สำหรับเหล่าเจ้าของแมวทั้งหลาย มักจะมองว่า วิธีเลี้ยงแมวให้อ้วน คือ การทำให้น้องแมวดูน่ารัก น่าฟัด และดูเหมือนสุขภาพดี แต่ในความอ้วนนี้อาจจะแฝงไปด้วยโรคภัยหลากหลายอยู่ภายในตัวน้องแมวสุดที่รัก ดังนั้นถ้าการเลี้ยงให้แค่ดูน่ารัก หุ่นสวยพอเหมาะ รูปร่างสวยสมกับสายพันธุ์ แต่เน้นเรื่องสุขภาพที่ดีและขนที่สวยงาม ดวงตาสดใส มีความร่าเริงสมวัยน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า แต่เชื่อว่าเจ้าของน้องเหมียวหลายคนถ้าแมวดูไม่อ้วน ไม่กลม ก็ไม่สบายใจ ดังนั้นถ้าคุณต้องการวิธีเลี้ยงแมวให้อ้วน แต่สุขภาพยังคงแข็งแรง ไม่เสี่ยงโรคภัย ลองมาดูวิธีการต่อไปนี้
วิธีเลี้ยงแมวให้อ้วน แต่สุขภาพยังคงแข็งแรง ไม่เสี่ยงโรคภัย
จัดระเบียบอาหารให้สมดุลถ้าต้องการให้น้องแมวของคุณอ้วนอย่างมีคุณภาพ
ใช้วิธีเลี้ยงแมวให้อ้วนด้วยการจัดสมดุลอาหาร เลือกอาหารสูตรพรีเมี่ยมหรือสูตรบำรุงแมวโดยเฉพาะ โดยให้คุณศึกษาอาหารแต่ละสูตรที่ออกขายให้ดี เลือกสูตรแบบมัลติเกรนหรือสูตรออร์แกนิคที่ไม่มีส่วนผสมของไขมันกับโซเดียมสูงจนเกินไป เน้นอาหารเม็ดและอาหารเปียกที่มีส่วนผสมของผัก สำหรับการให้อย่างสมดุลคือให้เพียงแค่ 3 มื้อต่อวัน ครั้งละ 1 ถ้วย อาหารสูตรบำรุงแมวนี้จะช่วยทำให้ น้องแมวของคุณมีรูปร่างที่ สมบูรณ์แบบทั้งเรื่องของกล้ามเนื้อ ขนสวย ดวงตาสดใส และมีสุขภาพที่ดีแบบครบครัน
เลือกประเภทอาหารให้เหมาะสม
วิธีเลี้ยงแมวให้อ้วนอีกหนึ่งวิธี คือ การเลือกประเภทอาหารให้เหมาะสม ควรเลือกเป็นอาหารเม็ดสำหรับการกินทั้ง 3 มื้อเป็นหลัก ส่วนอาหารเปียกหรืออาหารสดนั้นควรเลือกให้เป็นเพียงบางช่วงเวลา จัดตารางการให้อาหารอย่างชัดเจน เช่น ภายใน 7 วัน ให้คุณเลือกให้อาหารเปียกหรืออาหารสดเพียงแค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้น โดยการให้ควรให้เพียงแค่ 1-2 มื้อต่อวัน และจะต้องนำอาหารเปียกผสมกับอาหารเม็ดที่น้องแมวกินอยู่ ไม่ควรให้อาหารสดแบบไม่ผสมใดๆ เพราะน้องแมวอาจเกิดอาการท้องเสียได้ การผสมกับอาหารเม็ดที่เคยทานอยู่จะช่วยลดความเสี่ยงอาการท้องเสียได้ดี
แม้จะอ้วนแต่ก็ต้องออกกำลังกาย
เมื่อทานจนอิ่มแล้วสิ่งที่ควรทำต่อมาคือการออกกำลังกาย น้องแมวบางตัวเมื่ออิ่มแล้วจะเริ่มขี้เกียจและขยับตัวน้อยลง บางสายพันธุ์แทบไม่ขยับตัวและไม่ค่อยเล่น จึงทำให้เสี่ยงต่อโรคอ้วนและโรคต่างๆ ได้ง่าย แม้ว่าจะได้รับอาหารบำรุงที่มีคุณภาพและมีการจัดระเบียบสมดุลอาหารแล้วก็ตาม แต่ถ้าน้องแมวไม่ยอมออกกำลังกายก็อาจทำให้สุขภาพเสียได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรกระตุ้นให้น้องแมวออกกำลังกายมากขึ้น เช่น การใช้เครื่องออกกำลังกายหรือการที่ตัวคุณใช้ของเล่นเข้าไปร่วมเล่นด้วย เพียงเท่านี้น้องแมวของคุณก็จะอ้วนอย่างมีคุณภาพ
ใช้ของเล่นเป็นตัวช่วย
