การเลี้ยงสุนัขไม่เพียงแค่จะต้องใส่ใจเรื่องของการให้อาหาร และให้ความเป็นอยู่ที่ดีแต่เพียงเท่านั้น เพราะหากสุนัขของคุณได้รับการฝึกที่ดี ก็ย่อมกลายเป็นสุนัขที่น่ารัก และมีนิสัยที่ดีอีกด้วย โดยวิธีฝึกสุนัขให้สามารถทำตามด้วยคำสั่งง่ายๆ ขั้นพื้นฐาน จะช่วยให้พฤติกรรมของน้องหมาเป็นระเบียบและควบคุมได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสุนัขที่สามารถรับฟังคำสั่งขั้นพื้นฐานได้จะมีพฤติกรรมที่ดี ทำให้การใช้ชีวิตร่วมกับคนในครอบครัวและผู้คนในสังคมมีความสะดวกมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
วิธีฝึกสุนัขขั้นพื้นฐานที่เจ้าของทุกคนทำได้
การฝึกให้น้องหมาสามารถรับคำสั่งพื้นฐานอย่างการนั่ง, หมอบ, รอ และการหยุด ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของควรรู้และควรนำไปฝึกให้กับน้องหมาที่บ้าน โดยเฉพาะน้องหมาที่มีขนาดใหญ่ มีความตื่นตัวตลอดเวลา จำเป็นต้องถูกฝึกให้อยู่ในคำสั่งเจ้าของให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ในอนาคต ดังนั้นถ้าคุณกำลังมองหาวิธีฝึกสุนัขแบบขั้นพื้นฐานอย่างถูกต้อง ลองมาดูวิธีฝึกสุนัขดังต่อไปนี้
การนั่ง
วิธีฝึกสุนัขให้นั่งถือว่าเป็นการฝึกที่ง่ายที่สุด จึงถือว่าเป็นคำสั่งแรกๆ ที่คนเริ่มฝึกสุนัขมักนิยมนำมาใช้ก่อนคำสั่งอื่นๆ โดยให้คุณเริ่มต้นจากการดึงเชือกหรือสายปลอกคอของน้องหมาขึ้น โดยให้ทำในขณะที่น้องหมากำลังยืนอยู่ จากนั้นให้ใช้มืออีกข้างหนึ่งของคุณกดช่วงหลังของสุนัขลงให้ติดกับพื้น แต่ให้เป็นลักษณะของท่านั่ง อย่ากดช่วงกลางหลังเพราะอาจจะกลายเป็นท่าหมอบแทน
เมื่อใดที่น้องหมาลงไปนอนราบทั้งตัวเหมือนท่าหมอบให้คุณจับน้องหมากลับมาเป็นท่ายืนอีกครั้ง แล้วทำในลักษณะนี้วนไปเรื่อยๆ จนกว่าน้องหมาจะจำได้ ที่สำคัญคือคุณจะต้องใช้น้ำเสียงออกคำสั่งไปพร้อมกับการฝึกฝน เมื่อใดที่คุณดึงปลอกคอน้องหมาขึ้นในลักษณะเชิดหน้าขึ้นแล้วกดที่ด้านหลัง ให้คุณออกคำสั่งว่า “นั่ง” หรือ “นั่งลง” ด้วยเสียงที่ค่อนข้างเข้มและคุณจะต้องใช้น้ำเสียงนี้ทุกครั้งในการออกคำสั่ง เพื่อทำให้สุนัขของคุณจดจำได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
การหมอบ
การหมอบจะมีลักษณะคำสั่งที่คล้ายกับการนั่ง แต่จะใช้คำสั่งมือเพื่อทำให้สุนัขของคุณเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเมื่อใดที่คุณพลิกฝ่ามือคว่ำลงและทำท่ากดมือต่ำลง สุนัขของคุณจะต้องเข้าใจความหมายว่านั่นคือการหมอบทันที ดังนั้นคำสั่งนี้จึงต้องออกเสียงคำว่า “หมอบ” หรือ “หมอบลง” พร้อมกับใช้คำสั่งมือร่วมด้วย ที่สำคัญคือการใช้คำสั่งมือร่วมจะต้องทำอย่างระวัง เพราะถ้าคุณโบกมือแรงเกินไปอาจจะทำให้สุนัขเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองกำลังจะถูกทำร้าย
เริ่มต้นจากการจัดท่าทางของสุนัขให้เป็นท่านั่งตามปกติ แล้วให้คุณยกขาหน้าของสุนัขขึ้นทั้งสองข้าง โดยที่ตัวคุณใช้มือจับตรงเหนือข้อศอกของสุนัข เมื่อออกคำสั่งว่ามอบให้คุณดึงขาหน้าของสุนัขลงติดพื้นแบบเบาๆ เพื่อทำให้รู้ว่าท่านี้คือท่าหมอบและให้ใช้คำสั่งเสียงพูดในขณะที่คุณสอนให้น้องหมาทำตาม ทุกครั้งที่คุณฝึกท่านี้คุณควรใช้วิธีการจับขาหน้าทั้งสองข้างช่วงเหนือข้อศอกของสุนัขลงราบกับพื้นทุกครั้งและควรทำแบบเบามือ เพื่อทำให้สุนัขไว้วางใจและให้ความร่วมมือมากขึ้น เรื่องสำคัญคือการใช้คำสั่งเสียงและคำสั่งมือร่วมด้วย เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน
การรอ
การฝึกให้รอหรือที่เรียกว่าคอย จะเป็นตัวช่วยทำให้สุนัขอยู่กับที่ในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณอาจจะใช้คำสั่งว่า “นิ่ง” หรือ “คอย” รวมไปถึง “รอ” ได้ทั้งหมด แต่ทุกครั้งที่สั่งควรเป็นคำสั่งเดียวกันเท่านั้นเพื่อไม่ทำให้เกิดความสับสน เริ่มต้นจากการจับให้สุนัขนั่งลงด้านข้างของขาคุณและให้ตัวของสุนัขแนบติดกับขาคุณ วิธีการนี้คุณอาจจะใช้เป็นเชือก แบบพยุงตัวหรือผูกที่ปลอกคอสุนัขเพื่อทำให้วิธีฝึกสุนัขง่ายขึ้น ให้คุณก้าวขาไปข้างหน้า 1 ก้าวแล้วหันมามองที่สุนัข พร้อมยื่นมือไปข้างหน้า จากนั้นให้ใช้นิ้วของคุณชี้ไปที่ช่วงจมูกของสุนัขแล้วสั่งสุนัขว่า “นิ่ง” “คอย” หรือ “รอ” ให้เลือกมาเพียงแค่ 1 คำสั่ง
ถ้าสุนัขยังไม่สามารถทำตามได้ให้คุณกระตุกที่เชือกเพื่อให้กลับมาท่านั่ง จากนั้นให้คุณใช้วิธีการฝึกแบบเดิมแต่ใช้คำสั่งที่เสียงหนักแน่นมากขึ้นและให้วนทำคำสั่งนี้ไปเรื่อยๆ 2-3 นาทีแล้วจึงค่อยเปลี่ยนไปฝึกท่าอื่นอีก 2-3 นาที และให้กลับมาฝึกท่านี้ต่อ เคล็ดลับคือถ้าคุณเดินออกจากตัวสุนัขแล้วสุนัขจะออกเดินตาม ไม่ยอมอยู่นิ่งตามคำสั่ง ให้คุณสะบัดเชือกที่ผูกกับปลอกคอสุนัขไว้ แล้วยื่นแขนของคุณโบกไปด้านข้างเพื่อเป็นการออกคำสั่งแบบเด็ดขาดว่าสุนัขไม่ควรเดินตามมาขณะที่เจ้าของเดินออกไป ส่วนเชือกที่ควรใช้ในวิธีฝึกสุนัขจะต้องมีความยาวประมาณ 25 ฟุต ไปจนถึง 30 ฟุต เริ่มจากการฝึกด้วยเชือกก่อนจะง่ายขึ้นและเมื่อเริ่มเรียนรู้จนถึงขั้นนิ่งได้แล้วสุนัขรออย่างไม่มีปัญหา ให้คุณถอดเชือกออกแล้วใช้วิธีการเป็นออกคำสั่งด้วยมือหรือคำสั่งเสียงแทน
การหยุด
การสั่งให้หยุดคือเมื่อใดที่สุนัขเริ่มมีอาการตื่นเต้นหรือวิตกกังวลใดๆ แล้วไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของตัวเองได้ เจ้าของจะต้องสั่งให้สุนัขหยุดอยู่กับที่ ซึ่งวิธีการนั้นจะคล้ายกับการฝึกให้อยู่นิ่งคือการใช้น้ำเสียงที่เข้มแข็งและการใช้เชือกติดกับปลอกคอเพื่อการกระตุกช่วงคอให้สุนัขทำตาม เมื่อใดที่สุนัขไม่ยอมนิ่งคุณจะต้องออกท่าทางด้วยการโบกมืออย่างเด็ดขาดเพื่อทำให้สุนัขหยุดพฤติกรรมทุกอย่างลงให้ได้
โดยคำสั่งนี้จะต้องใช้เชือกในการฝึกฝนด้วยเช่นกัน และเมื่อใดที่สุนัขเริ่มรู้แล้วว่าตัวเองจะต้องหยุดเวลาไหน ให้คุณเปลี่ยนและนำเชือกออกแล้วใช้เป็นเพียงแค่สัญญาณมือกับเสียงคำสั่ง “หยุด” แทน โดยสัญญาณมือนั้นให้ใช้วิธีการยกมือด้านใดด้านหนึ่งขึ้นมาตั้งฉากในลักษณะภาษากายให้หยุดแบบเดียวกับที่มนุษย์ใช้กัน เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถหยุดทุกพฤติกรรมของสุนัขลงได้
