เป็นที่ทราบกันดีว่าบนโลกนี้มีแมวอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ที่กระจายอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ รวมทั้งสัตว์ตระกูลแมวอีกมากมายนับไม่ถ้วน แต่สำหรับแมวเลี้ยงอันเป็นที่นิยมของบรรดาทาสแมวทั้งหลายนั้น สามารถแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ ๆ คือแมวขนยาว และแมวขนสั้น ซึ่งทั้งสองสายพันธุ์ต่างก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แต่ในวันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับแมวขนสั้นที่คนไทยนิยมเลี้ยงกันมากขึ้น เนื่องเพราะแมวสายพันธุ์นี้อาจมีแง่มุมบางอย่างที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ทาสแมวทั้งหลาย พร้อมแล้วตามมาดูกันเลย
แมวขนสั้น คืออะไร โดดเด่นอย่างไร
แมวขนสั้น (shortened-hair cat) เป็นแมวที่ลำตัวปกคลุมด้วยเส้นขนาดสั้น ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ดูฟูฟ่องหรือยุ่งเหยิงเหมือนกับแมวขนยาว ปกติแล้วแมวขนสั้นจะผลัดขนประมาณปีละ 2 ครั้ง การผลัดขนแต่ละครั้งจะไม่มีขนหลุดร่วงมากเท่ากับแมวขนยาว นอกจากนั้น แมวขนสั้นยังขึ้นชื่อว่าดูแลง่ายมากกว่าแมวขนยาว เนื่องจากไม่จำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่เรื่องเส้นขนมากเท่ากับแมวขนยาวที่เจ้าของควรมีเวลาสำหรับการแปลงขนเป็นประจำ ตลอดจนการทำความสะอาดแมวขนสั้นยังทำได้ง่ายกว่า
เนื่องจากปกติแมวขนสั้นเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างดูแลตัวเองอยู่พอสมควรแล้ว เจ้าของเพียงแค่หมั่นทำความสะอาดด้วยการอาบน้ำ และใช้แปรงสำหรับแมวขนสั้นแปรงให้เจ้าเหมียวเป็นครั้งคราวก็เพียงพอแล้วสำหรับการรักษาสุขภาพขนของแมวประเภทนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ในด้านของโรคภัยไข้เจ็บ นักวิทยาศาสตร์พบว่าแมวขนสั้นมีโอกาสเกิดโรคก้อนขน (Hair Balls) ได้น้อยกว่าแมวขนยาว เนื่องจากปริมาณขนที่ติดลิ้นเวลาที่แมวเลียเพื่อทำความสะอาดตัวเองนั้นมีโอกาสหล่นลงไปในกระเพาะอาหารจนสะสมเป็นก้อนใหญ่ได้น้อยกว่าแมวขนยาวนั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงนิยมเลี้ยงแมวขนสั้นมากกว่าแมวขนยาว เนื่องจากช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น แมวขนสั้นยังเป็นแมวประเภทที่ทำความสะอาดง่าย มีความเสี่ยงต่อโรคภัยต่าง ๆ ได้น้อยกว่าแมวขนยาว และที่สำคัญสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ปรับตัวได้ดี รวมทั้งมีนิสัยที่น่าเริง กระตือรือร้น ชอบออกเดินทางไปสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ไม่เซื่องซึมหรือห่วงสวยมากเท่ากับแมวขนยาว ตลอดจน แมวขนสั้นส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่ มีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแกร่ง สามารถปีนป่ายได้อย่างคล่องแคล่ว ดวงตาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะแมวขนสั้นพันธุ์อเมริกันชอร์ตแฮร์ที่คนนิยมเลี้ยงไว้จับหนู แมวขนสั้นจึงมีลักษณะของนักล่าและสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากกว่าแมวขนยาว ที่มักใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการนอนพักผ่อนและออดอ้อนเจ้าของ
วิธีเลี้ยงดูแมวขนสั้น
แมวขนสั้นนั้นจัดว่าเป็นแมวที่เลี้ยงค่อนข้างง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการดูแลมาก เนื่องจากเป็นแมวที่มีความแข็งแกร่ง สามารถดูแลตนเองได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีสิ่งที่เจ้าของแมวขนสั้นควรที่จะต้องคำนึงและให้ความใส่ใจเกี่ยวกับแมวของคุณ ดังนี้
1.ระมัดระวังเรื่องเชื้อรา
