและทำให้กระต่ายท้องเสียได้ รวมถึงให้รักษาความสะอาดของกรงและอาหารของกระต่ายด้วย
การให้น้ำกับกระต่าย ควรหมั่นเติมน้ำไม่ให้ขาดหาย เพราะน้ำนั้นสำคัญต่อร่ายกายของกระต่ายอย่างมาก ไม่ต่างจากคน โดยต่อวันนั้น กระต่ายที่มีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ควรดื่มน้ำ 50 มิลลิลิตร – 150 มิลลิลิตร และกระต่ายที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 1.6 กิโลกรัม ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 80 มิลลิลิตร – 240 มิลลิลิตร
อาหารทั้ง 4 ประเภทข้างต้น เป็นคำตอบสำหรับหลายคนที่สงสัยว่า กระต่ายกินอะไรเป็นอาหาร โดยจะเห็นได้ว่าการเลี้ยงกระต่ายนั้น ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก แค่เพียงต้องใส่ใจดูแลให้มากหน่อย เนื่องจากกระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ค่อนข้างจะท้องเสียง่าย ดังนั้น หากท่านใดเลี้ยงกระต่ายอยู่ หรือกำลังคิดจะเลี้ยง ก็อยากให้ศึกษาเรื่องการกินของกระต่ายมากเป็นพิเศษ เพื่อให้กระต่ายของคุณนั้นมีสุขภาพที่ดี และอยู่กับคุณได้นาน ๆ
อ่านสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม;
ช่วยด้วยครับ! หมาหายใจแรง [ผิดปกติหรือเปล่า]
รวมมิตรยอดฮิต แมวขนสั้น ที่คนไทยชอบเลี้ยง
รู้ทันโรคไร ขี้เรื้อน รักษาอย่างไรเมื่อน้องหมาของเราเป็นโรคขี้เรื้อน
คนรักแมวต้องรู้ โรค fip ภัยร้ายลูกรักของคุณ
กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก ทำยังไงดีเมื่อน้อง แมวมีกลิ่นปาก ผิดปกติ