การเก็บของ
การเก็บของเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ทำให้สุนัขมีความสนุก และถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีฝึกสุนัขที่ค่อนข้างทำได้ง่ายด้วยเช่นกัน เพราะเพียงแค่คุณโยนสิ่งของไปแล้วให้สุนัขวิ่งไปเก็บกลับมา รวมถึงการนำสิ่งของที่สุนัขสนใจไปซ่อนไว้ตามจุดต่างๆ แล้วให้สุนัขได้ค้นหา เริ่มต้นด้วยการนำสิ่งของที่สุนัขต้องหามาให้สุนัขดมก่อน จากนั้นออกคำสั่ง “หาของ” แล้วชี้ไปตามจุดต่างๆ ที่สุนัขควรวิ่งไปหา ควรจะต้องมีการฝึกซ้ำหลายครั้งและของที่สุนัขต้องหาในเริ่มแรก ควรเป็นสิ่งของที่สุนัขถูกใจเช่นหรือขนมของเล่น เป็นต้น
การเรียกให้มาหา
การเริ่มต้นใช้คำสั่งเรียกให้มา คุณสามารถเริ่มฝึกกับสุนัขได้ตั้งแต่ในช่วงวัยเด็กและถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ค่อนข้างฝึกง่าย เพราะสุนัขส่วนใหญ่มักจะรู้คำสั่งนี้จากเจ้าของมาตั้งแต่ช่วงวัยเด็ก แต่ถ้าคุณต้องการฝึกให้แม่นยำมากขึ้นให้ใช้เชือกติดกับปลอกคอหรือเป็นเชือกที่พยุงตัวสุนัขไว้ จากนั้นให้คุณใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนมากกว่าคำสั่งอื่นๆ พร้อมกับดึงเชือกเพื่อทำให้สุนัขเข้าหาตัวคุณ
โดยให้ดึงเชือกเข้าหาตัวคุณควรทำแบบเบาๆ เป็นการค่อยๆ ดึงให้สุนัขเดินเข้าหาตัวของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิธีการนำขนมที่สุนัขชื่นชอบมาหลอกล่อ โดยที่คุณจะต้องออกคำสั่งเสียงว่า “มานี่” พร้อมกับเรียกชื่อของสุนัขตามไปด้วยหรืออาจจะใช้เป็นคำสั่งมือด้วยการโบกมือเข้าหาตัวคุณ เป็นลักษณะของการเรียกพร้อมกับใช้คำสั่งเสียงร่วมด้วย ฝึกฝนให้บ่อยครั้ง ไม่นานนักสุนัขจะวิ่งเข้าหาตัวคุณทันทีเมื่อเห็นสัญญาณมือและได้ยินคำสั่ง
ทริคเล็กน้อยที่สามารถช่วยในการฝึกสุนัข
ข้อควรทำในวิธีการฝึกที่คุณสามารถนำไปใช้ร่วมกับวิธีฝึกสุนัขได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้สุนัขทำตามคุณได้เร็วขึ้น คือ การเลือกใช้ขนมที่สุนัขชื่นชอบและเมื่อทำได้สำเร็จ ให้คุณลูบไปที่ตัวสุนัขเบาๆ พร้อมกับให้คำชมเพื่อเป็นการทำให้สุนัขรู้สึกดีและอยากทำตาม แต่ถ้าเมื่อใดที่ทำผิดควรต้องทำเสียงให้เข้มขึ้นและฝึกให้บ่อยครั้ง แต่ให้ละเว้นการแสดงอารมณ์โมโห โกรธ หรือการทำร้ายใดๆ เพราะจะยิ่งทำให้สุนัขรู้สึกต่อต้านและรู้สึกกลัวจนไม่อยากทำอีกนั่นเอง
อ่านสาระน้องหมาอื่น ๆ;
- อยากได้สุนัขเฝ้าบ้านแต่ไม่รู้จะเลือกพันธุ์ไหนดี 5 สายพันธุ์นี้เลย
- รวมมิตรยอดฮิต แมวขนสั้น ที่คนไทยชอบเลี้ยง
- เพมโบรก เวลช์ คอร์กี้ (Pembroke Welsh corgi) มีความเป็นมาอย่างไร มาดูกัน!
- น้องไซบีเรียนฮัสกี้เป็นโรคซึมเศร้าอยู่หรือเปล่า สังเกตได้จากอาการต่อไปนี้
- รวมวิธีการดูแลสุนัข ที่คนอยากเลี้ยงต้องศึกษาไว้ !!