หนึ่งในโรคที่น่ากลัวของสัตว์เลี้ยงอย่างน้องแมวแสนรัก คือ อาการท้องเสียในแมว ที่อาจเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ซึ่งปัญหาท้องเสียนี้ทำให้บรรดาเจ้าของแมวรู้สึกกังวลใจได้ไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้นถ้าเกิดปัญหานี้ขึ้นกับคุณ สิ่งที่คุณควรรู้คือ วิธีรักษาแมวท้องเสีย แบบเบื้องต้นก่อนการพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงต่ออาการที่หนักขึ้นจนอาจถึงชีวิตและลดความกังวลเจ้าของแมวลงได้อีกด้วย ดังนั้น ก่อนที่จะเรียนรู้ วิธีรักษาแมวท้องเสียแบบเบื้องต้น ลองมาทำความเข้าใจก่อนว่าแมวของคุณจะท้องเสียได้อย่างไร
อาการท้องเสียของแมวเป็นอย่างไร
อาการท้องเสียของแมวนั้นจะเริ่มเกิดจากการถ่ายมูลออกเป็นของเหลว โดยจะมีกลิ่นเหม็นและอาจจะมีเลือดปนออกมาได้ ระดับความรุนแรงของอาการท้องเสียของแมวนั้นจะมีด้วยกัน 3 ระดับ คือ
- ถ่ายเหลวเป็นน้ำ ไม่มีเนื้อออกมาเป็นก้อน อาจเกิดจากอาหารเป็นพิษการ ติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสภายในกระเพาะอาหารและลำไส้ รวมไปถึงการป่วยด้วยโรคชนิดอื่น
- ถ่ายเหลวออกมาเป็นเมือก หรืออาจจะถ่ายออกมาเป็นเส้นพยาธิที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งการถ่ายในลักษณะนี้ คือ การติดเชื้อจากพยาธิและปรสิตบางชนิด
- ถ่ายเหลวออกมาเป็นเมือกและเลือด ลักษณะนี้จะเป็นอาการที่ค่อนข้างหนัก ซึ่งหมายถึงลำไส้เกิดบาดแผลรุนแรง อาจเกิดจากพยาธิหรือปรสิตที่เข้าไปฝังตัวจนทำให้ลำไส้เกิดปัญหา รวมไปถึงการติดเชื้อแบคทีเรีย ติดเชื้อไวรัส จนอาการรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาการนี้จะน่ากลัวที่สุดเพราะเสี่ยงทำให้น้องแมวเสียชีวิตได้ ดังนั้นถ้าน้องแมวเริ่มมีอาการท้องเสีย จึงควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาทันที
สาเหตุของการเกิดท้องเสียกับแมวแสนรักของคุณ
ถ้าน้องแมวของคุณเกิดอาการท้องเสียแบบเฉียบพลันให้คุณวิเคราะห์ไว้ที่ 4 สาเหตุ คือ
- น้องแมวมีอาการลําไส้อักเสบ ที่เกิดจากสภาวะการรับประทานอาหารย่อยยากหรือการติดเชื้อ รวมไปถึงการมีพยาธิภายในลำไส้ จนทำให้ลำไส้เกิดเป็นแผล ยิ่งถ้ามีสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปในลำไส้และเข้าไปขูดหรือทำร้ายลำไส้เพิ่มขึ้น ก็จะยิ่งทำให้เนื้อเยื่อภายในเกิดเป็นแผลใหญ่จนอาจทำให้เลือดออกได้ จึงกลายมาเป็นปัญหาการขับถ่ายที่ผิดปกติคือถ่ายเหลวและมีเลือดปนออกมาอีกด้วย
- น้องแมวอาจเกิดสภาวะสมดุลน้ำภายในร่างกายที่ไม่ปกติ เกิดขึ้นจากอาหารที่กินมีความเข้มข้นสูงเกินไปหรือมีขนาดเม็ดที่ใหญ่และแข็งเกินไป เมื่อเข้าไปสู่ร่างกายจึงทำให้อาหารเหล่านี้ดูดซับน้ำภายในร่างกายและดูดซับน้ำภายในลำไส้ของน้องแมวมากผิดปกติ จึงทำให้เกิดภาวะท้องเสียแบบฉับพลันและกลายเป็นท้องเสียเรื้อรังได้
- บางครั้งถ้าลำไส้ของน้องแมวทำงานมากผิดปกติ จนเกิดการหลั่งสารเหลวที่อยู่ภายในลำไส้ออกมามากเกินไป จึงทำให้น้องแมวเกิดอาการท้องเสียได้เช่นกัน ซึ่งการหลั่งสารมากผิดปกตินี้จะเกิดจากลำไส้ติดเชื้อหรือมีการเจือปนของสารพิษภายในร่างกายมากจนเกินไป จึงทำให้ร่างกายขับเอาของเสียเหล่านี้ออกมาและกลายเป็นอาการท้องเสียไปในที่สุด
- การขยับตัวหรือการเคลื่อนไหวตัวที่มากเกินไปอาจทำให้ร่างกายของน้องแมวเกิดภาวะไม่สมดุล เพราะลำไส้ทำงานมากผิดปกติและทำงานเร็วเกินไป จึงทำให้อาหารต่างๆ ที่น้องแมวกินเข้าไปเคลื่อนผ่านลำไส้ไปโดยที่ไม่ผ่านการดูดซึมใดๆ ร่างกายของน้องแมวจึงไม่ได้รับสารอาหารและยังทำให้ท้องเสียหนักอีกด้วย
อ่านสาระน้องแมวอื่น ๆ เพิ่มเติม;
- ดีใจด้วย! คุณกำลังมีหลาน!! สัญญาณบอกเหตุน้อง แมวท้อง
- คนรักแมวต้องรู้ โรค fip ภัยร้ายลูกรักของคุณ
- 13 สายพันธุ์น้องแมวที่ทำตัวหยั่งกับน้องหมา!
- มาทำความรู้จักกับ แมวแมงซ์ {Manx} กันดีกว่า
- วิธีการเลี้ยงดูแล ลูกแมวเปอร์เซียแรกเกิด
อาการของโรคไข้หัดแมว
หนึ่งในโรคน่ากลัวที่มีจุดเริ่มต้นจากอาการท้องเสีย คือ โรคไข้หัดแมว ที่เมื่อเป็นแล้วน้องแมวจะรอดชีวิตได้ค่อนข้างยากหรือถ้ารอดมาแล้วอาจพิการทางสมองได้เลยทีเดียว ซึ่งก่อนการเกิดโรคนี้จะมีสัญญาณเตือนด้วยอาการท้องเสียรุนแรง เพราะจุดเริ่มต้นของโรคจะมาจากลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับแมวทุกเพศและทุกวัย โดยอาการเริ่มต้นจะมีดังนี้
- ท้องเสีย
- มีไข้
- เริ่มเบื่ออาหาร
- มีอาการอาเจียนร่วมด้วย
- ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ จึงเกิดสภาวะขาดน้ำ
- อ่อนเพลียและทรงตัวไม่อยู่
- อาการทรุดลงเร็ว
โดยโรคนี้สามารถทำให้แมวเสียชีวิตได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น ที่สำคัญคือถ้ามีแมวตัวใดตัวหนึ่งเกิดติดไข้หัดแมวเพียงแค่ 1 ตัว ก็สามารถทำให้แมวทุกตัวที่อยู่ภายในบ้านหรือรัศมีใกล้เคียงกัน ติดโรคนี้ได้ทั้งหมดและทำให้เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการนำน้องแมวอายุ 6-12 สัปดาห์ ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมวและทำการฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นซ้ำในทุกปี
สาเหตุของการเกิดปัญหาท้องเสียเฉียบพลันของแมวที่คุณควรรู้
- เกิดจากภาวะการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสที่แพร่เข้าสู่ลำไส้และอวัยวะในส่วนอื่น
- การรับประทานอาหารที่เจือปนไปกับสิ่งสกปรก สารเคมี และสารพิษต่างๆ
- การรับประทานอาหารที่มีความแข็ง ย่อยยาก หรือเป็นอาหารที่เข้าไปดูดซึมน้ำในลำไส้มากเกินไป
- ระบบย่อยอาหารไม่สมดุล มีความผิดปกติและไม่แข็งแรง
- เกิดจากการเป็นโรค Addison’s disease ที่มาจากปัญหาต่อมหมวกไตทำงานผิดปกติ
- เกิดจากปัญหาโรคตับ
- อาการข้างเคียงของโรคไต
- น้องแมวกินสิ่งแปลกปลอมหรือกินขยะที่เน่าเสีย
- ลำไส้เกิดการอุดตันจากก้อนขนหรืออุดตันจากอาหารที่เป็นพิษ
- การติดเชื้อไวรัส เชื้อปรสิต เชื้อรา และพยาธิภายในลำไส้
- เกิดจากผลข้างเคียงของยารักษาโรคบางชนิดหรืออาจจะมีสารพิษสะสมภายในร่างกายมากเกินไป
วิธีรักษาแมวท้องเสีย ในระยะเบื้องต้น
สำหรับเจ้าของแมว เมื่อพบว่าแมวของตัวเองเกิดอาการท้องเสีย แต่ยังอยู่ในช่วงที่ไม่สามารถพาไปพบสัตวแพทย์หรือยังไม่สะดวกพาไป คุณควรใช้วิธีรักษาแมวที่กำลังท้องเสียในแบบเบื้องต้นได้ดังนี้
- วิธีรักษาแมวท้องเสียวิธีแรกคือ หยุดการให้อาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารเม็ดหรืออาหารเปียก แต่ให้เพิ่มเป็นน้ำเปล่าสะอาด เพื่อทำให้น้องแมวไม่เสี่ยงต่อสภาวะขาดน้ำ การงดให้อาหารจะเป็นการช่วยทำให้ลำไส้หยุดทำงาน ในจังหวะนี้ให้คุณดูอาการให้ดี ถ้าคุณงดอาหารและให้เพียงแค่น้ำกับน้ำเกลือแร่แก่น้องแมวแล้วอาการดีขึ้น แสดงว่าน้องแมวอาจเป็นเพียงอาหารเป็นพิษหรือติดเชื้อแบคทีเรียกับเชื้อไวรัสจากการรับประทานอาหารสกปรก
- วิธีรักษาแมวท้องเสียขั้นต่อมาคือ ให้อาหารแบบอาหารเปียกของน้องแมวที่มีปัญหาเรื่องระบบลำไส้หรือเป็นอาหารสำหรับน้องแมวท้องเสียโดยเฉพาะ ซึ่งในปัจจุบันมีอาหารสไตล์นี้ออกขายในรูปแบบกระป๋องและแบบซองหลายแบรนด์ ถ้าคุณสะดวกออกไปซื้อ ควรซื้ออาหารเหล่านี้มาให้น้องแมวทานไปก่อนและที่ขาดไม่ได้ คือ น้ำเปล่าสะอาดจะต้องอยู่ข้างกับอาหารเสมอ
- ถ้าอาการดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ให้คุณปรับเปลี่ยนอาหาร โดยเริ่มจากอาหารเบาๆ ที่อาจจะเป็นอาหารเม็ดผสมน้ำ, การเปลี่ยนเป็นข้าวผสมน้ำซุปบดกับเนื้อไก่บด หรือให้อาหารเปียกสูตรพิเศษสำหรับน้องแมวท้องเสียโดยเฉพาะ
- ถ้าอาการไม่ดีขึ้นและมีอาการที่รุนแรงมากกว่าเดิม ทั้งการถ่ายและการอาเจียนร่วมด้วย ควรรีบหาเวลาว่างและพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยอาการทันที
- ช่วงที่น้องแมวท้องเสีย ควรงดให้น้องแมวเคลื่อนไหวตัวเอง เจ้าของควรเลือกจุดที่ให้น้องแมวได้นอนพักแบบสงบที่สุด เพราะช่วงเวลาที่น้องแมวป่วยจะต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ดังนั้นจึงควรเลือกพื้นที่ที่สงบ เสียงไม่ดัง สะอาด และมีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อลดความตึงเครียดของตัวน้องแมวลง
- ห้ามให้อาหารที่มีส่วนผสมของนมวัวหรือนมต่างๆ เด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้เข้าไปกระตุ้นอาการท้องเสียของน้องแมวมากขึ้น โดยเฉพาะนมวัวที่ภายในกระเพาะอาหารของแมวจะไม่มีเอนไซม์ในการย่อยนมชนิดนี้ รวมไปถึงอาหารบางชนิด ที่ไม่ควรให้น้องแมวรับประทานอย่างเด็ดขาด เช่น อาหารเม็ดที่มีความเข้มข้นสูง, อาหารเม็ดที่มีความแข็งมากเกินไป, อาหารเม็ดที่มีโซเดียมสูง หรืออาหารเม็ดใหญ่ที่จะเข้าไปดูดซึมน้ำภายในลำไส้ เป็นต้น
- หลังจากการพบสัตวแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้คุณพูดคุยและขอคำแนะนำในเรื่องวิธีรักษาแมวท้องเสียจากสัตวแพทย์มาให้ครบถ้วน เมื่อกลับถึงบ้านให้คุณทำตามคำแนะนำทั้งหมด รวมไปถึงการให้ยาตรงตามเวลาอยู่เสมอ เพื่อทำให้เกิดการรักษาอย่างต่อเนื่อง
อ่านเพิ่มเติม: วิธีบรรเทาอาการไม่สบายท้องของเจ้าเหมียวของคุณ
วิธีรักษาแมวท้องเสีย และการดูแลหลังจากพาไปพบสัตวแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณควรให้ยาตรงตามเวลาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง รวมไปถึงการพาน้องแมวไปตามนัดสัตวแพทย์ พร้อมด้วยการตรวจดูอาการของน้องแมวอยู่เสมอ Box Meaww ขอแนะนำว่าให้คุณเฝ้าสังเกตน้องแมวทุกชั่วโมงว่าดีขึ้นหรือไม่ เพราะถ้าไม่ดีขึ้นและอาการแย่ลงคุณต้องรีบพากลับไปหาสัตวแพทย์ทันที
อ่านสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ;
- พัฒนาการลูกกระต่าย และวิธีการดูแลลูกกระต่ายเบื้องต้น
- สาระน่ารู้เรื่อง การเลือก อาหารกระต่ายที่ดีที่สุด [2020]
- คู่มือ อาบน้ำหมา [พันธุ์เล็ก vs พันธุ์ใหญ่]
- หมาตาแฉะ เพราะอะไร จะรักษาและป้องกันได้อย่างไร
- คอร์กี้ (Corgi) สุนัขพันธุ์แคระแสนรู้ที่น่ารักและหน้าตาเป็นมิตร
- ไซบีเรียน ฮัสกี้ สุนัขหน้าตาน่ารักที่ใครเห็นก็ต้องอยากเลี้ยง
- คู่มือ อาบน้ำหมา [พันธุ์เล็ก vs พันธุ์ใหญ่]
- ซามอยด์ (Samoyed) ใครเห็นเป็นต้องหลงรัก
- มาทำความรู้จักกับเจ้า อลาสกัน คลี ไค หรือ ฮัสกี้ไซต์มินิ กันดีกว่า!