แมวขนสั้นจะแตกต่างจากแมวขนยาวตรงที่ไม่ค่อยป่วยเป็นโรคอะไรง่าย ๆ แต่ก็มีอยู่ 2 โรคที่แมวขนสั้นมักจะป่วยเป็นประจำ ได้แก่ โรคเชื้อราและไข้หวัด แมวขนสั้นป่วยเป็นโรคไข้หวัดง่ายก็เพราะว่าเส้นขนที่สั้นอาจจะไม่เพียงพอต่อการสร้างความอบอุ่นให้ในยามที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เปรียบได้กับการห่มผ้าห่มผืนบาง ๆ ในฤดูหนาวนั่นเอง นอกจากนั้น แมวขนสั้นยังมีปัญหาอีกประการหนึ่งที่พบได้บ่อยนั่นคือ ปัญหาเชื้อรานั่นเอง ซึ่งคุณอาจจะเลือกตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการหมั่นดูแลรักษาความสะอาดให้กับน้องแมว ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำให้อย่างสม่ำเสมอ การนำผ้าขี้ริ้วหรือตะกร้าที่เขาใช้นอนหลับไปพึ่งแดดเพื่อป้องกันการอับชื้น รวมถึงการดูแลรักษาความสะอาดสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่คุณอยู่อาศัยด้วยเช่นกัน เพราะว่าบางมุมในบ้านอาจเป็นแหล่งอับชื้นหรือเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคหรือแบคทีเรียซึ่งอาจทำร้ายแมวซึ่งมีภูมิต้านทานที่ต่ำกว่ามนุษย์ได้
2.การดูแลเส้นขน
สำหรับแมวขนสั้นนั้น คุณไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการดูแลเส้นขนของเขามาก เพียงแค่ใช้แปรงที่ออกแบบมาสำหรับแมวขนสั้นโดยเฉพาะแปรงขนให้เขา ประมาณ 1 – 2 ครั้ง/สัปดาห์ก็นับว่าเพียงพอต่อการดูแลเส้นขนของเขาแล้ว เพราะแมวขนสั้นเป็นแมวที่ค่อนข้างใส่ใจในเรื่องความสะอาด เขาจะพยายามทำความสะอาดตนเองอยู่เสมอ เว้นก็แต่ในช่วงเวลาผลัดขนที่ทำให้ขนของเขาร่วง ช่วงนั้นคุณอาจจะต้องเพิ่มการเอาใจใส่ดูแลมากกว่าปกตินิดหนึ่งซึ่งแมวขนสั้นนั้นจะมีช่วงเวลาในการผลัดขนเพียงแค่ 2 ครั้ง/ปีเท่านั้นเอง
3.การดูแลเรื่องการขับถ่าย
เช่นเดียวกับแมวชนิดอื่น ๆ การดูแลแมวขนสั้นให้รู้จักการขับถ่ายให้เป็นระเบียบก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่มีความสำคัญ โดยเจ้าของอาจจะวางกระบะทรายไว้ในมุมหนึ่งมุมใดของบ้านให้เป็นนิสัย จากนั้นก็คอยเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเจ้าเหมียวว่าเขาจะยอมใช้กระบะทรายหรือไม่ หากไม่ค่อยยอมใช้ก็เป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องพาเขาไปขับถ่ายลงบนกระบะทรายจนเคยชิน ซึ่งการทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลาย ๆ ครั้งจะช่วยให้น้องแมวเกิดกระบวนการเรียนรู้และสามารถขับถ่ายได้เป็นที่เป็นทางนั่นเอง
4.การฉีดวัคซีนป้องกันโรค
การดูแลน้องแมวที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการหมั่นพาเขาไปตรวจสุขภาพประจำปีควบคู่ไปกับการรับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคภัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนป้องกันหัดแมว ลูคีเมีย และโรคพิษสุนัขบ้าซึ่งเป็นวัคซีนที่มีความสำคัญและต้องได้รับติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปีจึงจะสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของน้องแมวให้ดี ๆ ว่ามีช่วงไหนที่ดูเซื่องซึม กินน้อยลง หรือมีอาการอะไรผิดปกติหรือไม่ เพื่อที่จะสามารถพาไปให้สัตวแพทย์วินิจฉัยอาการได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม;
กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก ทำยังไงดีเมื่อน้อง แมวมีกลิ่นปาก ผิดปกติ
คนรักแมวต้องรู้ โรค fip ภัยร้ายลูกรักของคุณ
การเลี้ยงแมวเปอร์เซีย ควรเตรียมตัวอย่างไรใน
ดีใจด้วย! คุณกำลังมีหลาน!! สัญญาณบอกเหตุน้อง แมวท้อง
แมวขนสั้น ยอดนิยมที่คนไทยชอบเลี้ยง
นอกจากจะได้รับความนิยมไปทั่วโลก แมวขนสั้นยังเป็นหนึ่งในประเภทแมวที่คนไทยโปรดปราน เนื่องจากเลี้ยงดูง่าย มีความคล่องแคล่งว่องไว สามารถใช้ประโยชน์ได้มากมายหลายประการ โดยเฉพาะแมวขนสั้นจำนวน 5 สายพันธุ์ดังต่อไปนี้
13 สายพันธุ์น้องแมวที่ทำตัวหยั่งกับน้องหมา!
1.แมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ (American Short Hair cat)
แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นแมวขนสั้น แมวชนิดนี้นั้นโดดเด่นด้วยรูปร่างที่ค่อนข้างใหญ่ มีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง คล่องแคล่วว่องไว สีสันของแมวชนิดนี้ที่ได้รับความนิยมที่สุดคือสี Silver Tabby หรือสีเทาที่มีลายสีดำพาดผ่านแลดูคล้ายกับเสือสีเทายังไงยังงั้น ลักษณะนิสัยของแมวชนิดนี้มีความกระตือรือร้นสูง ไม่ชอบอยู่นิ่ง และมีความเป็นมิตรกับทุกคน รวมทั้งเด็กๆ
2. แมวสยามมีส (Siamese Cat) หรือ แมววิเชียรมาศ
นี่คือหนึ่งในแมวขนสั้นสายพันธุ์ไทยที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองไทยมาอย่างยาวนาน แมวพันธุ์นี้มีรูปร่างปานกลางค่อนไปทางเล็ก ขายาวเรียวได้สัดส่วน มีลักษณะที่โดดเด่นคือเป็นแมวที่เลี้ยงง่าย ฉลาดเฉลียว สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ชอบอยู่นิ่ง รักอิสระ ชอบเดินทางออกไปนอกบ้าน แต่ที่สำคัญที่สุดคือเป็นแมวที่รักเจ้าของมาก ขี้ประจบประแจงมากทีเดียว
3.แมวอะบิสซิเนียน (Abyssinian cat)
หากคุณเคยดูภาพยนตร์เรื่อง The Mummy และเห็นแมวในอียิปต์โบราณ นั่นคือบรรพบุรุษของแมวอะบิสซิเนียน แมวสายพันธุ์นี้มีความปราดเปรียวสูง เคลื่อนที่เร็วเนื่องจากมีลำตัวที่เล็กเพรียว หางยาว หูแหลม สีที่พบบ่อยคือสีเหลืองและเขียว แมวสายพันธุ์นี้ซุกซนมาก ชอบเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ หากเลี้ยงไว้ที่บ้านต้องดูแลพอควร เพราะอาจจะหนีไปเที่ยวที่อื่น
4.แมวราเชินบลู (Russian Blue)
บรรพบุรุษของแมวชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดจากประเทศรัสเซียก่อนที่จะผสมพันธุ์กับแมวสายพันธุ์อื่นในเกาะอังกฤษจนกลายเป็นแมวรราเชินบลูในปัจจุบัน แมวสายพันธุ์นี้มีลำตัวที่ปานกลางค่อนไปทางเล็ก ลำตัวปกคลุมด้วยขนสีฟ้าปนเงิน มีความเฉลียวฉลาดและรักอิสระเป็นอย่างมาก
5.แมวโคราช (Korat)
แมวสายพันธุ์ไทยที่มีถิ่นกำเนิดอยู่บริเวณจังหวัดนครราชสีมา ชื่อพันธุ์ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 2 แมวสายพันธุ์นี้เพศผู้มีขนปกคลุมสีเทาคล้าย ๆ กับสีของเส้นผมคนชราจึงเรียกติดปากกันว่าแมวสีดอกเลา นอกจากนั้น แมวโคราชยังเป็นแมวที่เชื่อว่ากันนำโชคลาภมาให้เจ้าของ และเป็นที่ต้องการตัวเป็นอย่างมากจากชาวต่างประเทศที่ต้องการแมวสายพันธุ์นี้จากประเทศไทยไปเพาะเลี้ยงเพื่อจำหน่าย จึงนับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อเศรษฐกิจประเภทหนึ่ง
แมวขนสั้นนั้นเป็นแมวประเภทหนึ่งที่เลี้ยงง่าย เจ้าของไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากมายในการดูแล เนื่องจากแมวสายพันธุ์นี้ส่วนใหญ่รักอิสระ มีร่างกายที่แข็งแรง และสามารถดำรงอยู่ได้ด้วยตนเอง เหมาะกับผู้เลี้ยงที่ไม่มีเวลาประคบประหงมมากนัก ซึ่งหากคุณสนใจอยากเลี้ยงแมวขนสั้น 5 สายพันธุ์ยอดนิยมที่บทความนี้ได้แนะนำก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
อ่านสาระสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ เพิ่มเติม;
รักษาอย่างไรดีเมื่อน้อง กระต่ายขนร่วง เรามีคำแนะนำมาฝาก
หญิงหรือชาย? มาดู วิธีดูเพศกระต่าย มืออาชีพเขาดูกันยังไง?
สุนัขสายพันธุ์ยอดนิยม ดูแลง่าย แถมยังทนความร้อนได้ดี !
คนรักหมาต้องรู้ วิธีอาบน้ำหมา อาบอย่างไรให้น้องมีสุขภาพขนและผิวหนังที่ดี