สำหรับน้องแมวที่ไม่ค่อยทานอาหารและไม่ค่อยเล่น หรือทานน้อยและขยับตัวน้อย ควรเลือกใช้ของเล่นที่น้องแมวสนใจมาเป็นตัวช่วย โดยให้ใส่อาหารไว้ที่ของเล่นเพื่อให้น้องแมวได้เดินมากินและเล่นไปพร้อมกัน แต่วิธีนี้เจ้าของจะต้องเข้ามาดูแลหรือเข้ามาเล่นด้วย เพื่อเป็นการกระตุ้นให้น้องแมวได้ทั้งกินและเล่นตรงตามที่คุณต้องการ เพราะถ้าคุณปล่อยทิ้งไว้รับรองว่าน้องแมวของคุณจะเอาแต่นอนมองอยู่เฉยๆ กับที่อย่างแน่นอน
กินอาหารหลักที่จัดไว้เท่านั้น
สำหรับคนที่มีสมาชิกภายในบ้านชอบให้ขนมหรืออาหารนอกแก่น้องแมว ควรเข้าไปทำความเข้าใจกับคนในบ้านคุณให้เรียบร้อย และมีการระบุให้น้องแมวกินอาหารหลักที่จัดไว้ให้เท่านั้น ไม่ควรมีการให้อาหารแบบพร่ำเพื่อจากผู้อื่น ยิ่งถ้าผู้ให้ไม่รู้วิธีการให้อาหารแมวอย่างถูกต้อง ไม่รู้ว่าควรให้อย่างไร แล้วนำอาหารสดหรืออาหารนอกอื่นๆ ที่ไม่เหมาะสมต่อน้องแมวมาให้รับประทาน ก็อาจทำให้น้ำหนักของแมวเพิ่มสูงขึ้นหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของน้องแมวได้ ดังนั้นจึงควรพูดคุยถึง วิธีเลี้ยงแมวให้อ้วน อย่างสุขภาพดีกับคนภายในบ้านให้เข้าใจตรงกันและไม่ควรยินยอมให้อาหารหรือขนมเมื่อน้องแมวเข้ามาอ้อนเด็ดขาด
ให้ขนมแบบพอเหมาะ
สำหรับ วิธีเลี้ยงแมวให้อ้วน นั้นคุณสามารถให้ขนมได้แต่ควรเลือกขนมที่มีความเหมาะสม มีปริมาณของสารอาหาร กำลังดี ไม่ใส่น้ำตาลหรือมีส่วนผสมของไขมันกับโซเดียมสูงมากจนเกินไป การให้ขนมควรให้แบบพอเหมาะเพียงแค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้น และหลังจากการให้ขนมควรกระตุ้นให้น้องแมวออกกำลังกายร่วมด้วย เพื่อเป็นการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับน้องแมวต่อไป
มีน้ำสะอาดเสมอ
น้ำสะอาดถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่คุณไม่ควรพลาด เพราะน้ำจะช่วยทำให้น้องแมวลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตหรือภาวะฉี่ไม่ออกในแมวตัวผู้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้คุณยังสามารถเสริมนมแพะให้กับน้องแมวได้ด้วยเช่นกัน เพียงแต่จะต้องให้ในปริมาณที่เหมาะสม เพียงแค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้น เพื่อเป็นการเสริมสุขภาพและความแข็งแรง ส่วนน้ำที่ให้กับน้องแมวควรดูแลให้มีความสะอาดอยู่เสมอ เมื่อเริ่มมีเศษผงหรือมีเศษอาหารตกลงไปควรเปลี่ยนน้ำให้ทันที เพื่อไม่ให้เกิดภาวะติดเชื้อจากการกินน้ำสกปรก และไม่ควรให้เป็นน้ำก๊อกทั่วไปเพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องท่อปัสสาวะอุดตันหรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ ดังนั้นจึงควรให้น้องแมวกินน้ำที่เหมือนกับเราดื่มเพื่อเพิ่มสุขภาพที่ดีขึ้น ที่สำคัญคือการดื่มน้ำสะอาดบ่อยครั้งจะช่วยทำให้การขับถ่ายของน้องแมวดีขึ้นอีกด้วย
อ่านสาระน้องแมวเหมี่ยว เพิ่มเติม;
- ดีใจด้วย! คุณกำลังมีหลาน!! สัญญาณบอกเหตุน้อง แมวท้อง
- คนรักแมวต้องรู้ โรค fip ภัยร้ายลูกรักของคุณ
- กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก ทำยังไงดีเมื่อน้อง แมวมีกลิ่นปาก ผิดปกติ
- การเลี้ยงแมวเปอร์เซีย ควรเตรียมตัวอย่างไร
รู้ได้อย่างไรว่าแมวของเราอ้วนเกินไป?
แม้ว่าคุณจะเรียนรู้วิธีเลี้ยงแมวให้อ้วนอย่างถูกต้องและมีการทำตามทั้ง 7 ข้อแนะนำด้านบน แต่สิ่งที่คุณจะมองข้ามไม่ได้ คือ การสังเกตดูว่าน้องแมวที่คุณรักนั้นอ้วนเกินไปแล้วหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพในอนาคต คุณควรใช้วิธีการสังเกตดังต่อไปนี้
ตรวจสอบด้วยตัวเองแบบง่ายๆ
วิธีแรกเป็นวิธีการตรวจสอบแบบง่ายๆ ที่คุณสามารถทำเองได้ คือ การจับน้องแมวยืนท่า 4 ขาตามปกติ แล้วใช้มือคลำหาจุดของซี่โครง ถ้าคุณจับแล้วรู้สึกว่าส่วนของกระดูกหรือซี่โครงการต่างๆ หาได้ยาก ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อหรือพุงน้อยๆ ของน้องแมว แสดงให้รู้ว่าเหมียวน้อยของคุณกำลังอยู่ในสภาวะที่อ้วนเกินไปแล้ว
สังเกตดูที่หน้าท้องของน้องแมวให้ดี
ถ้ามีส่วนที่ห้อยลงมาจนดูหย่อนๆ เดินแล้วแกว่งไป-มา นั่นหมายถึงไขมันส่วนเกินพอกที่พุงของน้องแมว และถ้าใช้มือจับช่วงหน้าท้องพร้อมสัมผัสได้ว่าเนื้อส่วนนี้มีความเหลว มีเนื้อนิ่มๆ มากเกินไปก็แสดงให้รู้ว่ามีไขมันสูงแล้วเช่นกัน
ใช้มือของคุณจับไปที่ส่วนของคอและข้างแก้มของน้องแมว
ถ้าในส่วนของคางกับชั้นคอมีเนื้อย้อยลงมา เมื่อจับแล้วโดนเนื้อเป็นส่วนใหญ่ ให้ใช้มือคลำดูว่าความหนาของเนื้อไปจนถึงขากรรไกรนั้นมีมากแค่ไหน ถ้าจับแล้วยังคงนิ่มและมีส่วนของชั้นคอหนามากจนแทบไม่เจอขากรรไกร แสดงให้รู้ว่าน้องแมวของคุณกำลังเข้าสู่สภาวะโรคอ้วนแบบเต็มตัว
ถ้าคุณต้องการให้น้องแมวอ้วนอย่างมีคุณภาพ มีความน่ารักอ้วนกลมแบบสุขภาพดี ให้คุณเลือกใช้ วิธีเลี้ยงแมวให้อ้วน ทั้ง 7 ข้อแนะนำนี้ พร้อมการตรวจสอบดูว่าน้องแมวของคุณอ้วนเกินไปแล้วหรือไม่ โดยใช้ทั้ง 2 วิธีนี้ร่วมกัน จะทำให้น้องแมวของคุณมีสุขภาพที่ดี มีรูปร่างที่น่ารักน่าฟัดแบบไม่ต้องกังวลเรื่องของโรคภัยเลยแม้แต่น้อย ที่สำคัญคือการพาน้องแมวสุดที่รักไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อทำการตรวจสุขภาพ วัดน้ำหนัก และตรวจชั้นไขมัน พร้อมการฉีดวัคซีนต่างๆ ให้ครบทุกโรค เพียงเท่านี้น้องแมวของคุณจะสามารถอยู่เป็นเพื่อนคุณไปได้อย่างยาวนาน
อ่านสาระสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม;